ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(2 ต.ค.) เผยว่าพวกลูกจ้างรัฐบาลกลางอาจถูกไล่ออกและต้องปรับลดโครงการต่างๆ ถ้าภาวะชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลยังคงลากยาวต่อไป แม้อีกด้านหนึ่งเขาบ่งชี้ว่าชาวอเมริกันจะได้"เช็คเงินคืน หรือ Rebate Checks" จากรายได้จากมาตรการรีดภาษีก็ตาม
"อาจมีการไล่อออก และมันเป็นความผิดชอบพวกเขา" ทรัมป์พูดถึงสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรส เมื่อถูกถามเรื่องบันทึกหนึ่งเมื่อเร็วๆนี้จากสำนักงานบริหารและงบประมาณ ( OMB ) เกี่ยวกับแนวโน้มการไล่ออกลูกจ้างรัฐบาลกลาง สืบเนื่องจากภาวะชัตดาวน์
"เราอาจตัดโครงการต่างๆที่พวกเขาต้องการ โครงการที่พวกเขาชอบ และมันจะเป็นการตัดแบบถาวร" เขากล่าว พร้อมระบุว่า "ผมอนุญาตให้ตัดลดสิ่งที่ต่างๆที่ไม่ควรได้รับการอนุมัติมาตั้งแต่ต้น และบางทีมันจะทำเช่นนั้น"
หน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์เป็นบางส่วนในวันพุธ(1ต.ค.) หลังสภาคองเกรสล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงงบประมาณ โดยเวลานี้เหลือเพียงงานบริการที่มีความจำเป็นเท่าน้ั้น ที่ยังทำงานกันต่อไป
ทรัมป์ บอกว่ารายได้จากมาตรการรีดภาษีใหม่เพิ่งเริ่มไหลเข้ามา แต่ท้ายที่สุดแล้วมันจะแตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี เขาบอกว่าเงินบางส่วนในนี้ จะถูกนำไปจ่ายลดหนี้ของรัฐบาลกลาง ที่อาจแตะระดับ 38 ล้านล้านดอลลาร์
ตัวเลขคาดการณ์ของทรัมป์ เกี่ยวกับรายได้จากมาตรการรีดภาษี ถือเป็นสูงกว่าที่ สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ประเมินไว้เมื่อเดือนที่แล้ว โดยคราวนั้น เบสเซนต์ คาดหมายว่าราคาภาษีศุลกากรจากมาตรการรีดภาษีของทรัมป์ อาจแตะระดับ 500,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี
ขณะเดียวกันข้อมูลจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ พบว่ารัฐบาลกลางมีหนี้สินกลางอยู่ที่ 37.64 ล้านล้านดอลลาร์
ประธานาธิบดีจากรีพับลิกัน กล่าวว่ารัฐบาลของเขากำลังหาทางใช้รายได้จากมาตรการรีดภาษี ในการออกเช็คเงินคืนแก่ประชาชนชาวอเมริกา "เราอาจแจกจ่ายแก่ประชาชน มีความเป็นไปได้อย่างมากที่สุดมีการแบ่งให้ประชาชนชาวอเมริกา" ทรัมป์ กล่าว "ผมคิดว่าบางทีอาจ 1,000 ดอลลาร์ ถึง 2,000 ดอลลาร์ มันเป็นเรื่องเยี่ยม"
(ที่มา:รอยเตอร์)