รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียแถลงวันพุธ(8 ต.ค)ว่า มอสโกจะเริ่มทำการทดสอบนิวเคลียร์อย่างรวดเร็วหากพบว่า "สหรัฐฯ" คู่ปรับเริ่มต้นการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์รอบใหม่ อ้างอเมริกาเล่นไม่ซื่อแอบเตรียมโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการทดสอบนิวเคลียร์ของตัวเองให้อยู่ในสถานะพร้อมรบ
รอยเตอร์รายงานวันพุธ(8 ต.ค)ว่า ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก รยาบคอฟ (Sergei Ryabkov) ตามการรายงานของสำนักข่าวรัสเซีย RIA ยืนยันว่า มอสโกเฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวของอเมริกาทุกฝีก้าวและพบว่าอเมริกาเมื่อไม่นานมานี้กำลังเตรียมโครงสร้างพื้นฐานการทดสอบของตัวเองมีความพร้อม เขาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า “หากว่าสหรัฐฯทำการทดสอบจริง มอสโกจะทำตามเช่นกันอย่างรวดเร็ว”
นิวสวีคของสหรัฐฯชี้ว่า คำแถลงของผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียย้ำว่า สหรัฐฯนั้นรักษาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการทดสอบนิวเคลียร์ของตัวเองให้อยู่ในสถานะพร้อมรบ ซึ่งเป็นสถานะที่ฝ่ายรัสเซียได้เฝ้าจับตานับตั้งแต่การตัดสินใจของมอสโกต่อข้อตกลงนิวเคลียร์ New START
ทั้งนี้ข้อตกลง New START ลงนามไว้ในปี 2010 ระหว่างอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา และอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ดมิตรี เมดเวเดฟ เป็นสนธิสัญญาระดับทวิภาคีระหว่างสหรัฐฯและรัสเซียในการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์
เนื้อหาของข้อตกลงจำกัดเพดานการมีหัวรบนิวเคลียร์ของแต่ละชาติไว้ที่ 1,550 หัวรบและระบบการส่งปฎิบัติการที่ 700 ระบบรวม มิสไซล์และเครื่องบินทิ้งระเบิด
และในประเด็นสำคัญของสนธิสัญญาคือ การเข้าตรวจสอบที่ไซต์งานเพื่อดูว่าทำตามข้อตกลงหรือไม่นั้นได้ถูกสั่งระงับไปในปี 2020 เนื่องมาจากปัญหาโรคโควิด-19ระบาด
ซึ่งข้อตกลงเดิมนั้นมีกำหนดที่จะหมดอายุลงในปี 2021 โดยสนธิสัญญานั้นได้ถูกขยายออกไปนาน 5 ปีส่งผลทำให้จะสิ้นสุดลงในกุมภาพันธ์ปี 2026
สื่อสหรัฐฯรายงานว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ก่อนหน้าแสดงความวิตกต่อปัญหาสหรัฐฯกำลังเล่นไม่ซื่อนี้ระหว่างการขึ้นกล่าวในงาน Valdai International Discussion Club ที่เมืองตากอากาศโซชิโดยเขากล่าวว่า “ใครบางคนกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการทดสอบนิวเคลียร์”
พร้อมกันนี้ผู้นำรัสเซียได้เตือนออกมาว่า การกระทำเช่นนั้นอาจจะได้รับการตอบโต้ทันทีจากมอสโก
รยาบคอฟอธิบายว่า ข้อเสนอของรัสเซียให้ขยายข้อจำกัดเชิงปริมาณของข้อตกลง New START เป็นเวลา 1 ปีออกไปจากเส้นตายเดิมที่กำลังจะหมดอายุลงในกุมภาพันธ์ปี 2026 ขึ้นอยู่กับสหรัฐฯเพื่อหลีกเลี่ยงความเคลื่อนไหวที่เป็นอันตราย ซึ่งรวมถึงการพัฒนาอาวุธทางยุทธศาสตร์ป้องกันและการป้องกันทางมิสไซล์ที่รัสเซียมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อการป้องปรามทางนิวเคลียร์ของตัวเอง