xs
xsm
sm
md
lg

เป็นทางการ! ญี่ปุ่นได้นายกฯหญิงคนแรก‘ซานาเอะ ทาคาอิจิ’ คาดฟื้นนโยบายกระตุ้นศก.แบบอาเบะโนมิกส์ แต่รบ.ฐานะไม่มั่นคง มีเสียงข้างน้อยในสภา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ของญี่ปุ่น (ที่2 จากซ้าย) ประทับยืนตรงหน้า ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น (ขวา) ขณะที่ อดีตนายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ (กลาง) ยืนอยู่ด้านข้าง ในพิธีแต่งตั้ง ทาคาอิจิ เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ณ พระราชวังอิมพีเรียล ในกรุงโตเกียว วันอังคาร (21 ต.ค.)
ซานาเอะ ทาคาอิจิ นักการเมืองสายอนุรักษนิยมขวาจัด ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่นเมื่อวันอังคาร (21 ต.ค.) คาดเตรียมฟื้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสไตล์ “อาเบะ” เพื่อชุบชีวิตเศรษฐกิจญี่ปุ่น ท่ามกลางความยากลำบากทางการเมืองเนื่องจากต้องจัดตั้งรัฐบาลผสมเสียงข้างน้อย ที่ควบคุมทั้งสองสภาไม่ได้

ทาคาอิจิ ที่แสดงความชื่นชอบทั้งอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น และมาร์กาเร็ต แธตเชอร์ อดีตผู้นำหญิงเหล็กของอังกฤษ ได้รับการคาดหมายว่า จะใช้แนวทางฝ่ายขวาในการจัดการกับปัญหาต่างๆ เช่น ผู้อพยพ และการทหาร อีกทั้งกลายเป็นผู้นำของประเทศใหญ่ในโลกตะวันตกคนล่าสุดที่ขานรับกระแสฝ่ายขวามาแรง ในกระแสการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทั่วโลก

ในการลงคะแนนของรัฐสภาซึ่งจัดขึ้นวันอังคาร (21) นักการเมืองหญิงที่ถูกมองอย่างกว้างขวางว่าไม่ได้เป็นพวกต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีแต่อย่างใดผู้นี้ ได้คะแนน 237 เสียง จาก 465 เสียงในสภาผู้แทนราษฎร และชนะการโหวตในสภาสูงด้วยสัดส่วนคะแนนใกล้ๆกัน เป็นที่คาดหมายกันว่า เธอจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 14 ในคืนวันเดียวกัน เพื่อรับหน้าที่สืบต่อจาก ชิเงรุ อิชิบะ ที่ประกาศลาออกเมื่อเดือนที่แล้ว ในการแสดงความรับผิดชอบย้อนหลังสำหรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งของพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ซึ่งครองเสียงข้างมากไม่ได้ทั้งในสภาล่างและสภาสูง

ชัยชนะครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากพรรคแอลดีพี สามารถทำความตกลงจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรคฝ่ายขวาที่มีแนวทางอนุรักษนิยมจัด อย่าง พรรคนวัตกรรมญี่ปุ่น (เจไอพี) หรือที่เรียกกันในชื่อย่อภาษาญี่ปุ่นว่า อิชิน เมื่อวันจันทร์ (20) ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ทั้งสองพรรครวมกันแล้ว ก็ยังคงขาดเสียงอีก 2 เสียงสำหรับการครองเสียงข้างมากในสภาล่าง ซึ่งเป็นสภาที่มีอำนาจมากกว่า จึงหมายความว่า ความสำเร็จในการผลักดันนโยบายต่างๆ จะขึ้นอยู่กับความสามารถของทาคิอิจิ ในการโน้มน้าวหาความสนับสนุนจากพวกสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน

การรับตำแหน่งของทาคาอิจิ เกิดขึ้นขณะที่การเมืองญี่ปุ่นอยู่ในภาวะแตกแยกมากกว่าครั้งใดๆ ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเนื่องจากการแจ้งเกิดของพรรคขวาจัด ซันเซโตะ ที่แย่งชิงคะแนนเสียงจำนวนมากไปจากแอลดีพี

ขณะเดียวกัน พรรคโคเมโตะที่มีแนวทางสายกลางมากกว่า ได้ประกาศแยกทางกับแอลดีพีหลังร่วมหัวจมท้ายกันมา 26 ปี เนื่องจากไม่พอใจที่แอลดีพีเลือกทาคาอิจิที่เป็นนักการเมืองปีกขวาเป็นผู้นำใหม่ของพรรค รวมทั้งแอลดีพีซึ่งเป็นพรรคที่ได้จัดตั้งรัฐบาลแทบจะโดยตลอดนับแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา ยังไม่กระตือรือร้นแก้ไขความอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นเรื่องแล้วเรื่องเล่า

ถึงแม้ ระหว่างหาเสียง ทาคาอิจิให้สัญญาว่า จะเพิ่มจำนวนสมาชิกคณะรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิงให้ทัดเทียมประเทศแถบนอร์ดิกที่มีแนวทางเชิงรุกด้านสังคม โดยเปอร์เซ็นต์ของสมาชิกคณะรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิงในรัฐบาลประเทศแถบนอร์ดิกมีตั้งแต่ 36% ในเดนมาร์ก จนถึง 61% ในฟินแลนด์

อย่างไรก็ดี รายชื่อของคณะรัฐมนตรีที่ปรากฏออกมาโดยยังต้องรอการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งจากสมเด็จพระเจ้าจักรพรรดิ แสดงว่า ทาคาอิจิแต่งตั้งรัฐมนตรีหญิงเพียง 2 คนคือ ซัตสึกิ คาตายามะ ที่ชื่นชมแนวทางของอาเบะเหมือนกัน โดยได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีคลังหญิงคนแรกของญี่ปุ่น ขณะที่ คิมิ โอโนดะ รับตำแหน่งรัฐมนตรีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การมีรัฐมนตรีหญิงแค่ 2 คนเมื่อรวมกับตัวทาคาอิจิด้วย ก็หมายความว่ามีผู้หญิงในรัฐบาลชุดนี้แค่ 16%

สำหรับรัฐมนตรีคนอื่นๆ นั้น มีรายงานว่า ชินจิโร โคอิซูมิ นักการเมืองดาวรุ่งพุ่งแรง จะรับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม ขณะที่โทชิมิตสึ โมเตกิ สมาชิกเก่าแก่ของรัฐสภารับหน้าที่คุมกระทรวงการต่างประเทศ

ทาคาอิจิ ประกาศในวันจันทร์ (20 ต.ค.) ว่าจะทำให้เศรษฐกิจเข้มแข็งขึ้น และปรับโฉมญี่ปุ่นให้กลายเป็นประเทศที่สามารถรับผิดชอบผู้คนรุ่นต่อๆ ไปได้

อย่างไรก็ดี แม้การสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการทางการเงินและการคลัง ในสไตล์อาเบะ หรือ “อาเบะโนมิกส์” ได้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “ทาคาอิจิ เทรด” ในตลาดหุ้นโตเกียว นั่นคือ ดัชนีหุ้นนิกเกอิพุ่งพรวดทำสถิติสูงสุดอยู่หลายวัน เมื่อตอนที่เธอได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพีคนใหม่ รวมทั้งในวันอังคาร(21) ด้วย แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความสามารถของรัฐบาลในการอัดฉีดมาตรการกระตุ้น ขณะที่หนี้สาธารณะพุ่งโด่ง ผลลัพธ์คือ ค่าเงินเยนและราคาพันธบัตรกลับร่วงเป็นแถว

นักวิเคราะห์บางคนยังบอกว่า พรรคอิชินที่สนับสนุนการลดงบประมาณ อาจขวางแผนการใช้จ่ายบางอย่างของทาคาอิจิ

นอกจากนั้น ทาคาอิจิยังประกาศว่า การทหารและความมั่นคงของชาติจะเป็นเสาหลักของรัฐบาล และให้สัญญาเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหาร กระชับความสัมพันธ์กับอเมริกาและหุ้นส่วนด้านความมั่นคงอื่นๆ

ก่อนหน้านี้ ทาคาอิจิเคยบอกว่า ญี่ปุ่นถูกจีนดูหมิ่นอย่างรุนแรง และจะต้องจัดการภัยคุกคามด้านความมั่นคงจากปักกิ่ง รวมทั้งเรียกร้องให้ยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงกับไต้หวัน

ทว่า หลังจากนั้น ทาคาอิจิกลับผ่อนท่าทีลง และสัปดาห์ที่แล้วยังงดเว้นการไปสักการะศาลเจ้ายาสุกุนิเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้สละชีวิตในสงครามทั้งที่เคยทำมาตลอด

(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น