ดมิตรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ระบุเมื่อวันจันทร์ (6 ต.ค.) ว่า ยังคงเป็นปริศนาว่าใครอยู่เบื้องหลังฝูงโดรนที่ถูกส่งไปรบกวนหลายประเทศในยุโรป ทว่าเหตุการณ์เหล่านี้ก็เป็นเครื่องเตือนใจที่มีประโยชน์สำหรับชาวยุโรปถึงอันตรายของสงคราม
เมดเวเดฟ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย ปฏิเสธทฤษฎีที่ว่าปฏิบัติการโดรนรบกวนที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ รวมถึงต่อการสัญจรทางอากาศทั้งในเยอรมนีและเดนมาร์ก เป็นผลมาจากการกระทำที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียหรือกองกำลังที่เห็นอกเห็นใจมอสโก
“ผู้คนที่เห็นอกเห็นใจประเทศของเรา (ในยุโรป) จะไม่สิ้นเปลืองทรัพยากรด้วยการออกมาจากที่ซ่อน บรรดา ‘สายลับ’ ของเรากำลังรอคำสั่งแยกต่างหาก” เมดเวเดฟ โพสต์ข้อความบนเทเลแกรม
เมดเวเดฟซึ่งสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองในฐานะผู้ต่อต้านตะวันตกอย่างแข็งกร้าวกล่าวว่า ไม่ว่าใครจะเป็นผู้กระทำการนี้ก็ตาม แต่สิ่งสำคัญคือประชาชนชาวยุโรปได้สัมผัสถึงความหมายของสงครามที่มีต่อภูมิภาคของพวกเขา โดยที่ผ่านมา เมดเวเดฟ กล่าวหาประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรี ฟรีดริช แมร์ซ แห่งเยอรมนี ว่าเป็นผู้ยุยงปลุกปั่นด้วยเหตุผลด้าน การเมืองและการเงิน
“สิ่งสำคัญคือ พวกชาวยุโรปที่วิสัยทัศน์สั้นจะได้รู้สึกถึงอันตรายของสงคราม พวกเขาหวาดกลัวและตัวสั่นงันงกเหมือนสัตว์โง่ๆ ในฝูงที่กำลังถูกต้อนเข้าโรงเชือด” เมดเวเดฟ กล่าว และเขาหวังว่าผู้คนจะหันมาต่อต้าน แมร์ซ และ มาครง
การที่ยุโรปเริ่มเอ่ยถึงการนำทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้มาระดมทุนซื้ออาวุธให้ยูเครน รวมถึงแผนการยิงเครื่องบินรัสเซียที่บินเข้าน่านฟ้ายุโรป และแผนการสร้าง “กำแพงโดรน” ได้สร้างความโกรธแค้นให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบาลรัสเซีย ซึ่งยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่มีเจตนาที่จะโจมตีรัฐสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ใดๆ
ที่มา: รอยเตอร์