เว็บไซต์ข่าวกัมพูชา รายงานคำกล่าวของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีของไทยเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ กรณีอนุญาตให้พวกผู้ลี้ภัยพม่าทำงานอย่างถูกกฎหมาย ชี้ถือเป็นการส่งสารอย่างชัดเจนไปยังกัมพูชา ว่าไทยจะไม่ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน แม้ชาวกัมพูชาพากันแห่แหนกลับประเทศ
สำนักข่าวคิริโพสต์ สื่อมวลชนกัมพูชาภาคภาษาอังกฤษ อ้างรายงานของสื่อมวลไทย ที่ระบุว่านายอนุทิน ได้แถลงเกี่ยวกบการอนุญาตให้พวกผู้ลี้ภัยชาวพม่าออกมาทำงานนอกพื้นที่พักพิงได้ไม่เกิน 1 ปี ภายใต้ทางออกใหม่หนึ่งๆ พร้อมระบุมันแสดงให้เห็นถึงความพยายามด้านมนุษยธรรมของไทย ซึ่งเคยให้สัญญามอบงานแก่คนที่ปฏิบัติตามกฎหมาย
คิริโพสต์ รายงานว่าในถ้อยแถลงของนายอนุทิน ไม่ได้เอ่ยชื่อกัมพูชาโดยตรง แต่บอกว่านโยบายใหม่นี้เป็นการส่งสารถึง ประเทศเพื่อนบ้านของไทย "มันจะเป็นการส่งสารถึงประเทศที่มีปัญหากับเรา อย่าคิดว่าไทยจะขาดแคลนแรงงาน ไม่ เราไม่ได้ขาดแคลนแรงงาน"
ซุน เมษา โฆษกกระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์กับคิริโพสต์เมื่อวันศุกร์(3ต.ค.) ระบุว่าเป็นสิทธิ์ของรัฐบาลไทยที่ตัดสินใจเลือกทางเลือกดังกล่าว "พวกเขามีสิทธิ์จ้างแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ และทุกคน ในนั้นรวมถึงชาวกัมพูชา สามารถตัดสินใจได้ว่าที่ไหนที่พวกเขาอยากทำงาน"
รายงานของคิริโพสต์ ระบุว่าแรงงานกัมพูชาหลายหมื่นคนเดินทางออกจากไทย นับตั้งแต่ความตึงเครียดตามแนวชายแดนเริ่มขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม กระตุ้นให้รัฐบาลไทยเสาะหาทรัพยากรมนุษย์ทางเลือกอื่นๆ จากศรีลังกาและพม่ามาทดแทน
ในเดือนเมษายน รัฐบาลไทยหันไปหาศรีลังกา เพื่อเติมช่องว่างในตลาดแรงงาน หลังรัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้แรงงานกัมพูชากลับมาตุภูมิ รายงานข่าวหนึ่งของรอยเตอร์ระบุว่ามีชาวศรีลังกากว่า 300,000 คน ที่ลงทะเบียนในโครงการแรงงาน โดยที่แรงงานกลุ่มแรก 10,000 คน กำลังถูกส่งมายังประเทศไทย
ซุน เมษา บอกว่ามีแรงงานกัมพูชาเกือบ 940,000 คน ที่ข้ามชายแดนกลับประเทศ นับตั้งแต่รัฐบาลร้องขอให้เดินทางกลับ แต่ในนั้นมีเพียงแค่ 300,000 คน ที่ได้งานทำแล้ว และอีกจำนวนหนึ่งหันไปทำงานนอกระบบ
Leung Sophon เจ้าหน้าที่จากศูนย์สมาพันธ์แรงงานและสิทธิมนุษยชนกัมพูชาในไทย เคยยอมรับกับคิริโพสต์ว่า ถ้าพวกที่เดินทางกลับประเทศ ไม่อาจหางานที่ดีทำในกัมพูชา พวกเขาอาจเดินทางกลับไทยอีกครั้ง เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว
(ที่มา:คิริโพสต์)