ประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง ถูกฟ้องด้วยภาพว่า หลิ่วตาถวายเจ้าหญิงแคเธอริน ปรินเซสแห่งเวลส์ ในสไตล์จิ๊กโก๋ปารีเซียงรูปหล่อพ่อรวยและอารมณ์ดี ในงานพระราชพิธีเลี้ยงต้อนรับประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส และภริยา โดยในจังหวะที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงกล่าวเชิญแขกเหรื่อผู้เปี่ยมด้วยเกียรติยศระดับเซเลบริตี A-ลิสเตอร์กว่า 160 ท่าน พร้อมใจลุกยืนและร่วมดื่มให้แก่ความสัมพันธ์อันมั่นคงยาวนานระหว่างประเทศทั้งสอง ณ เซนต์จอร์จส์ ฮอลล์ พระราชวังวินด์เซอร์ เมื่อ 8 กรกฎาคม 2025 อันเป็นราตรีแรกของสเตทวิสิทครั้งประวัติศาสตร์สามวันซ้อน ซึ่งอัดแน่นด้วยหมายกำหนดการ รวมถึงการกล่าวปราศรัยในรัฐสภาอังกฤษและการประชุมโครงการความร่วมมือกับนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร เดลิเมลออนไลน์รายงาน
ในการนี้ เจ้าหญิงแคเธอริน ปรินเซสแห่งเวลส์ พระราชสุณิสาผู้ทรงเป็นขวัญใจชาวโลกและเจ้าของพระนามติดปากครัวเรือนต่างๆ ว่าปรินเซสเคท ทรงเสด็จออกพร้อมสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ สมเด็จพระราชินีคามิลลา และเจ้าฟ้าชายวิลเลียม ในงานพระราชพิธีสเตทแบงเควทครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อค่ำคืนแห่งอังคารที่ 8 กรกฏาคม 2025 ในวโรกาสที่ประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง พร้อมสุภาพสตรีหมายเลข 1 บรีฌิต มาครง เดินทางเยือนเมืองผู้ดีอันเป็นสเตท วิสิท ครั้งแรกในรอบ 17 ปีอังกฤษ-ฝรั่งเศส ซึ่งก็คือ State Visit สุดยอดของการเยือนอย่างเป็นทางการ ที่ประมุขแห่งประเทศหนึ่ง ตอบรับคำเชิญจากประมุขแห่งอีกประเทศหนึ่งนั่นเอง
เนื่องจาก Saint George’s Hall ห้องจัดเลี้ยงหลวงอันเป็นที่สุดแห่งความโบราณกว่า 1,000 ปีและงามหรูไม่น้อยหน้าให้แก่ฮอลล์แห่งใดในสากลโลก ถูกออกแบบให้มีความยาวมหาศาล 55.5 เมตร การจัดแปลนโต๊ะรับรองแขกผู้เปี่ยมด้วยเกียรติยศจึงมิได้เป็นฟอร์มของอักษรตัวยูเกือกม้า ดั่งที่จะจัดกัน ณ พระราชวังบัคกิงแฮม หากเป็นการจัดวางโต๊ะขนาดความกว้างสองเมตร เรียงต่อกันยาวเหยียดสุดสายตา
โดยบริเวณตอนกลางของแถวโต๊ะจัดเลี้ยงทั้งหมด สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ องค์ประธานและเจ้าภาพของพระราชอีเวนท์ เสด็จประทับนั่งข้างซ้ายของประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ในเวลาเดียวกัน พระราชสุณิสาพระองค์ใหญ่ ได้แก่ เจ้าหญิงเคท ประทับนั่งด้านขวาของประธานาธิบดี เดอะซัน สื่อจอมอิทธิพลค่ายใหญ่ยักษ์ของอังกฤษรายงานไว้
พร้อมนี้ อีกฟากหนึ่งของแนวโต๊ะอันงดงามอลังการ มาดามบรีฌิต มาครง นั่งตรงข้ามกับท่านประธานาธิบดี โดยมีสมเด็จพระราชินีคามิลลากับเจ้าฟ้าชายวิลเลียม องค์รัชทายาทลำดับที่ 1 แห่งพระราชบัลลังก์อังกฤษ ประทับนั่งประกบทั้งด้านซ้ายและด้านขวาอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง
พิธีการดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานหรูหราของนานาประเทศในยุโรป ดังนั้น ปรินเซสเคท ซึ่งเว็บไซต์ข่าวฮับเพจเจสรายงานว่าทรงสนทนาภาษาฝรั่งเศสและอิตาลีได้บ้าง จึงทรงปฏิบัติพระภารกิจสนับสนุนสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ด้วยการสนทนากับประมุขแห่งฝรั่งเศส ในเวลาเดียวกัน ในด้านของปรินซ์วิลเลียมก็ทรงรับพระบทบาทคู่สนทนาสุภาพน่ารักกับสุภาพสตรีหมายเลข 1 เพื่อเสริมสร้างความประทับใจ
แอมานุแอล มาครง ปลาบปลื้มเจ้าหญิงเคทแบบเชิดชูเวอร์วัง โดยออกอาการชัดเจนเห็นได้ในคลิปด้านล่าง ซึ่งนี่เป็นเฟสที่ 2
พระภารกิจของปรินเซสเคทนับว่าชิลๆ เพราะหนุ่มปารีเซียงพราวเสน่ห์นาม แอมานุแอล มาครง ออกทรงว่าจะชื่นชมปรินเซสเคทอย่างไม่เก้อเขินที่จะแสดงออกตั้งแต่จังหวะแรกกันเลยทีเดียว
ทั้งนี้ เจ้าฟ้าชายวิลเลียมกับเจ้าหญิงเคท ในพระฐานันดรศักดิ์แห่งปรินซ์แอนด์ปรินเซสออฟเวลส์ ทรงเป็นผู้แทนพระองค์คิงชาร์ลส์ในการเสด็จต้อนรับประธานาธิบดีและสุภาพสตรีหมายเลข 1 ณ สนามบินกองทัพอากาศนอร์ธอล์ท Royal Air Force Northolt ทางลอนดอนตะวันตก ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนด้วยกันไปสู่พระราชวังวินด์เซอร์ เดลิเมลออนไลน์รายงาน
เมื่อประตูเครื่องบินประจำตำแหน่งเปิดออก ประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง ก้าวลงบันไดมายังพรมแดง ทักทายท่านทูตอิเลนนา ดูเชนน์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศอังกฤษซึ่งยืนรอต้อนรับริมขั้นบันได แล้วเงยหน้าขึ้นมองรอสุภาพสตรีหมายเลข 1 มาดามบรีฌิต มาครง ก้าวลงขั้นบันไดมาสมทบ ซึ่งเมื่อประธานาธิบดีผู้แสนจะสุภาพบุรุษยื่นมือจะประคองมาดามสู่พื้นพรมแดง ผู้เป็นศรีภริยาในชุดเดินทางสง่านุ่มนวล ส่งภาษากายให้ท่านสามีรีบไปทักทายเจ้าฟ้าชายวิลเลียมได้เลย ประมาณว่าไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้
หลังจากนั้น เป็นราชอีเวนต์เด่นหนึ่งในสองรายการของเช้าวันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2025 กล่าวคือ VVIP ทั้งสองท่านจากสาธารณรัฐฝรั่งเศสได้รับการต้อนรับสู่แผ่นดินอังกฤษโดยพระมหากษัตริย์และพระราชินีแห่งอนาคต หรือก็คือ ปรินซ์และปรินเซสแห่งเวลส์นั่นเอง
ประธานาธิบดีมาครงทักทาย เช็กแฮนด์ และสนทนาแจ่มใส กับปรินซ์วิลเลียมในอิริยาบถนุ่มนวล แล้วมือซ้ายที่ว่างอยู่เคลื่อนแตะพระกรแบบพระสหายสนิทผู้ปลาบปลื้มที่พบปะกันอีกครา ในวินาทีต่อมา มือซ้ายสะอาดสะอ้านและนิ้วเรียวยาวเลื่อนไปจับประกบพระหัตถ์ขวาของปรินซ์วิลเลียมอย่างรักใคร่ผูกพัน ด้วยว่าสองหนุ่มสองมุมวัยห่างกันเพียง 3-4 ปี มีการพบกันอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการมาก่อนแล้วหลายๆ ครั้ง อาทิ เมื่อธันวาคม 2024 ที่ปรินซ์วิลเลียมเสด็จเยือนกรุงปารีส ในโอกาสที่ฝรั่งเศสจัดพิธีเปิดตัวอาสนวิหารน็อทร์-ดาม อย่างยิ่งใหญ่อลังการ หลังถูกปิดซ่อมให้กลับมางดงามดุจเดิมนานกว่า 5 ปี นับแต่ที่เกิดเพลิงไหม้วอดวายเมื่อปี 2019
หลังจากนั้น ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศสเขยิบเข้าทักทายปรินเซสเคท
โดยในขณะที่มาดามบรีฌิตเช็กแฮนด์และสนทนากับปรินซ์วิลเลียม ประธานาธิบดีแอมานุแอลเอนกายลงจุมพิตบนอากาศเหนือพระหัตถ์ขวาของปรินเซสเคท ในท่วงท่าลีลาอันสง่า สุภาพ และอ่อนหวาน สำนักข่าวแอลบีซีแห่งสหราชอาณาจักรรายงานประกอบภาพถ่ายไว้อย่างละเอียด
หลังจากนั้น ปรินซ์วิลเลียมทรงพาพระราชอาคันตุกะของเสด็จพระราชบิดา ออกเดินทักทายบรรดาผู้ทรงเกียรติซึ่งยืนรอต้อนรับต่อเนื่องกันไปตามรายทางของพรมแดง โดยส่วนใหญ่เป็นคณะนายทหารระดับสูง
เมื่อเสร็จสิ้นอิ่มเอิบใจกันทั่วหน้า ประธานาธิบดีและภริยาก้าวขึ้นลีมูซีนของสถานทูตฝรั่งเศสประจำกรุงลอนดอน ขณะที่ปรินซ์และปรินเซสแห่งเวลส์ทรงก้าวขึ้นพระราชยานยนต์ แล้วเคลื่อนขบวน 5 คันไปยังเขตพระราชฐานวินด์เซอร์
บรรยายคลิป 1
ณ นาทีที่ 3.40 ในคลิปนี้ ประธานาธิบดีมาครง ประจงจุมพิตบนอากาศเหนือพระหัตถ์ขวาของปรินเซสเคทอย่างสุภาพอ่อนหวาน ด้วยระเบียบร่างกายที่สุดแสนจะสง่าและสมบูรณ์แบบ
ในห้วงก่อนเที่ยงของวันเดียวกัน มีการจัดพระราชพิธีต้อนรับอันยิ่งใหญ่อลังการ ณ พระราชวังวินด์เซอร์ ซึ่งเริ่มต้นด้วยกิจกรรมเก๋กู๊ดสุดที่จะภูมิใจเสนอ
กล่าวคือ ขบวนเสด็จแบบโบราณราชประเพณีที่ใช้พระราชยานเทียมม้าพระที่นั่งเก๋ง โดยมีบรรดานายทหารม้าราชองครักษ์ในเครื่องแบบหรูหราสง่างาม ที่รักษาสืบทอดมาตั้งแต่ยุคสมัยอันเรืองรองของสมเด็จพระราชินีนาถวิกทอเรีย (อเลกซานดรินา วิกทอเรีย 1819-1901) จำนวน 50 นายจากกองร้อยทหารม้าถวายอารักขา ทั้งนำขบวนและตามปิดท้าย
พร้อมทั้งยังมีทหารหลายร้อยนายจากกองทัพบก กองทัพอากาศ และกองทัพเรือซึ่งครบครันทั้งราชนาวีและราชนาวิกโยธิน ยืนเรียงรายถวายอารักขาโดยตลอดทุกถนนที่พระราชยานเทียมม้าของคณะวีวีไอพีวิ่งผ่านไปยังปราสาทวินด์เซอร์ เดอะซันรายงาน
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงนำประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง แห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสขึ้นนั่งบนพระราชยานเทียมม้าพระที่นั่งเก๋ง “สเตท แลนโด 1902” ซึ่งจัดเตรียมไว้เป็นแบบเปิดประทุนให้สามารถชมบรรดาอาคารโบราณสองฟากฝั่งถนน และให้ได้ตระการตากับธงชาติฝรั่งเศสและธงชาติอังกฤษที่โบกไสวเรียงรายงดงามสลับกันตลอดเส้นทาง พร้อมนี้ การชมความหรูหราแห่งเมืองในเขตพระราชฐาน ยังเป็นโอกาสที่จะได้ทักทายกับประชาชนหลายพันรายผู้รอรับเสด็จ และรอโบกมือและเปล่งเสียงร้องเชียร์เพื่อต้อนรับพระราชอาคันตุกะ ตามถนนสายต่างๆ ที่ทอดตัวสู่ปราสาทวินด์เซอร์
ด้านสมเด็จพระราชินีคามิลลาก็ทรงปฏิบัติในทำนองอันสง่างามแบบเดียวกัน กล่าวคือ ทรงนำมาดามสุภาพสตรีหมายเลข 1 แห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ขึ้นนั่งบนพระราชยานเทียมม้าพระที่นั่งเก๋ง “เซมิ-สเตทแลนโด” ซึ่งเปิดประทุนให้ชมความงดงามบนสองข้างทางและทักทายประชาชนเช่นกัน
ส่วนสำหรับพระราชยานเทียมม้าพระที่นั่งเก๋งลำดับที่สาม ปรินซ์และปรินเซสแห่งเวลส์ทรงนำสองรัฐมนตรีจากสาธารณรัฐฝรั่งเศสขึ้นไปเดินทางด้วยกัน ซึ่งได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดลีเมลออนไลน์รายงาน
ณ ปราสาทวินด์เซอร์อันโบราณนานโพ้นกว่า 1,000 ปี วีวีไอพีจากฝรั่งเศสทั้งสองท่านแวะเข้าห้องพักรับรองนานหนึ่งครู่ใหญ่ เพื่อพักผ่อนอิริยาบถจากการเดินทาง อีกทั้งก็จะได้ดูแลความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมก่อนจะออกงานใหญ่ที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส และนานาประเทศโดยทั่วถึง
เมื่อทุกท่านทุกพระองค์ทรงพร้อมหนึ่งร้อยเปอร์เซนต์ คิงชาร์ลส์และควีนคามิลลาเสด็จออกก่อน โดยใช้พระราชยานยนต์มุ่งหน้าไปยังปะรำพิธีด้านหน้าปราสาทวินด์เซอร์ และทรงทักทายบรรดาแขกวีไอพีที่ตั้งแถวรับเสด็จบนเวที
ราวสิบนาทีต่อมา ประธานาธิบดีแอมานุแอลกับภริยา ขึ้นลีมูซีนของสถานทูตฝรั่งเศส ขณะที่ปรินซ์และปรินเซสแห่งเวลส์ ก้าวเข้าสู่พระราชยานยนต์ แล้วขบวนก็เคลื่อนไปยังเวทีแห่งพระราชพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ
สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ กษัตริย์ผู้หลงใหลในศิลปะและความงาม ทรงสวีตคลาสิกกับมาดามบรีฌิต สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของฝรั่งเศส
สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์และสมเด็จพระราชินีคามิลลาทรงพระราชทานการต้อนรับอันสง่างาม และอบอุ่นใกล้ชิดแด่ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ผู้ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่ามีความสนิทสนมอย่างแนบแน่นในทางส่วนตัวกับพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักร ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ยังทรงเป็นรัชทายาทหมายเลข 1 แห่งพระราชบัลลังก์อังกฤษ แม้ว่าในภาพรวมระดับประเทศนั้น เมืองน้ำหอมกับเมืองผู้ดีจะเปรี้ยวใส่กันในหลายประเด็น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณี Brexit ที่อังกฤษถอนตัวจากอียู ส่งผลเป็นความขุ่นเคืองในฝ่ายฝรั่งเศสเป็นอย่างยิ่ง และกรณีคลื่นผู้อพยพลักลอบออกจากชายฝั่งฝรั่งเศส เพื่อข้ามช่องแคบอังกฤษ ไปขึ้นบกที่เกาะเกรทบริเตน ซึ่งฝ่ายอังกฤษกล่าวหาว่ารัฐบาลฝรั่งเศสไม่เอาจริงกับการช่วยป้องกันปัญหาให้แก่อังกฤษ
ในช่วงต้นๆ บนเวทีพระราชพิธี คิงชาร์ลส์ผู้ทรงคุ้นเคยกับวัฒนธรรมฝรั่งเศสอยู่ในพระราชดีเอ็นเอ ทรงพระราชทานจุมพิตเจ้าเสน่ห์บนมือขวาบอบบางของมาดามบรีฌิต มาครง สุภาพสตรีหมายเลข 1 จากเมืองน้ำหอม ผู้อ่อนวัยกว่าพระองค์เพียง 4 ปี (72 กะรัต) จุมพิตอันนุ่มนวลบนมือเป็นการแสดงถึงความชื่นชม รัก และนับถือ ที่ให้ผลดีมหาศาลในเชิงการทูต
อันที่จริง เมื่อหนึ่งปีก่อนหน้า ในวโรกาสที่กษัตริย์ชาร์ลส์และพระราชินีคามิลลาเสด็จร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 80 ปีแห่งวัน D-Day ณ 6 มิถุนายน 2024 ที่เมืองแซ็งต์ แมร์-เอกลิส เมืองริมทะเลตอนเหนือของฝรั่งเศส เพื่อไว้อาลัยแก่ทหารหาญแห่งกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรที่ยกพลข้ามช่องแคบอังกฤษไปขึ้นบก ณ หาดยุทธศาสตร์แห่งแคว้นนอร์มังดี จนกระทั่งเมืองแซ็งต์ แมร์-เอกลิส เป็นเมืองแรกที่ได้รับการปลดปล่อยจากการยึดครองของนาซีเยอรมัน และในปีต่อมาก็สามารถช่วยปลดปล่อยยุโรปตะวันตกได้ทั้งหมดในมหาสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น คิงชาร์ลส์ก็ได้พระราชทานจุมพิตอันทรงเกียรติแด่บรีฌิต มาครง ในท่ามกลางแสงตะวันอบอุ่นของนอร์มันดี ก่อนที่พิธีรำลึกจะเริ่มต้น
เดลิเมลออนไลน์รายงานไว้อย่างนั้น พร้อมกับรายงานด้วยว่าสุภาพสตรีหมายเลข 1 แห่งฝรั่งเศสมีท่าทีประทับใจอย่างยิ่งที่ได้รับความชื่นชมมากมายจากพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษ
ด้านประธานาธิบดีมาครงก็ถวายจุมพิตบนพระหัตถ์ของควีนคามิลลา โดยในครานี้ ควีนทรงมิได้ยิงพระมุกแต่อย่างใด ดั่งที่ทรงเคยทำให้ประธานาธิบดีมาครงทั้งเขิน ทั้งขำ และทั้งยิ้มจนจมูกย่น เมื่อถวายจุมพิตบนพระหัตถ์ของควีนในช่วงก่อนเข้าสู่พิธีรำลึกครบรอบ 80 ปีแห่งวัน D-DAY ณ 6 มิถุนายน 2024
(ชมภาพฮาพิเศษ “ภาพเดียวในชีวิต” ของแอมานุแอล มาครง ได้ที่ https://www.dailymail.co.uk/news/article-13501563/King-Charles-Brigitte-Macron-President-Macron-charismatic-greets-Queen-royal-couple-waiting-DDay.html - ภาพที่ 2 จากบรรทัดพาดหัวข่าว)
พร้อมนี้ เดลิเมลออนไลน์รายงานว่าการพบปะกันอีกคราระหว่างประมุขของฝรั่งเศสกับองค์พระประมุขของอังกฤษในมหาวาระดังกล่าว ทั้งสองประมุขแสดงให้ชาวโลกได้เห็นถึงความสนิทสนมแนบแน่นแบบว่าถูกอัธยาศัยกันขั้นสุด โดยในบางพระรูปของสกู๊ปดังกล่าว ขณะที่มือขวาของประธานาธิบดีมาครงเช็กแฮนด์กับพระมหากษัตริย์น้ำพระทัยงดงามแห่งอังกฤษ มือซ้ายก็เกาะพระกรและบีบเบาๆ พลางหัวเราะตาหยี ลักยิ้มบุ๋มลึก ในอารมณ์ประจบคิงชาร์ลส์อย่างสุดดวงใจ ดั่งนักเรียนหัวกะทิประจบคุณครูคนโปรด พอเรียกได้ (ภาพที่ 4 และ 5 จากบรรทัดพาดหัวข่าว)
พิธีการต่างๆ สำหรับมหกรรมแห่งพระราชพิธีต้อนรับประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส และภริยา อย่างสมเกียรติถูกจัดเตรียมไว้ครบครัน เริ่มด้วยพิธียิงปืนใหญ่ด้วยลูกสลุต หรือก็คือ Salutio เพื่อเป็นเกียรติยศแก่ประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยยิงที่โฮมปาร์กในเขตพระราชฐานวินด์เซอร์จำนวน 41 ลูก และในเวลาเดียวกันก็ยิงที่ทาวเวอร์ออฟลอนดอน จำนวน 41 ลูกพร้อมกัน Army.mod.uk เว็บไซต์กองทัพบกอังกฤษรายงาน
ลำดับต่อมาเป็นการแปรขบวนเกียรติยศชุดใหญ่โดยกองทหารรักษาพระองค์ 2 ชุด จากกรมเกรนาเดียร์การ์ดส์ และกรมสกอตส์การ์ดส์ ซึ่งเป็นสองกรมที่เก่าแก่ที่สุดของกองทัพบกอังกฤษ คือ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17
ถัดจากนั้น กัปตันแห่งคณะทหารรักษาพระองค์กล่าวด้วยภาษาฝรั่งเศส เชิญประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศสออกตรวจแถวกองทหารเกียรติยศรักษาพระองค์ โดยมีพระมหากษัตริย์อังกฤษตามประกบใกล้ๆ ในเวลาเดียวกัน วงดุริยางค์บรรเลงเพลง L’Entente Cordiale ซึ่งปลุกขวัญมิตรภาพแห่งการความช่วยเหลือกันและกันในระหว่างประเทศทั้งสอง
ลำดับสุดท้ายเป็นขบวนสวนสนามโดยคณะทหารจากกองพลทหารราบรักษาพระองค์ และวงดุริยางค์บรรเลงเพลงสองชุด คือ Hielan Laddie กับ The British Grenadiers เป็นอันจบพิธี
บรรยากาศชื่นมื่นมิตรไมตรีทั้งปวง ดำเนินอยู่ในท่ามกลางสถานกาณ์ความสัมพันธ์ร้อนระอุระหว่างประเทศทั้งสอง ทั้งในทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้คนในอังกฤษไม่พอใจว่ารัฐบาลฝรั่งเศสไม่เอาจริงกับการสกัดกั้นผู้อพยพหลายๆ ชาติที่คอยจะขึ้นเรือยาง อันเป็นบริการผิดกฎมาย เพื่อออกจากฝั่งทะเลของฝรั่งเศส ข้ามช่องแคบอังกฤษ ไปขอลี้ภัยอยู่บนอภิมหาเกาะเกรทบริเทนปีละหลายหมื่นราย และกลายเป็นภาระของฝ่ายอังกฤษ ซึ่งสถานการณ์นี้ ส่งผลให้รัฐบาลอังกฤษทุกชุดถูกสาธารณชนตำหนิอย่างรุนแรงที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
สถานการณ์ย่ำแย่สาหัสดังกล่าวมีสัญญาณบ่งบอกความเปลี่ยนแปลง หลังจากรัฐบาลอังกฤษกับรัฐบาลฝรั่งเศสได้บรรลุข้อตกลงการขับเคลื่อนมาตรการควบคุมการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ที่จะทวีความเข้มงวดยิ่งขึ้นรอยเตอร์รายงานไว้
โดยเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 ในการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาเมอร์ แห่งอังกฤษ กับประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง แห่งฝรั่งเศส มีการบรรลุข้อตกลงสำคัญหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ปัญหาอันเรื้อรังที่บรรดาผู้อพยพหลากหลายชาติ ซึ่งอยู่ในฝรั่งเศส ใช้บริการเรือยางเถื่อน และลักลอบเดินทางข้ามช่องแคบอังกฤษ เพื่อหลบหนีเข้าสู่สหราชอาณาจักรปีละหลายหมื่นราย
ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ร่วมอังกฤษ-ฝรั่งเศส อังกฤษจะจับกุมและส่งกลับผู้อพยพผิดกฎหมายที่ลักลอบเข้าอังกฤษด้วยเรือยางเถื่อนซึ่งเป็นเรือขนาดเล็ก กลับไปยังฝรั่งเศส และจะชดเชยให้แก่ฝรั่งเศสด้วยการนำจำนวนผู้ที่ถูกส่งกลับ ไปเป็นโควตาที่จะให้ผู้อพยพที่พักรอในฝรั่งเศสซึ่งมิใช่กลุ่มที่พยายามลักลอบเข้าไปอย่างผิดกฎหมาย ได้รับสิทธิ์อพยพเข้าอังกฤษได้อย่างถูกต้อง
เปิดภาพซีนน่ารักเฟสที่ 1: แอมานุแอล มาครง ปลาบปลื้มเจ้าหญิงเคท โดยแสดงออกด้วยลีลาเชิดชูเวอร์วัง ซึ่งเห็นชัดเจนได้ในคลิป 2 ในการนี้ สื่อยักษ์ อาทิ เดอะซัน พาดหัวข่าวไม่ปลื้ม & ตำหนิรุนแรง
ภารกิจในวันแรกของประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง ดำเนินไปถึงกิจกรรมไฮไลท์ขั้นสุดในเวลาค่ำคืนอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2025 ซึ่งก็คือพระราชพิธีเลี้ยงต้อนรับประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส และภริยา ซึ่งสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรทรงเป็นเจ้าภาพ
ณ เวลา 20.30 น. ก่อนจะเริ่มเสิร์ฟอาหารคอร์สกะทัดรัด แต่สดชื่นมากมายหลายหลากด้วยไวน์ แชมเปญ บรั่นดี คอนญัคนั้น พระมหากษัตริย์อังกฤษทรงกล่าวเปิดพระราชพิธีและกล่าวสปีช ที่ทรงตรัสสลับไปมาระหว่างภาษาอังกฤษกับภาษาฝรั่งเศส และทรงย้ำถึงคุณค่าแห่งความร่วมมือร่วมใจของประเทศอังกฤษกับประเทศฝรั่งเศส ในอันที่จะสร้างความเข้มแข็งให้แก่ทวีปยุโรปเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากภายนอกซึ่งทวีความซับซ้อนอย่างที่ท้าทายเหลือเกิน พร้อมนี้ พระองค์ยังทรงยืนยันถึงความจำเป็นที่จะลดละการพึ่งพิงสหรัฐอเมริกาและจีน
ด้านประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าวสปีชสนับสนุนพระราชวิสัยทัศน์ พร้อมกับกล่าวยกย่องสรรเสริญสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ผู้ล่วงลับ
พร้อมนี้ ประธานาธิบดีมาครงแสดงความเป็นสุภาพบุรุษเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ให้ได้ประจักษ์กันทั่วประเทศในคลิปน่ารัก
โดยในเวลาที่แต่ละท่านในห้องพระราชพิธีพากันลงนั่ง เจ้าหญิงแคเธอรินทรงประทับยืนอยู่หลังพระเก้าอี้ ขณะที่ท่านประธานาธิบดียืนที่เก้าอี้อยู่แล้ว ท่านประธานาธิบดีช่วยเลื่อนพระเก้าอี้ของปรินเซสสุดสวย เพื่อเปิดทางให้พระนางขยับผ่านเข้าสู่ด้านหน้าของพระเก้าอี้ได้อย่างสะดวก ปรินเซสทรงแย้มพระสรวลและกล่าวขอบคุณ ก่อนจะนั่งลง โดยที่มือแข็งแรงของประธานาธิบดีช่วยเลื่อนให้พระเก้าอี้เข้ารองรับพระกายของเจ้าหญิงได้อย่างนุ่มเนิบเหมาะเจาะ ภารกิจสุภาพบุรุษสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านประธานาธิบดีจึงลงนั่งอย่างสบายใจ คลิปของแฟนคลับเจ้าหญิงเคทที่ใช้ชื่อแอคเคาท์ว่า RoyalCelebrity เล่าเรื่องด้วยวิดีโอไว้อย่างนั้น
ในด้านของแขกรับเชิญทั้งปวงก็มากมายด้วยสีสันเช่นกัน ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ในการกระชับสัมพันธ์และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศอังกฤษกับประเทศฝรั่งเศสให้ความสำคัญแก่มิติของศิลปะและวัฒนธรรม โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของฝรั่งเศสร่วมในคณะผู้แทนด้วย ดังนั้น จึงไม่น่าประหลาดใจที่สำนักพระราชวังบัคกิงแฮมจะออกหนังสือเชิญศิลปินนักร้อง นักแสดง นักกีฬา ที่โดดเด่นและได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มาร่วมในพระราชพิธีด้วย
อาทิ เซอร์เอลตัน จอห์น นักร้องนักแต่งเพลงระดับเซเลบริตีโลก ซึ่งมาพร้อมสามี กับ เซอร์มิก แจ็กเกอร์ ซูเปอร์ร็อกเกอร์ระดับตำนาน ซึ่งมาพร้อมคุณคู่หมั้น ตลอดจนนักแสดงชื่อเสียงโด่งดัง เดม คริสติน สก็อตต์ โทมัส และแมรี เอิร์ป สาวนักฟุตบอลทีมชาติ ซึ่งเป็นผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูและเป็นขวัญใจคนอังกฤษทั้งประเทศ ฯลฯ ดิอินดีเพนเดนท์รายงาน
เซเลบริตีผู้เรืองนามทั้งปวงนี้ นอกจากจะเป็นสีสันของพระราชพิธี ยังเป็นแม่เหล็กดึงดูดสื่อมวลชนได้อย่างล้นเหลือ
มากมายหลายหลากเสียงจากสาธารณชนชี้ว่าการมีสุดยอดนักร้อง นักกีฬา ดาราดัง และดาวค้างฟ้า ส่งผลดีใหญ่หลวงในการป้องกันการขโมยซีน-แย่งพื้นที่ข่าว ที่เคยเกิดขึ้นบ่อยครั้งโดยพระราชบุตรอย่างปรินซ์แฮร์รี กับพระราชสุณิสาเมแกน มาร์เคิล
และแล้ว สื่อมวลชนก็ได้ข่าวสีสันไปเมาท์มอยครึกครื้น เมื่อช่างภาพได้รูปทีเด็ดที่ประธานาธิบดีมาครง หลิ่วตาพลางยิ้มแย้มปลื้มหวานถวายเจ้าหญิงแคเธอริน ปรินเซสแห่งเวลส์
โดยในจังหวะที่คิงชาร์ลส์ทรงหันพระวรกายไปทางซ้าย ในอันที่จะชนแก้วกับมาดามราชิดา ดาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมแห่งฝรั่งเศส เพื่อแสดงความยินดีต่อความยั่งยืนในความสัมพันธ์อังกฤษ-ฝรั่งเศส ประธานาธิบดีมาครงก็หันไปทางขวา และชนแก้วกับเจ้าหญิงเคท พลางหลิ่วตาถวายในลีลาหนุ่มจิ๊กโก๋ปารีเซียง รูปหล่อพ่อรวย อารมณ์ดีและกิ๊วก๊าว
ปรากฏว่าบางค่ายสื่อยักษ์ใหญ่ไม่ปลื้มกับมุกวิ้ดวิ่วน่ารักของประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยเดอะซัน สื่อขาใหญ่ผู้ทรงอิทธิพล ติเตียนว่าเป็นการหว่านเสน่ห์อย่างน่ารังเกียจ หรือก็คือ Charm Offensive นั่นเอง อย่างไรก็ตาม พาดหัวข่าวนี้ของเดอะซันดำดิ่งหายไปในกระแสข่าวอันมากมายของการเยือน 3 วัน 8-10 กรกฎาคม 2025
กระนั้นก็ตาม ผู้สันทัดกรณีของเดลิเมลออนไลน์ออกมาช่วยอธิบายเกี่ยวกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยบอกให้ดูคลิปถ่ายทอดสดขณะที่พระมหากษัตริย์อังกฤษทรงกล่าวสปีช แล้วชี้ว่าท่านประมุขหลิ่วตายิ้มแย้มถวายคิงชาร์ลส์เมื่อพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสโดนใจ นอกจากนั้น ยังมีใครบางคนซึ่งนั่งฝั่งตรงข้ามเยื้องไปทางขวาของโต๊ะจัดเลี้ยง ได้รับการหลิ่วตาจากท่านประธานาธิบดี ประมาณว่าเป็นการทักทายแบบผู้ที่สนิทกันมาแต่เก่าก่อน เหล่านี้เป็นเครื่องชี้ว่าความอารมณ์ครึกครื้นเป็นหนึ่งในตัวตนแห่งแอมานุแอล มาครง พอกล่าวได้
“จุมพิตเกียรติยศ” ที่คิงชาร์ลส์พระราชทานรัวๆ บนมือเรียวบอบบางและแก้มงามซ้ายขวาของมาดามบรีฌีต มาครง
ข่าวฮือฮากรณีประธานาธิบดีฝรั่งเศสหลิ่วตาถวายเจ้าหญิงอังกฤษ ถูก “กลบ” ด้วยภาพข่าวที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์แห่งอังกฤษทรงพระราชทานจุมพิตลา กู๊ดบายคิส ครั้งแล้วครั้งเล่า ชุดใหญ่วิ้ดวิ่ว แด่มาดามบรีฌิต มาครง ผู้ยังครองเรือนกายให้ประเปรียวและวงหน้างามเก๋แจ่มจรัสได้อย่างน่าทึ่ง ณ วัย 72 กะรัต
โดยในวันเดินทางกลับ เมื่อพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม 2025 คิงชาร์ลส์ พร้อมด้วยควีนคามิลลา นำประธานาธีบดีมาครง และภริยา ไปเพลิดเพลินกับการชมคอกม้าส่วนพระองค์ โดยในท่ามกลางแสงตะวันสดใส คิงชาร์ลส์ทรงพระราชทานจุมพิตอันแสนสุภาพและให้เกียรติบนมือขวาของมาดามบรีฌิต มาครง ต่อด้วยจุมพิตนุ่มนวลบนแก้มงามทั้งซ้ายและขวา
แต่พิธีการของพระองค์ มิได้จบตรงช็อตนั้น คิงชาร์ลส์ทรงนำมืออบอุ่นของพระราชอาคันตุกะเข้าไปพระราชทานจุมพิตอีกหนึ่งรอบ น่าปลาบปลื้มอย่างที่สุด
ด้านประธานาธิบดีมาครงก็ถวายกู๊ดบายคิส แด่ควีนคามิลลา จำนวน 1 รอบ ชื่นมื่นฤทัยเช่นกัน
ยิ่งกว่านั้น ก่อนจะถึงเวลาที่พระราชอาคันตุกะจะต้องขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังสนามบิน ก็เป็นวาระสำคัญที่สุดของวัน กล่าวคือ พิธีการแห่งการอำลาที่จะต้องฝากรอยประทับให้ตราตรึงในดวงใจ โดยย้ายจากสวนสวยและคอกม้ามูลค่าหลายสิบล้านปอนด์ด้านหลังองค์ปราสาท ไปยังอาคารรับแขกด้านหน้าสุดของพระราชวังวินด์เซอร์
ณ เฉลียงส่งแขกเพดานสูงที่ตกแต่งด้วแผ่นไม้โบราณสีน้ำตาลกับกำแพงปูนสีเบจคลาสิก สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ทรงพระราชทานจุมพิตแด่มาดามบรีฌิต มาครง อีกหนึ่งรอบใหญ่ ตลอดจนบทสนทนาโอบอ้อมอารีอย่างสนิทเสน่หา แบบที่เกรียนคีย์บอร์ดเข้าไปเขียนแซวว่าทรงหลงเสน่ห์ปลาบปลื้มในพระราชอาคันตุกะอย่างเหลือเกิน ไม่อยากให้กลับเลย (ชมภาพในคลิปด้านล่าง)
สเตท วิสิท ครั้งประวัติศาสตร์ ที่ประมุขแห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษเชิญประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสไปเยือนอย่างเป็นทางการ หลังจากว่างเว้นไปแสนนานร่วมๆ 17 ปี ได้สำเร็จเสร็จสิ้นอย่างดีเยี่ยม สมตามความปรารถนาของรัฐบาลพรรคเลเบอร์ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มและตั้งเรื่องกราบบังคมทูลขึ้นไป จนกระทั่งบรรลุเป้าหมายทั้งปวง รายงานของเดลิเมลออนไลน์บอกไว้
บรรยายคลิป2
คลิปน่ารัก: คิงชาร์ลส์ทรงพระราชทานจุมพิตบนมือขวาของมาดามบรีฌิต มาครง ต่อด้วยจุมพิตนุ่มนวลบนแก้มซ้ายและแก้มขวา แต่พิธีการมิได้จบตรงช็อตนั้น คิงชาร์ลส์ทรงนำมืออบอุ่นของพระราชอาคันตุกะเข้าไปพระราชทานจุมพิตอีกหนึ่งรอบ น่าปลาบปลื้มอย่างที่สุด ด้านประธานาธิบดีมาครงก็ถวายกู๊ดบายคิส แด่ควีนคามิลลา จำนวน 1 รอบ ชื่นมื่นฤทัย
คอลัมน์ PLANET No.3
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: เดลิเมลออนไลน์ เดอะซัน parade.com Hub Pages LBC England Royal Celebrity Army.mod.uk อินดีเพนเดนท์ รอยเตอร์)