เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – รัฐมนตรีต่างประเทศ สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ให้สัมภาษณ์กับสื่อยุโรปในการประชุมข้างเคียง EU-อินโดแปซิฟิกที่กรุงบรัสเซลส์ เดินหน้าการทูตเชิงรุกเรียกร้องให้ สหภาพยุโรปเข้ามาเพื่อนำความสมดุลกลับคืนสู่ภูมิภาคที่กลายเป็นจุดร้อนการเมืองเชิงภูมิศาสตร์โลกท่ามกลางการสยายปีกของปักกิ่งเพิ่มส่วนวอชิงตันซ้ำเติมด้วยการตั้งกำแพงภาษีและนโยบายกีดกันทางการค้า
ยูโรนิวส์รายงานวันเสาร์(22 พ.ย)ว่า การประชุม EU-อินโดแปซิฟิกระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 4 (the fourth EU–Indo-Pacific Ministerial Forum) เกิดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม ระหว่างวันที่ 20 พ.ย – วันที่ 21 พ.ย ผู้แทนไทยเปิดใจในการประชุมข้างเคียงว่า ความสัมพันธ์ที่มากขึ้นระหว่าง 2 ภูมิภาคนั้นเป็นสิ่งสำคัญและการปรากฏตัวของ EU ในภูมิภาคเป็นการถ่วงดุลอำนาจระหว่างสหรัฐฯและจีนที่กำลังแข่งขันทั้งสงครามการค้าและการแผ่อิทธิพล
รัฐมนตรีต่างประเทศ สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ให้สัมภาษณ์ยูโรนิวส์ว่า การเจรจาการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรปนั้น “มีความก้าวหน้าไปมาก” และตั้งความหวังว่าในปีหน้าจะสามารถประสบความสำเร็จการบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีไทย-EU แต่ยอมรับถึงอุปสรรคที่ยังขวางอยู่อีกมากบนโต๊ะเจรจาทั้งการเข้าถึงตลาด ,การจัดซื้อของรัฐบาล ทรัพย์สินทางปัญญา, และมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน เป็นต้น
ท่านทูตกล่าวต่อว่าภาคเอกชนในประเทศสมาชิก EU มากมายต่างให้ความสนใจในโอกาสจากการที่จุดที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ของไทยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเสริมต่อว่า สิ่งนี้ส่งทำให้กลายเป็นเวทีเพื่อการลงทุนในภูมิภาค
ยูโรนิวส์ชี้ว่า อ้างอิงจากรัฐมนตรีต่างประเทศพบว่า ไทยในปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียวและเป็นดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งทำให้รัฐมนตรี สีหศักดิ์เชื่อว่า ฝ่ายสหภาพยุโรปมีสิ่งมากมายที่สามารถเสนอให้กับไทยและเหล่าประเทศสมาชิกอาเซียน
ในการให้สัมภาษณ์เขายังเปิดประเด็นว่า ไทยให้การสนับสนุนระเบียบโลกใหม่แบบ “โลกหลายขั้ว”จากแต่เดิมที่มีอเมริกาเป็นผู้คุมบังเหียนมหาอำนาจขั้วเดียว (Uni-polarity) และไทยแสวงหาความสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ไปกับทุกชาติมหาอำนาจ
และยังกล่าวถึงจีนโดยเจ้ากระทรวงบัวแก้วชี้ว่า จีนเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของไทยในขณะที่ความสัมพันธ์กับสหรัฐฯถูกมองว่ามีความจำเป็นต่อความมั่นคงของภูมิภาค และฝ่ายไทยแสดงความกังวลถึงยุทธศาสตร์ของวอชิงตันภายใต้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ใช้กำแพงภาษีเพิ่มมากขึ้น
“พวกเราวิตกเช่นกัน คุณรู้ไหม ปัจจุบันนี้นโยบายด้านภาษีและมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ พวกเราไม่คิดว่าสิ่งนี้จะช่วยระบบการค้าแบบพหุภาคีได้”
และท่านทูตสีหศักดิ์ยังเปิดทางต่อยุโรปโดยชี้ว่า เขาต้อนรับต่อการเข้ามาข้องเกี่ยวมากขึ้นของสหภาพยุโรปทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และในด้านความมั่นคง โดยชี้ว่าจะเป็นเสมือนการทำให้เกิดความสมดุลมากขึ้นในภูมิภาค
ในตอนท้ายยังระบุว่านโยบายการต่างประเทศใหม่ของไทยนั้นจะสนับสนุนสันติภาพในภูมิภาคโดยชี้ไปถึงวิกฤตในเมียนมาที่ยังคงเกิดขึ้น การแก้ปัญหาความขัดแย้งกับกัมพูชาประเทศเพื่อนบ้าน สร้างความแข็งแกร่งต่อองค์กรอาเซียน และแก้ปัญหาความท้าทายระดับโลกเป็นต้นว่า การเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศโลก การลักลอบค้ามนุษย์ และความมั่นคงทางไซเบอร์
ยูโรนิวาส์รายงานว่า การประชุมประกอบไปด้วยผู้แทน 70 คนจากองค์กรต่างๆของ EU และประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป รวมไปถึงองค์กรระดับภูมิภาคอินโดแปซิฟิก นอกจากนี้ยังมาจาก 11 ชาติอาเซียนได้แก่ เมียนมา ไทย ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมพูชา สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ติมอร์ตะวันออกและบรูไน


