เอเจนซีส์/เอพี – ประธานาธิบดีแอฟริกาแถลงวันพฤหัสบดี(20 พ.ย)ว่า สหรัฐฯได้เปลี่ยนใจและติดต่อขอกลับมาร่วมการประชุม G20 ที่จัดขึ้นโดยแอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพหลังประกาศแบนก่อนหน้าแต่ไม่ยืนยันว่าผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จะบินมาร่วมด้วยตัวเอง รวมไปถึงไร้เงาผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ส่วนปักกิ่งส่งนายกรัฐมนตรีจีน หลี่เฉียง มาแทน ท่ามกลางความปลอดภัยเข้มเพิ่มตำรวจ 3,500 รับมือผู้ประท้วง
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันนี้(20 พ.ย)ว่า ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ซีริล รามาโฟซา (Cyril Ramaphosa) แถลงร่วมกับประธานคณะกรรมาธิการยุโรป อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) และประธานสภายุโรป อันโตนิโอ คอสตา (António Costa) ในวันพฤหัสบดี(20)ที่งานแถลงข่าวว่า
“พวกเราได้รับแจ้งจากสหรัฐฯ การแจ้งที่พวกเรายังคงอยู่ระหว่างการหารือกับพวกเขาต่อการเปลี่ยนใจถึงการเข้าร่วมในลักษณะหนึ่ง รูปแบบ หรืออื่นในการประชุม”
และกล่าวต่อว่า “เป็นการแจ้งในชั่วโมงท้ายก่อนการประชุมซัมมิตจะเริ่มดังนั้นพวกเราจำเป็นต้อง..มองว่ามันจะเป็นได้จริงอย่างไรและในสุดท้ายหมายความว่าเช่นไร” ผู้นำแอฟริกาใต้เสริมว่า ทางพวกเขามองว่าเป็นสัญญาณแง่บวกและย้ำจุดยืนตัวเองว่า การบอยคอตทางการเมืองไม่มีวันได้ผล
ก่อนหน้าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เคยประกาศบอยคอตการประชุม G20 ที่แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพโดยเขาได้กล่าวหาพริทอเรียว่า รัฐบาลของรามาโฟซามีนโยบายต่อต้านผิวขาวและปฎิบัติอย่างเลวร้ายต่อชนกลุ่มน้อยแอฟริกาใต้ที่เป็นผิวขาว
เอบีซีนิวส์ของสหรัฐฯรายงานว่า ในการบอยคอตพบว่า รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ เมื่อต้นปีไม่ยอมเดินทางเข้าร่วมการประชุมกลุ่ม G20ระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ และตามมาด้วยรัฐมนตรีการคลังสหรัฐฯ สกอตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) ที่พลาดการประชุมระดับรัฐมนตรีการคลังเช่นกัน และสหรัฐฯยังเป็นโต้โผออกมาเรียกร้องบรรดาชาติสมาชิกไม่ให้รับปฎิญญาผู้นำG20 ในตอนท้ายของการประชุมที่ถูกมองเป็นเสมือนการลงฉันทามติพหุภาคี
สื่อสหรัฐฯรายงานว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน จะไม่เดินทางมาร่วมการประชุมที่โจฮันเนสเบิร์กเนื่องมาจากหมายจับศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC ในสงครามยูเครน และประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ที่น้อยครั้งจะเดินทางไปต่างประเทศในปีนี้ได้ตัดสินใจส่งนายกรัฐมนตรีจีน หลี่เฉียง มาแทน
เดอะการ์เดียนรายงานต่อว่า โฆษกกระทรวงต่างประเทศแอฟริกาใต้เมื่อช่วงต้นของวันพฤหัสบดี(20)ได้ออกมากล่าวหาว่า อเมริกาพยายามบีบพริทอเรียหลังสื่อรายงานว่า สารทางการทูตของสหรัฐฯส่งมายังแอฟริกาใต้ระบุว่า “การไม่เข้าร่วมของวอชิงตันนั้นเป็นแง่ลบต่อบทบาทของตัวเองที่มีต่อการปิดของการประชุม G20”
และแถลงการณ์ชี้ว่า “แต่พวกเราไม่สามารถปล่อยให้การบีบบังคับโดยผู้ที่ไม่เข้าร่วมกลายเป็นวิธีการที่ประสบความสำเร็จซึ่งมันเป็นเสมือนใบเสร็จต่อการเป็นอัมพาตทางสถาบันและการล่มสลายของมาตรการปฎิบัติร่วม”
โดยสารจากสถานทูตสหรัฐฯในกรุงพริทอเรียส่งออกมาเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วกล่าวว่า สหรัฐฯจะยอมรับเฉพาะสารของประธานมากกว่าปฎิญญาผู้นำกลุ่ม G20 อ้างอิงจากเอเอฟพี ที่หมายความว่า อเมริกาไม่ต้องการให้มีการออกปฎิญญาผู้นำกลุ่ม G20 โดนปราศจากการมีส่วนร่วมของวอชิงตัน
อ้างอิงจากเอพีพบว่า การประชุม G20 ที่เมืองโจฮันเนสเบิร์กจะเริ่มขึ้นในวันเสาร์(21)และจะมีระยะเวลา 2 วันซึ่งคาดว่าจะมีผู้นำชาติต่างๆและนักการทูตกว่า 40 ประเทศเข้าร่วม รวมไปถึงองค์กรระหว่างประเทศเป็นต้นว่า สหประชาชาติ ธนาคารโลก สถาบัน IMF รวมถึงองค์การค้าโลก WTO
รัฐบาลแอฟริกาใต้เพิ่มกำลังตำรวจ 3,500 นายมาอารักขาความปลอดภัยที่ประชุมและสั่งให้กองทัพเตรียมความพร้อมภายใต้ปฎิบัติการร่วมแห่งชาติและหน่วยข่าวกรองแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จะนำตำรวจ ทหารและหน่วยข่าวกรองทำงานร่วมกันภายใต้กองบัญชาการในการให้ความปลอดภัยขั้นสูงสุดการประชุม G20 นี้
ตำรวจแอฟริกาใต้และกำลังทหารเดินสวนสนามและมาพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์ ตำรวจสุนัขดมกลิ่น K-9 และเจ้าหน้าที่บนรถมอเตอร์ไซค์เพื่อแสดงกำลังความพร้อมเตรียมรับการประชุมที่คาดว่าจะมีกลุ่มผู้ประท้วงต่างๆตบเท้าเข้าร่วมเป็นต้นว่า กลุ่มต้านทุนนิยม กลุ่มสิทธิสตรี กลุ่มต่อต้านผู้อพยพและอื่นที่บางส่วนมาจากปัญหาในประเทศเองที่เป็นผลมาจากความยากจนและความไม่เท่าเทียม


