พายุ'300ปีจะมีสักครั้ง' เล่นงานภาคใต้ของไทย ก่อน้ำท่วมสูงกว่า 2.5 เมตรในอำเภดหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ทำให้ดินแดนแห่งนี้กลายเป็นเมืองบาดาล บ้านเรือนและท้องถนนจมอยู่ใต้น้ำ ตัดขาดการเข้าถึงหอผู้ป่วยหลังคลอดที่มีทารกแรกเกิดอยู่ภายในราวๆ 30 คน ตามรายงานของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นของสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร(25พ.ย.)
รายงานของซีเอ็นเอ็นอ้างข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขของไทย ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 19 รายทั่วภายใต้ของไทย ส่วนใหญ่แล้วมีต้นตอจากการถูกไฟฟ้าดูดและอุบัติเหตุต่างๆที่เกี่ยวข้องกับน้ำท่วม
เจ้าหน้าที่บอกกับซีเอ็นเอ็นว่าเมืองหาดใหญ่ ศูนย์กลางการขนส่งและการค้าในจังหวัดสงขลา เผชิญกับฝนที่ตกลงมาหนักที่สุดเท่าที่เคยพบเห็นมา โดยถือเป็น "ฝนที่ตกลงมาหนักที่สุดใน 300 ปี" ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างอิงกรมชลประทานของไทย พร้อมระบุเจ้าหน้าที่บอกว่า ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าพายุฝนลักษณะนี้เกิดขึ้นนานๆครั้งแค่ไหน และบางทีอาจเกิดขึ้นสักครั้งในทุกๆ 300 ปี"
ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ระบุว่าจนถึงวันจันทร์(24พ.ย.) 9 จังหวัดทั่วภาคใต้ของไทยยังคงถูกน้ำท่วม ส่งผลกระทบกับชาวบ้านมากกว่า 127,000 ครัวเรือน บางพื้นที่มีประมาณฝนสะสมได้เกือบ 400 มิลลิเมตร ซ้ำเติมด้วยน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมฉับพลัน
รายงานของซีเอ็นเอ็น ระบุว่าในหาดใหญ่ กระแสน้ำหลากมีความลึกสุด 2.5 เมตร ไหลบ่าเข้าท่วมเมืองและทำบ้านเรือนประชาชนจมอยู่ใต้บาดาล ภาพถ่ายจากในตัวเมือง พบเห็นถนนแทบทุกสายจมอยู่ใต้น้ำ และบ้านเรือนจมอยู่ใต้น้ำกว่าครึ่ง และเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินกำลังล่องเรือเข้าช่วยประชาชนและส่งมอบเสบียง
พวกเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลหาดใหญ่ให้คำจำกัดความว่าเป็นสถานการณ์ที่บ้าคลั่งอย่างมากในวันอังคาร(25พ.ย.) หลังถูกตัดขาดจากน้ำประปาและไฟฟ้าบางส่วน มาตั้งแต่ตอนเย็นวันจันทร์(24พ.ย.)
ฟาซียา ฟาตอนี พยาบาลประจำโรงพยาบาล เปิดเผยด้วยความกังวลว่า มีทารกแรกเกิดประมาณ 30 รายติดอยู่ในหอผู้ป่วยโดยที่พ่อแม่ไม่สามารถเดินทางมาหาได้ เนื่องจากระดับน้ำที่สูงจนตัดขาดการคมนาคมทุกเส้นทาง
ปัตติยา ร่วมสุข พยาบาลอีกคน แสดงความกังวลเกี่ยวกับระดับน้ำที่สูงขึ้นเรื่อยๆ "เมื่อวานนี้ น้ำเข้ามาแค่ชั้น 1 แต่ตอนนี้มันระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นสู่ชั้น 2 แล้ว" เธอบอกกับซีเอ็นเอ็น พร้อมเผยว่ามีประชาชนราว 500 คน อยู่ในโรงพยาบาลจนถึงวันอังคาร(25พ.ย.) ในนั้น 200 คน เป็นผู้ป่วยใน และเรียกร้องพวกเจ้าหน้าที่ช่วยส่งน้ำดื่มให้แก่ผู้คนที่ติดค้าง
ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า กรมชลประทานของไทย เปิดเผยในวันจันทร์(24พ.ย.) ว่ากำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ในการตอบสนองต่ออุทกภัยระดับภูมิภาค ในนั้นรวมถึงส่งรถบรรทุกป้อนเสบียงและอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง
นอกจากนี้แล้วซีเอ็นเอ็นระบุต่อว่าพวกเขายังกำลังทำงานหาทางลดระดับน้ำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในนั้นรวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำหลายสิบเครื่องและใบพัด เพื่อเบี่ยงกระแสน้ำไปยังทะเลสาบสงขลาและอ่าวไทย
"เมื่อฝนหยุดลง คาดหมายว่าอุทกภัยในจังหวัดต่งๆทางภาคใต้ของประเทศ จะคลี่คลายตามลำดับ แต่เจ้าหน้าที่จะยังคงระแวดระวังเป็นพิเศษสำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำ" ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างคำกล่าวของกรมชลประทาน
อ้างอิงรายงานของรอยเตอร์ ฝนที่ตกลงมาทั้งวันทั้งคืนยังส่งผลกระทบต่อบรรดาประเทศเพื่อนบ้านของไทยเช่นกัน โดยในมาเลเซีย มีประชาชนต้องเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงต่างๆมากกว่า 15,000 แห่ง แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
ขณะเดียวกัน ในภาคกลางของเวียดนาม น้ำท่วมและดินถล่ม ได้สังหารชีวิตชาวบ้านไปกว่า 91 รายในสัปดาห์ที่แล้ว บ้านเรือประชาชนและธุรกิจรวมแล้วกว่า 1.1 หลัง ต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ แม้ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้วในวันจันทร์(24พ.ย.) ตามรายงานของรอยเตอร์
(ที่มา:ซีเอ็นเอ็น)


