(เก็บความจากเอเชียไทมส์ https://asiatimes.com/2025/10/china-tightens-rules-to-block-pakistan-rare-earths-exports-to-us/)
China tightens rules to block Pakistan rare earths exports to US
by Jeff Pao
10/10/2025
ทางการจีนประกาศกฎระเบียบใหม่ระบุว่า จากนี้ไปพวกผู้ผลิตที่อยู่ในต่างประเทศจำเป็นต้องได้รับใบอนุญาตส่งออกจากรัฐบาลจีนเสียก่อน จึงจะได้พวกเทคโนโลยีถลุงแร่และเครื่องจักรอุปกรณ์แยกแร่ไปใช้งาน
An ion-exchange and solvent extraction system in China Photo: Zhengzhou Tiei Extraction Technology Co Ltd
จีนประกาศมาตรการใหม่ๆ ที่เป็นการจำกัดควบคุมการส่งออกพวกเทคโนโลยีของตนในการถลุงแร่แรร์เอิร์ธ หลังจากทราบว่าปากีสถานได้ใช้เครื่องจักรอุปกรณ์ของแดนมังกรในการผลิตโลหะสำคัญหายากเหล่านี้เพื่อจัดส่งไปให้สหรัฐฯ
ระเบียบกฎเกณฑ์ใหม่ๆ ที่แยกออกเป็นหลายฉบับ ซึ่งประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์ของจีนในวันพฤหัสบดี (9 ต.ค.) ที่ผ่านมา มีเนื้อหาครอบคลุม [1] ทั้งเรื่องการผลิตแร่แรร์เอิร์ธ, เครื่องจักรอุปกรณ์ในการแปรรูปและแยกแร่, ตลอดจนวัตถุดิบและวัสดุเพิ่มเติมสนับสนุนต่างๆ ทั้งนี้ พวกผู้ผลิตแรร์เอิร์ธในต่างประเทศ จะต้องยื่นขอใบอนุญาตส่งออกจากรัฐบาลจีน และเมื่อได้รับอนุมัติแล้วจึงจะได้พวกเทคโนโลยีถลุงแร่และเครื่องจักรอุปกรณ์แยกแร่ไปใช้งาน
ในวันเดียวกันนั้นเอง กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานศุลกากรจีน ยังเผยแพร่เอกสารที่เกี่ยวข้องอีก 4 ฉบับซึ่งมีเนื้อหาขยายการควบคุมการส่งออกให้ครอบคลุมวัสดุทางยุทธศาสตร์ต่างๆ เอกสารเหล่านี้ระบุว่า จีนจะ
**เพิ่มพวกผงเพชรสังเคราะห์ (synthetic diamond powders), ผลึกเดี่ยว (single crystals), เลื่อยลวดเพชร (diamond wire saws), และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เข้าไปในบัญชีผลิตภัณฑ์ที่จะถูกจำกัดควบคุมการส่งออก
**จัดตั้งระบบการออกใบอนุญาตต่างๆ สำหรับเทคโนโลยีและเครื่องจักรอุปกรณ์ในการแยกและถลุงแร่ร์เอิร์ธ
**ห้ามการส่งออกพวกแรร์เอิร์ธระดับกลางและระดับหนักบางชนิด ทั้งที่อยู่ในรูปโลหะ, อัลลอย, ออกไซด์, และสารประกอบ
**จำกัดการส่งออกส่วนประกอบต่างๆ ของแบตเตอรีลิเธียม และแบตเตอรีวัสดุกราไฟต์เทียม (artificial graphite materials)
เอกสารเหล่านี้กำหนดให้ ผู้ส่งออกต้องจำแนกแยกแยะรายการผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปใช้ได้ 2 ทาง (dual-use items นั่นคือนำไปใช้ได้ทั้งในกิจการพลเรือนและกิจการทางทหาร) และระบุพารามิเตอร์ทางเทคนิคอย่างละเอียดถ้าหากผลิตภัณฑ์นั้นๆเข้าใกล้ระดับต่ำสุดที่จะถูกควบคุม โดยที่มาตรการใหม่เหล่านี้โดยรวมจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน หรือเพียงแค่ 2 วันก่อนวันหมดอายุของข้อตกลงสงบศึกชั่วคราวทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนฉบับปัจจุบันในวันที่ 10 พฤศจิกายน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของปักกิ่งคราวนี้ มีขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา รัฐบาลปากีสถาน กับ บริษัท ยูเอส สแตรเตจิก เมทัลส์ (US Strategic Metals) ได้ลงนาม [2] ในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ฉบับหนึ่ง ซึ่งสาระสำคัญคือจะดำเนินการผลิตพวกแร่ธาตุสำคัญยิ่งยวดในปากีสถาน นอกจากนั้นยังเกิดขึ้นก่อนหน้าการพบปะเจรจาที่อาจจะจัดขึ้นระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงการประชุมซัมมิตกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ในเกาหลีใต้ เดือนพฤศจิกายนนี้
“พี่น้องที่แข็งแกร่งและคงทนดุจเหล็กกล้า”
จีนสามารถครองฐานะเป็นผู้นำในตลาดโลกสำหรับพวกแร่ธาตุสำคัญยิ่งยวดทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพแรร์เอิร์ธ, ลิเธียม, โคบอลต์, และนิเกิล แดนมังกรเป็นผู้ควบคุมการผลิตแรร์เอิร์ธมากกว่า 60% ของโลก, การแยกและทำให้ลิเธียมมีความบริสุทธิราวๆ 70%, การแปรรูปโคบอลต์เกือบ 70%, และผลผลิตกราไฟต์เกรดที่นำมาทำแบตเตอรีได้กว่า 90% ฐานะครอบงำตลาดอย่างอยู่หมัดเช่นนี้มีต้นตอมาจากระยะเวลาหลายปีของการลงทุนโดยภาครัฐ, ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี, และการเดินหน้ากระทำตามยุทธศาสตร์แห่งชาติซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่เรื่องความมั่นคงทางทรัพยากรและการพัฒนา ทางอุตสาหกรรม
ฐานะเช่นนี้ทำให้ปักกิ่งมีความเหนืออย่างสำคัญในทางยุทธศาสตร์ ขณะเดียวกับที่จีนยังเคลื่อนไหวนำเอาพวกนโยบายด้านการค้าและด้านทรัพยากรมาผูกพันเข้าแถวเป็นแนวเดียวกับการจัดลำดับความสำคัญระดับชาติ อย่างไรก็ดี ความได้เปรียบนี้ได้ถูกบ่อนทำลายจากการตัดสินใจเมื่อเร็วๆ นี้ของปากีสถานที่ขายแรร์เอิร์ธให้สหรัฐฯ
“ระยะแรกของข้อตกลงนี้ คาดการณ์กันว่าจะมีการลงทุนประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเข้ามาในภาคแร่ธาตุทรงความสำคัญยิ่งยวดของปากีสถาน” สำนักนายกรัฐมนตรีของปากีสถานแถลงเอาไว้เช่นนี้เมื่อเดือนที่แล้ว
มีรายงานว่า ประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้แห่งนี้ได้จัดส่ง [3] ธาตุแรร์เอิร์ธงวดแรกไปให้แก่สหรัฐฯแล้ว พวกสื่อมวลชนจีนเคยพูดถึงปากีสถานว่าเป็น “พี่น้องที่แข็งแกร่งและคงทนดุจเหล็กกล้า” (iron brother) ของจีน ซึ่งหมายความว่าทั้งสองมีความใกล้ชิดกันมากทั้งความสัมพันธ์ทางการทูตและความสัมพันธ์ทางการค้า เวลานี้ประเทศทั้งสองยังกำลังพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน (China-Pakistan Economic Corridor) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของแผนการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่ง
“แร่แรร์เอิร์ธสำรองจำนวน 5 ล้านเมตริกตันของปากีสถาน มูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ จู่ๆ ก็กลายเป็นจุดเน้นหนักสนใจจุดใหม่ในความเป็นปรปักษ์กันทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ” คอลัมนิสต์ที่ตั้งฐานอยู่ในมณฑลซานตงผู้หนึ่งกล่าวเอาไว้เช่นนี้ ในข้อเขียน [4] ซึ่งใช้ชื่อเรื่องว่า “แร่ธาตุสำคัญที่สุดของปากีสถานช่วยชีวิตอุตสาหกรรมกลาโหมสหรัฐฯเอาไว้ในนาทีสุดท้าย” (Pakistan’s key minerals saved the US defense industry at the last moment)
“พวกผู้รับเหมาด้านกลาโหมของอเมริกัน มีความจำเป็นต้องการได้แร่แรร์เอิร์ธเหล่านี้อย่างเร่งด่วน เพื่อประคับประคองการผลิตเครื่องบินขับไล่ F-35 และเรือดำน้ำนิวเคลียร์ให้ดำเนินต่อไปได้ เวลาเดียวกันนั้น ประเทศจีน ซึ่งมีศักยภาพในการทำแรร์เอิร์ธให้บริสุทธิอยู่ถึง 92% ของโลก จึงสามารถรักษาการควบคุมพวกเทคโนโลยีสำคัญๆ ในการถลุงและในการทำให้แรร์เอิร์ธมีความบริสุทธิมากยิ่งขึ้นเอาไว้”
เขาบอกว่า มูลค่าที่แท้จริงของแรร์เอิร์ธที่อยู่ใต้ดินจะเป็นเท่าไรแน่ ต้องขึ้นอยู่กับพวกเทคโนโลยีในการแยกแร่ เนื่องจาก 90% ของแร่แรร์เอิร์ธ 250 อย่างที่ค้นพบกันทั่วโลกนั้น อยู่ในรูปแบบของการผสมปนเปอยู่กับวัสดุอย่างอื่นๆ
“การถลุงและการทำให้แรร์เอิร์ธมีความบริสุทธิมากยิ่งขึ้น ก็เหมือนกับการเลือกหาเมล็ดถั่วดำออกมาจากชามใส่งาดำ” เขากล่าว “กระทั่งถ้าหากสหรัฐฯทุ่มเทการลงทุนในการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในปากีสถาน ผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายที่ออกมาก็น่าจะยังไปไม่ถึงมาตรฐานเกรดใช้งานกันในทางการทหาร ถ้าหากไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านการแปรรูปของจีนเข้ามาช่วยเหลือ”
“ปากีสถานอาจจะหาเงินได้อย่างรวดเร็วด้วยการยอมรับเม็ดเงินลงทุนสหรัฐฯ และอนุญาตให้สิทธิการทำเหมืองแรร์เอิร์ธแก่สหรัฐฯ” นักเขียนซึ่งตั้งฐานอยู่ในเซี่ยงไฮ้ผู้หนึ่งที่ประกาศว่าตนเองเป็นนักวางแผนทางการเงินคนหนึ่ง กล่าว “แต่ผลดีระยะสั้นที่ได้มาจะสามารถเปลี่ยนให้กลายเป็นผลประโยชน์ระยะยาวได้หรือไม่นั้นยังไม่มีความแน่นอน ข้อตกลงเช่นนี้ ซึ่งจัดทำขึ้นท่ามกลางการแข่งขันอย่างเป็นปรปักษ์กันระหว่างมหาอำนาจรายใหญ่ๆ อาจกลายเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูงก็ได้”
เขากล่าวต่อไปว่า “มันจะไม่ใช่เรื่องง่ายดายสำหรับปากีสถาน ที่จะสร้างความสมดุลทางการเมืองระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ขณะที่การก้าวเดินผิดพลาดใดๆ ก็ตามทีสามารถที่จะเกิดการสูญเสียราคาแพง อย่างไรก็ดี ตราบเท่าที่ปากีสถานยังหลีกเลี่ยงไม่กระทำอะไรที่เป็นการทำร้ายผลประโยชน์แกนกลางของจีน รากฐานของมิตรภาพจีน-ปากีสถานก็จะยังคงอยู่ในสภาพแข็งแกร่ง ปากีสถานจำเป็นจะต้องจำไว้ว่าพี่น้องที่แท้จริงของตนคือใครกันแน่”
โนวฮาวด้านการถลุงแร่ของจีน
การสกัดแร่แรร์เอิร์ธของจีน โดยหลักๆ แล้วพึ่งพาอาศัยวิธีการแยกสารด้วยตัวทำละลาย (solvent extraction) และ การแลกเปลี่ยนไอออน (ion exchange) ซึ่งเป็นพวกกระบวนการใช้ความแตกต่างทางเคมีเล็กๆ น้อยๆ มาแยกธาตุต่างๆ ออกจากกัน ในกระบวนการแยกสารด้วยตัวทำละลาย ของเหลวที่เป็นสารอินทรีย์จะดึงเอาแรร์เอิร์ธบางชนิดออกมาจากสารละลาย ขณะที่กระบวนการแลกเปลี่ยนไอออนนั้นใช้หอกรองที่บรรจุเรซิ่น (resin columns) มาแยกไอออนต่างๆ เนื่องจากพวกธาตุแรร์เอิร์ธเหล่านี้มีคุณสมบัติร่วมกันอยู่เป็นจำนวนมาก การแยกจึงเป็นสิ่งที่ยากลำบากและบ่อยครั้งจำเป็นต้องมีการมีขั้นตอนเพิ่มเติมขึ้นมา เป็นต้นว่า การปั่นเหวี่ยง (centrifugation) หรือไม่ก็ กระบวนการอิเล็กโทรลิซิส (electrolysis) เพื่อให้ได้สารที่มีระดับความบริสุทธิสูงๆ
สื่อมวลชนจีนกำลังยกย่อง [5] นักเคมี สีว์ กวงเสี้ยน (ปี 1920-2015) ในเรื่องผลงานการแยกแร่ธาตุแรร์เอิร์ธ 2 ตัว คือ เพรซิโอดิเมียม (praseodymium) และ นีโอดิเมียม (neodymium) โดยใช้กระบวนการสกัดด้วยของเหลว 2 ชนิดแบบทวนกระแส (countercurrent liquid-liquid extraction) ผลงานของ สีว์ ซึ่งมาถึงจุดยอดสุดด้วยความสำเร็จเมื่อปี 1974 เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่จีนกำลังอยู่ระหว่างเกิดการปฏิวัติทางวัฒนธรรมที่ควบคุมโดย เหมา เจ๋อตง และกำลังประสบข้อจำกัดเลวร้ายต่างๆ ในเรื่องการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
สีว์ เกิดเมื่อปี 1920 ในเมืองเซ่าซิง (Shaoxing) มณฑลเจ้อเจียง เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เจียวถง (Shanghai Jiaotong University) ในปี 1944 และต่อมาได้รับปริญญาเอก PhD ทางด้านเคมีเชิงฟิสิกส์ (physical chemistry) จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในสหรัฐฯ ในปี 1951 หลังจากที่เขาเดินทางกลับมายังประเทศจีน เขาสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ในปี 1972 ภาควิชาของเขาได้รับมอบหมายภารกิจทางการทหารให้ดำเนินการแยก เพรซิโอดิเมียม และ นีโอดิเมียม ซึ่งในสมัยนั้นยังเป็นเรื่องที่ยากลำบาก เนื่องจากคุณสมบัติของพวกมันที่คล้ายคลึงกันมาก
สีว์ ทำภารกิจนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ในอีก 2 ปีต่อมาด้วยการใช้กระบวนการสกัดด้วยของเหลวแบบทวนกระแส ซึ่งแยกโลหะหลายชนิดออกมาได้ด้วยการให้สารละลายผ่านชั้นของเหลวที่บรรจุไว้ด้วยสารเคมีซึ่งมีความใกล้เคียงกันทว่าแตกต่างกัน ซ้ำไปซ้ำมารอบแล้วรอบเล่า เขาตีพิมพ์ผลงานวิจัยของเขาในปี 1975 และได้เป็นสมาชิกผู้หนึ่งของราชบัณฑิตยสภาทางวิทยาศาสตร์จีน (Chinese Academy of Sciences) ในปี 1980
ในความเป็นจริงแล้ว สีว์ ไม่ใช่เป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จด้วยการใช้วิธีแยกดังกล่าวนี้ คาร์ล อาวเออร์ ฟอน เวลส์บาค (Carl Auer von Welsbach) นักเคมีชาวออสเตรีย เป็นคนแรกที่แยกธาตุ เพรซิโอดิเมียม และ นีโอดิเมียม ออกมาได้ในปี 1885 โดยอาศัยกระบวนการตกผลึกตามลำดับส่วน (fractional crystallization) ต่อมาในช่วงกลางทศวรรษ 1950 คณะนักวิจัยที่ ห้องปฏิบัติการแห่งชาติอาร์กอนน์ (Argonne National Laboratory) และห้องปฏิบัติการแห่งชาติ โอคริดจ์ (Oak Ridge National Laboratory) ในสหรัฐฯ ได้ร่วมกันสร้างความก้าวหน้า [6] ให้แก่วงการวิทยาศาสตร์ ด้วยการจัดทำกระบวนการสกัดโดยใช้ของเหลวที่เป็นสารละลาย 2 ชนิดซึ่งไม่ผสมกัน (liquid-liquid solvent extraction) ขึ้นมา เป็นการก่อตั้งรากฐานทางเทคนิคสำหรับการบรรลุถึงมาตรฐานเพิ่มความบริสุทธิได้ถึงระดับ 99.9% ซึ่งกลายเป็นตัวนิยามจำกัดความการทำให้ได้แร่ธาตุแรร์เอิร์ธที่บริสุทธิอย่างยิ่งในยุคสมัยใหม่
ประเทศจีนทุกวันนี้ สามารถรักษา [7] ฐานะการเป็นผู้มีอำนาจเหนือกว่าใครๆ จนกระทั่งใกล้ๆ กับการมีอำนาจผูกขาดเหนือ ซัปพลายแม่เหล็กนีโอดิเมียมของโลก โดยเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นี้มากกว่า 85% ของการผลิตทั้งหมด ผลิตภัณฑ์แม่เหล็กสมรรถนะสูงเหล่านี้ กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในอุตสาหกรรมชั้นสูงทั้งหลาย โดยมันเป็นตัวให้พลังแก่ มอเตอร์แม่เหล็กถาวรของรถยนต์ เทสลา โมเดล 3 (Tesla Model 3), ระบบควบคุมการบินของเครื่องบินขับไล่ E-35, และ มอเตอร์เขย่า (vibration motors) ที่อยู่ภายในเครื่องไอโฟน
ภายในจีน บริษัทผู้จัดหาเครื่องจักรอุปกรณ์สกัดแรร์เอิร์ธซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ บริษัท เจิ้งโจว เทียอิ เอ็กซ์แทคชั่น เทคโนโลยี (Zhengzhou Tiei Extraction Technology) [8] และ บริษัท เป่าเถา สือโป แรร์เอิร์ธ เอ็กซ์แทคชั่น แอนด์ อีควิปเมนต์ จำกัด (Baotou Shibo Rare Earth Extraction & Equipment) [9]
เชิงอรรถ
[1]https://www.mofcom.gov.cn/zwgk/zcfb/art/2025/art_6cb42957741440c6984de696b70df9ae.html
[2] https://pk.usembassy.gov/u-s-strategic-metals-signs-mou-on-critical-minerals-in-pakistan/
[3] https://finance.yahoo.com/news/pakistan-sends-first-batch-rare-013007068.html
[4]https://baijiahao.baidu.com/s?id=1844510059029502999&wfr=spider&for=pc
[5]https://baijiahao.baidu.com/s?id=1834499152131190077&wfr=spider&for=pc
[6] https://www.ornl.gov/news/game-changing-rare-earth-elements-separation-technology-licensed-marshallton
[7]https://mbd.baidu.com/newspage/data/landingsuper?context=%7B%22nid%22%3A%22news_9917651464617882294%22%7D&n_type=1&p_from=4
[8] https://www.cncuiqu.com/
[9] http://www.lixincuiqu.com.cn/
หมายเหตุผู้แปล
วอลล์สตรีทเจอร์นัล สื่อทรงอิทธิพลในสหรัฐฯ ได้เผยแพร่ข้อเขียนสรุปความเคลื่อนไหวของจีนในการเพิ่มข้อจำกัดกีดกันการเข้าถึงแรร์เอิร์ธของสหรัฐฯ ซึ่งมีมุมมองที่เพิ่มเติมขึ้นจากงานเขียนของเอเชียไทมส์ จึงขอเก็บความนำมาเผยแพร่ ดังต่อไปนี้
4 สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับมาตรการเพิ่มคุมเข้ม ‘แรร์เอิร์ธ’ ครั้งใหญ่ของปักกิ่ง
โดย วอลล์สตรีทเจอร์นัล
Four Things to Know About Beijing’s Rare-Earths Bombshell
by Stu Woo, Jon Emont, The Wall Street Journal
11/10/2025
ก่อนที่จะมีการพบปะเจรจากันระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ซึ่งฝ่ายต่างๆ พูดกันว่ามีโอกาสเกิดขึ้นสูงนั้น ปรากฏว่าช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ปักกิ่งได้ทิ้ง “ลูกระเบิด” ลูกใหญ่ นั่นคือ จีนประกาศเพิ่มการจำกัดกีดกั้นการเข้าถึงวัสดุข้าวของประเภทหนึ่ง ซึ่งบรรดาบริษัทอเมริกันจำเป็นต้องใช้สำหรับการทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชิปคอมพิวเตอร์, รถยนต์, ตลอดจนเทคโนโลยีอื่นๆ ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ทำให้จีนเป็นฝ่ายมีแต้มต่อรองเพิ่มมากขึ้น ก่อนหน้าจะมีการพูดจาทางการค้ากับฝ่ายวอชิงตันตามที่คาดหมายกัน
วัสดุข้าวของประเภทไหนที่จีนเพิ่มการจำกัดกีดกั้น และมันมีความสำคัญอย่างไร ?
วัสดุข้าวของเหล่านี้ เรียกกันว่า แรร์เอิร์ธ (แร่ธาตุหายาก) ซึ่งเป็นแร่ธาตุหลายๆ อย่างที่มีอยู่ใต้ดิน ขณะที่มันไม่ได้เป็นของหายากจริงๆ ตามชื่อของมันหรอก ทว่าก็มีความยากลำบากในการถลุงในการสกัดแร่ธาตุเหล่านี้ออกมา เนื่องจากมันอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย และผสมอยู่กับก้อนหินและแร่ธาตุอย่างอื่นๆ มีสถานที่อยู่ไม่กี่แห่งที่มีแร่ธาตุแรร์เอิร์ธชนิดซึ่งเป็นที่เสาะแสวงหากันมากที่สุด รวมศูนย์อยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ หนึ่งในพื้นที่ดังกล่าวก็คือภาคใต้ของจีน และนี่ก็เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้แดนมังกรเป็นผู้จัดหาจัดส่งแรร์เอิร์ธ ประมาณ 90% ของโลก
หนึ่งในแรร์เอิร์ธที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ได้แก่ ดิสโพรเซียม (dysprosium) ซึ่งมีเลขอะตอม 66 ตามตารางธาตุ ถ้าหากเปรียบเทียบอุตสาหกรรมเทคเหมือนกับเป็นร้านเบเกอรี ดิสโพรเซียมก็จะต้องเป็นผงฟู กล่าวคือ มันจะถูกนำมาใช้ในปริมาณเล็กน้อย ทว่าจำเป็นสำหรับการทำให้มอเตอร์ของรถยนต์ไฟฟ้า , กังหันลม, ระบบอาวุธทางทหารต่างๆ ตลอดจนเครื่องกลไกชิปคอมพิวเตอร์ สามารถทำงานได้
สิ่งที่จีนลงมือทำลงไปจริงๆ ในเรื่องที่ว่ามานี้คืออะไรบ้าง?
กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกประกาศในวันพฤหัสบดี (9 ต.ค.) ขยายมาตรการควบคุมการส่งออกเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ ด้วยการใส่ข้อเรียกร้องที่ดูจะหนักหนาสาหัสเข้ามาข้อหนึ่ง นั่นคือ บริษัทใดๆ ก็ตามที ไม่ว่าจะอยู่ในจีนหรือในต่างแดน จะต้องได้รับอนุญาตจากจีนเสียก่อน จึงจะสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์บางอย่างบางประเภท ซึ่งได้มูลค่ามากกว่า 0.1% ของมูลค่ารวมของมันจากแรร์เอิร์ธ
ไม่เพียงเท่านั้น กระทรวงพาณิชย์จีนยังเพิ่มรายชื่อแรร์เอิร์ธชนิดที่จะถูกจำกัดการส่งออก และกระทั่งห้ามการส่งออกแรร์เอิร์ธเหล่านี้ ถ้าหากมันจะถูกนำไปใช้โดยฝ่ายทหารของต่างประเทศ จากนั้นในวันศุกร์ (10 ต.ค.) จีนยังพุ่งเป้าเล่นงานผลประโยชน์อื่นๆ ของอเมริกันอีก ด้วยการประกาศเก็บค่าธรรมเนียมการใช้ท่าเรือจากบรรดาเรือของสหรัฐฯ รวมทั้งเปิดการสอบสวนเพื่อต่อต้านการผูกขาดเอากับ ควอลคอมม์ (Qualcomm) บริษัทเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่รายหนึ่งของสหรัฐฯ เห็นกันว่าทั้งหมดเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของการรณรงค์ของปักกิ่งเพื่อตอบโต้เอาคืนมาตรการจำกัดกีดกั้นทางการค้าซึ่งวอชิงตันเป็นฝ่ายประกาศออกมาใช้ก่อน
ธุรกิจอะไรบ้างที่จะถูกกระทบกระเทือน?
นี่ต้องขึ้นอยู่กับว่าผลิตภัณฑ์อันไหนของธุรกิจนั้นๆ ที่ได้รับความกระทบกระเทือน นอกจากนั้นแล้วกฎระเบียบของฝ่ายจีนก็ยังไม่มีความชัดเจน กฎระเบียบเหล่านี้อาจจะพุ่งเป้าเล่นงานเพียงแค่พวกวัสดุเกี่ยวกับแรร์เอิร์ธ และแม่เหล็กแรร์เอิร์ธเท่านั้น หรืออาจจะเล่นงานครอบคลุทไปถึงพวกชิ้นส่วนและส่วนประกอบซึ่งมีแรร์เอิร์ธจำนวนหนึ่งอยู่ข้างใน ความกำกวมเช่นนี้อาจจะมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ฝ่ายจีนมีความยืดหยุ่นได้มากขึ้นระหว่างการเจรจาต่อรองกับฝ่ายสหรัฐฯ
ตามความเห็นของบริษัทวิจัย แคปิตอล อีโคโนมิกส์ (Capital Economics) ส่วนใหญ่ของพวกสินค้าผู้บริโภคที่ทำสำเร็จรูปออกมาแล้ว อย่างเช่น แล็ปท็อป และเครื่องสมาร์ตโฟน น่าจะมีแรร์เอิร์ธอยู่ข้างในไม่ถึงระดับที่จะถูกจำกัดเข้มงวดยิ่งขึ้น แต่พวกสินค้าขั้นกลางอย่างเช่นมอเตอร์ น่าจะมีอยู่เกินระดับ
จีนบอกว่าจะตรวจสอบถี่ถ้วนเป็นพิเศษสำหรับการส่งออกรายการผลิตภัณฑ์ที่ถูกจำกัดเหล่านี้ในกรณีที่มีเจตนาจะนำพวกมันไปใช้ช่วยผลิตชิปชั้นสูง หรือสนับสนุนการวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ มาตรการจำกัดกีดกั้นแรร์เอิร์ธที่จีนบังคับใช้มาก่อนหน้านี้ ก็เคยสร้างความเสียหายให้แก่พวกผู้ผลิตรถยนต์อย่างเช่น ฟอร์ด มาแล้ว และการที่แดนมังกรกำลังพุ่งเป้าเล่นงานเอไอและเซมิคอนดักเตอร์ครั้งนี้ ก็เป็นเครื่องเตือนใจให้ระลึกเอาไว้ว่า เวลานี้จีนยังกำลังพยายามที่จะสกัดกั้นเล่นงานบริษัทผู้นำชิปเอไออเมริกันอย่าง อินวิเดีย
นักวิเคราะห์บางรายบอกว่า กฎระเบียบใหม่เหล่านี้บ่งชี้ให้เห็นว่า พวกบริษัทที่มีธุรกิจทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทหารและที่เกี่ยวข้องกับพลเรือน อย่างเช่น โบอิ้ง อาจถูกปฏิเสธไม่ยอมให้เข้าถึงแรร์เอิร์ธ แม้กระทั่งกรณีนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในทางพลเรือน
จีนจะเดินหน้าเรื่องนี้กันยาวๆ หรือไม่ และสหรัฐฯสามารถที่จะทำอะไรได้บ้าง?
นักวิเคราะห์จำนวนมากเชื่อว่าข้อจำกัดกีดกั้นใหม่ๆ เหล่านี้ เป็นยุทธวิธีเพื่อการเจรจาต่อรองของฝ่ายปักกิ่ง ก่อนหน้าการพูดจาทางการค้าจะเปิดฉากขึ้นมา แต่แดนมังกรก็น่าที่จะคงมาตรการจำกัดสกัดกั้นด้านแรร์เอิร์ธบางอย่างบางประการเอาไว้และใช้ต่อไปอีกเป็นระยะยาวๆ ส่วนสำหรับการตอบโต้ของสหรัฐฯนั้น ทรัมป์แถลงว่าเขาจะจัดเก็บภาษีศุลกากรอัตรา 100%เอากับจีนภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน รวมทั้งแสดงท่าทีว่าเขาอาจจะยกเลิกไม่พบกับ สี ข้างเคียงการประชุมซัมมิตกลุ่มเอเปก ที่เกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. ซึ่งถูกคาดหมายกันก่อนหน้านี้ว่าผู้นำทั้งสองจะพบเจรจากัน นอกจากนั้นสหรัฐฯยังอาจเพิ่มแต้มต่อรองสำหรับดีลกับจีน เนื่องจากสหรัฐฯเป็นผู้ผลิตชิปที่จำเป็นสำหรับใช้ในการประมวลผลด้านปัญญาประดิษฐ์ และในผลิตภัณฑ์ทางอุตสาหกรรมอย่างเช่น เครื่องยนต์ของเครื่องบินไอพ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ปักกิ่งยังไม่มีความเชี่ยวชาญ
สหรัฐฯเวลานี้ยังกำลังสร้างห่วงโซ่อุปทานแม่เหล็กแรร์เอิร์ธของตัวเองขึ้นมา ทรัมป์เสนอแนะว่าสหรัฐฯอาจจะยุติการนำเข้าแรร์เอิร์ธจีน สินแร่แรร์เอิร์ธนั้นสามารถหาได้นอกประเทศจีน ทว่าการที่จะแข่งขันไล่ตามโครงสร้างพื้นฐานด้านการทำเหมืองและการแปรรูปแรร์เอิร์ธของจีนให้ทันนั้น จะต้องใช้เวลากันหลายๆ ปี