รอยเตอร์ – ข้อตกลงสันติภาพกาซาสะเทือน หลังอิสราเอลขู่ลดจำนวนรถบรรทุกความช่วยเหลือเข้าสู่กาซาเพื่อลงโทษที่ฮามาสละเมิดข้อตกลงส่งคืนร่างตัวประกันที่เสียชีวิต ขณะที่นักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้กลับเข้าควบคุมพื้นที่บางส่วนในกาซาและสังหารชาวบ้านที่ถูกกล่าวหาว่า สมคบคิดกับอิสราเอล ด้านทรัมป์ขู่ใช้กำลังขั้นเด็ดขาด ถ้าฮามาสไม่ยอมวางอาวุธ
อนาคตแผนสันติภาพในกาซามืดมนลงหลังจากเมื่อวันอังคาร (14 ต.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ใช้กำลังทหารอย่างรวดเร็วและรุนแรง ถ้าฮามาสไม่ยอมวางอาวุธ
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ยืนกรานว่า สงครามในกาซาจะไม่มีวันจบจนกว่าฮามาสจะยอมวางอาวุธและยุติการควบคุมกาซา ขณะที่นักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้ยืนกรานว่า จะวางอาวุธต่อเมื่อจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์แล้วเท่านั้น
เมื่อวันจันทร์ (13 ต.ค.) ทรัมป์เพิ่งประกาศ “การเริ่มต้นครั้งประวัติศาสตร์ของตะวันออกกลางยุคใหม่” ในรัฐสภาอิสราเอล ขณะที่อิสราเอลและฮามาสแลกเปลี่ยนตัวประกันอิสราเอลที่ยังมีชีวิตทั้ง 20 คน กับนักโทษและผู้ถูกควบคุมตัวชาวปาเลสไตน์เกือบ 2,000 คน
การส่งคืนร่างตัวประกันที่เสียชีวิต 28 คนยังคงเป็นหนึ่งในรายละเอียดสำคัญที่ต้องดำเนินการเพื่อยุติสงครามในกาซาที่ยืดเยื้อมากว่า 2 ปี โดยฮามาสได้ส่งคืนร่างตัวประกันที่เสียชีวิตเพียง 8 ราย ยังเหลืออีกอย่างน้อย 19 รายที่เชื่อว่า เสียชีวิตแล้วและสูญหายอีก 1 ราย
อย่างไรก็ดี ในวันอังคาร กองทัพอิสราเอลเผยว่า ได้รับโลงศพ 4 โลงจากกาชาดที่จุดนัดพบทางเหนือของกาซา และนำข้ามแดนกลับสู่อิสราเอลก่อนเที่ยงคืนเล็กน้อยเพื่อนำไประบุหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
ยังไม่มีความชัดเจนว่า การส่งมอบร่างตัวประกันเหล่านี้เพียงพอที่จะทำให้อิสราเอลยกเลิกคำสั่งลดจำนวนรถบรรทุกความช่วยเหลือที่อนุญาตให้เข้าสู่กาซาเหลือเพียงครึ่งเดียวที่มีผลนับจากวันพุธ (15 ต.ค.) รวมทั้งชะลอแผนเปิดจุดผ่านแดนทางใต้ของกาซาไปยังอียิปต์หรือไม่ โดยคำสั่งเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อลงโทษที่ฮามาสไม่ยอมส่งมอบร่างตัวประกันที่เสียชีวิตตามที่กำหนดในข้อตกลงหยุดยิง
นอกจากนั้น ฮามาสยังกลับเข้าควบคุมถนนหลายสายในกาซาหลังจากอิสราเอลถอนกำลังออกไปบางส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชาวกาซาเผยว่า พบเห็นนักรบฮามาสมากขึ้น โดยเฉพาะบนเส้นทางที่ขบวนรถบรรเทาทุกข์ต้องผ่าน
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงคนหนึ่งในกาซาเผยว่า นับจากข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ กองกำลังฮามาสได้สังหารสมาชิกแก๊ง 32 คนที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวหนึ่งในกาซาซิตี้ และเจ้าหน้าที่ความมั่นคง 6 คน
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของปาเลสไตน์หลายคนสำทับว่า ประชาชนหลายสิบคนเสียชีวิตระหว่างที่นักรบฮามาสปะทะกับศัตรูในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
นอกจากรบกับกองทัพอิสราเอลแล้ว ฮามาสยังเผชิญการท้าทายภายในกาซาจากกลุ่มติดอาวุธที่ขัดแย้งกันมานาน เช่น กลุ่มดักห์มุชในกาซาซิตี้
เมื่อต้นปี เนทันยาฮูเผยว่า อิสราเอลติดอาวุธให้กลุ่มต่างๆ ที่ต่อต้านฮามาส โดยไม่ระบุว่า เป็นกลุ่มใด ขณะที่เมื่อเดือนที่แล้ว เจ้าหน้าที่กาซาเผยว่า ได้ประหารชีวิตชาย 3 คนที่ถูกกล่าวหาว่า สมรู้ร่วมคิดกับอิสราเอล
อามิน ไซกัล นักวิชาการอาวุโสของราชารัตนัม สกูล ออฟ อินเตอร์เนชันแนล สตัดดีส์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางในสิงคโปร์ ชี้ว่า การต่อสู้ระหว่างฮามาสกับกลุ่มติดอาวุธอาจนำไปสู่สงครามกลางเมืองนองเลือดในกาซา
ไซกัลเสริมว่า หากทรัมป์ใช้กำลังกับฮามาสตามที่ขู่ กาซาอาจกลับเข้าสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ ทางเลือกที่ดีที่สุดคือ เพิ่มความกดดันเพื่อให้ฮามาสปฏิบัติตามเงื่อนไขในแผนสันติภาพ โดยที่กาตาร์ อียิปต์ และตุรกี ที่ร่วมลงนามกับทรัมป์ในเอกสารการหยุดยิงในกาซาที่อียิปต์เมื่อวันจันทร์ เหมาะสมที่สุดในการดำเนินการนี้
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกาซาเผยว่า อิสราเอลใช้โดรนสังหารชาวปาเลสไตน์ 5 คนขณะเข้าตรวจค้นบ้านหลายหลังบริเวณชานเมืองด้านตะวันออกของกาซาซิตี้ และการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในเมืองข่านยูนิสยังทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน
ฮามาสกล่าวหาอิสราเอลละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทว่า กองทัพอิสราเอลยืนยันว่า เป็นการป้องกันตัวเนื่องจากคนเหล่านั้นเพิกเฉยต่อการเตือนและข้ามเขตแดนการหยุดยิง รวมทั้งยังปรี่เข้าหาทหารอิสราเอล
แหล่งข่าวในฮามาสเผยว่า ฮามาสประกาศว่า จะไม่ยอมให้มีการฝ่าฝืนคำสั่งในกาซาอีกต่อไป โดยจะพุ่งเป้าจัดการผู้สมรู้ร่วมคิด กลุ่มโจรติดอาวุธ และผู้ค้ายาเสพติด