เอเจนซีส์/เอเอฟพี – อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ดมิตรี เมดเวเดฟ โพสต์อ้าง มีชาติพันธมิตรมากมายกำลังรอต่อแถวเพื่อมอบอาวุธนิวเคลียร์ให้อิหร่านเพื่อปกป้องอธิปไตยจากการรุกราน แต่ผู้นำรัสเซียตัวจริง วลาดิมีร์ ปูติน กลับไม่ปริปากเสนอตัวช่วยระหว่างพบรัฐมนตรีต่างประเทศเตหะรานในกรุงมอสโก ตอบคำถามกลางประชุมอิโคโนมิกซัมมิตเซนต์ปีเตอร์เบิร์กทำไมไม่ช่วยอิหร่าน ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เดือดตอบอย่าใช้ N (nuclear) ฟุ่มเฟือย ชี้ถ้าอิหร่านได้หัวรบนิวเคลียร์จะโดนจัดหนักยิ่งกว่านี้จากอาวุธเทพขั้นมหากาฬ
บิสซิเนสอินไซเดอร์ของสหรัฐฯรายงานวานนี้(23 มิ.ย)ว่า บรรดานักวิเคราะห์ต่างออกมาแสดงความเคลือบแคลงต่อความเห็นของอดีตผู้นำหมีขาวที่อ้างว่า “มีหลายชาติ” กำลังพิจารณาส่งหัวรบนิวเคลียร์ให้อิหร่านหลังสหรัฐฯส่งฝูงเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 ของตัวเองเข้าโจมตีสถานีวิจัยนิวเคลียร์ใต้ดินอิหร่าน 3 จุดด้วยระเบิด GBU-57 Bunker-Buster ถึง 14 ลูกและส่งผลทำให้เตหะรานโจมตีฐานทัพสหรัฐฯในกาตาร์ข้ามคืนที่ผ่านมา
ดมิตรี เมดเวเดฟ เคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียระหว่างปี 2008 – ปี 2012 ไม่ได้เปิดเผยว่ามีประเทศใดบ้างที่อยู่ในข่ายที่ส่งอาวุธนิวเคลียร์ไปในการโพสต์ผ่านช่องทางเทเลแกรมวันอาทิตย์(22)
โดยในการโพสต์ เมดเวเดฟไม่ได้ให้ความสำคัญต่อความเสียหายของโรงนิวเคลียร์อิหร่านที่ถูกสหรัฐฯโจมตี แต่ชี้ว่าเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่า การโจมตีนี้ทำให้สหรัฐฯเข้ามายุ่งเกี่ยวในความขัดแย้งอิสราเอล-อิหร่านเข้าให้แล้ว
“มีหลายประเทศพร้อมที่จะส่งหัวรบนิวเคลียร์ให้อิหร่านโดยตรงออกจากคลังแสงของประเทศเหล่านั้นเอง”
คำแถลงของเมดเวเดฟเข้าหูประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จนเขาออกมาเตือนว่า ไม่สมควรพูด N ที่ย่อมาจาก nuclear (นิวเคลียร์)ออกมาง่ายๆ
หนังสือพิมพ์เมโทรของอังกฤษรายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ยังขู่กลับว่า สหรัฐฯจะเล่นงานด้วยการที่ใช้อาวุธร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนหากเตหะรานได้รับหัวรบนิวเคลียร์จากประเทศอื่น
และในการแถลงทรัมป์ยังโต้เมดเวเดฟกลับไปว่า นี่อย่างไรทำให้ปูติน(ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน) ถึงเป็นบอส
เอเอฟพีรายงาน ว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ในวันจันทร์(23)พบรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน อับบาส อารักชี (Abbas Araghchi)ที่กรุงมอสโก ออกมาประณามสหรัฐฯในการโจมตีศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ใต้ดินของอิหร่านว่า ไม่มีสาเหตุและไม่ชอบธรรม เอเอฟพีชี้ว่า แต่ทว่าในการหารือผู้นำรัสเซียไม่ได้ประกาศความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมต่อเตหะราน
และหลังการหารือพบว่ารัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านออกมาเปิดเผยว่า การหารือนั้นยอดเยี่ยมและอีกทั้งจุดยืนของรัสเซียต่อปัญหายังคงหนักแน่นแต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดการหารืออื่นๆออกมา
ทั้งนี้ NDTV ของอินเดียรายงานว่า ปูตินถูกถามกลางงานประชุมอีโคโนมิกซัมมิตเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กว่า เหตุใดเขาจึงไม่ยื่นมือเข้าช่วยเตหะรานในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน
ประธานาธิบดีปูตินตอบกลับมาว่า รัสเซียต้องวางตัวเป็นกลางจากในความขัดแย้งจากการที่มีพลเมืองรัสเซียเป็นจำนวนมากอาศัยอยู่ในอิสราเอล
“ผมอยากจะเรียกร้องความสนใจของคุณมาที่ข้อเท็จจริงที่ว่ามีพลเมืองเกือบ 2 ล้านคนจากทั้งอดีตสหภาพโซเวียตและสหพันธรัฐรัสเซียอาศัยในอิสราเอล มันเกือบเหมือนเป็นประเทศพูดภาษารัสเซียไปแล้วในวันนี้ และอย่างไม่ต้องสงสัยพวกเราได้นำสิ่งนี้รวมอยู่ในประวัติศาสตร์รัสเซียสมัยใหม่” ปูตินกล่าวภายในงาน
เอเอฟพีรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านความสัมพันธ์รัสเซีย-อิหน่าน นิกิต้า สมากิน (Nikita Smagin) ให้สัมภาษณ์เอเอฟพีว่า อารักชีน่าจะเดินทางมาที่กรุงมอสโกเพื่อขอความช่วยเหลือทางการทหารจากรัสเซียในนามของผู้นำเตหะราน
“ผมไม่คิดว่าผู้นำกระทรวงต่างประเทศอิหร่านจะรีบมาที่กรุงมอสโกเพียงเพื่อแลกเปลี่ยนความวิตกจากการถูกสหรัฐฯโจมตี”
และสมากินยังคาดการณ์ว่า “รัสเซีย” ที่กำลังติดหล่มกับสงครามยูเครนที่ลากยาวกว่า 3 ปีนั้นน่าจะปลีกตัวให้ห่างจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-อิหร่านและพยายามจะหาประโยชน์ระยะสั้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นและลุกคืบยูเครนระหว่างที่ฝ่ายตะวันตกกำลังหันความสนใจไปที่ตะวันออกกลาง