xs
xsm
sm
md
lg

PLANET #3 เปิดอัลบั้ม ปธน.มาครง จิ๊กโก๋ปารีเซียงสุดหล่อ หลิ่วตาถวายเจ้าหญิงเคท ก่อนนั้นก็คิสพระหัตถ์ ด้านคิงชาร์ลส์ทรงสวีทคลาสิกกับมาดามบรีฌิต มาครง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพที่ประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง ถูกจับได้ว่า หลิ่วตาถวายเจ้าหญิงแคเธอริน ปรินเซสแห่งเวลส์อย่างเก๋ไก๋ในสไตล์จิ๊กโก๋ปารีเซียง คือเครื่องยืนยันข้อสันนิษฐานของท่านผู้ชมว่า แอมานุแอล มาครง หลงใหลในเจ้าหญิงอังกฤษพระนางนี้มากมายชนิดที่ไม่คิดจะปิดบังอาการ และภาพสำคัญบานนี้ก็ปรากฏสู่สายตาสาธารณชนตามหลังมาติดๆ กับภาพที่แอมานุแอล มาครง ถวายจุมพิตบนอากาศเหนือพระหัตถ์ของปรินเซส อันเป็นภาพที่ถูกส่งต่อๆ กันไปในโลกอินเทอร์เน็ตจนกลายเป็นไวรัลล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ปฏิกิริยากระแสหลักของสาธารณชนปรากฏมาว่า ปลื้มไปด้วยกับปรินเซส โดยเว็บไซต์ข่าว parade.com เรียกลีลาของประธานาธิบดีฝรั่งเศสว่า เป็นเสน่ห์การทูตที่เชิดชูให้ “ปรินเซสเคท – กุหลาบอังกฤษผู้สมบูรณ์แบบที่สุดในชุดดิออร์จากฝรั่งเศส” ทวีความพิเศษมากขึ้น
ประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง ถูกฟ้องด้วยภาพว่า หลิ่วตาถวายเจ้าหญิงแคเธอริน ปรินเซสแห่งเวลส์ ในสไตล์จิ๊กโก๋ปารีเซียงรูปหล่อพ่อรวยและอารมณ์ดี ในงานพระราชพิธีเลี้ยงต้อนรับประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส และภริยา โดยในจังหวะที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงกล่าวเชิญแขกเหรื่อผู้เปี่ยมด้วยเกียรติยศระดับเซเลบริตี A-ลิสเตอร์กว่า 160 ท่าน พร้อมใจลุกยืนและร่วมดื่มให้แก่ความสัมพันธ์อันมั่นคงยาวนานระหว่างประเทศทั้งสอง ณ เซนต์จอร์จส์ ฮอลล์ พระราชวังวินด์เซอร์ เมื่อ 8 กรกฎาคม 2025 อันเป็นราตรีแรกของสเตทวิสิทครั้งประวัติศาสตร์สามวันซ้อน ซึ่งอัดแน่นด้วยหมายกำหนดการ รวมถึงการกล่าวปราศรัยในรัฐสภาอังกฤษและการประชุมโครงการความร่วมมือกับนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร เดลิเมลออนไลน์รายงาน

ในการนี้ เจ้าหญิงแคเธอริน ปรินเซสแห่งเวลส์ พระราชสุณิสาผู้ทรงเป็นขวัญใจชาวโลกและเจ้าของพระนามติดปากครัวเรือนต่างๆ ว่าปรินเซสเคท ทรงเสด็จออกพร้อมสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ สมเด็จพระราชินีคามิลลา และเจ้าฟ้าชายวิลเลียม ในงานพระราชพิธีสเตทแบงเควทครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อค่ำคืนแห่งอังคารที่ 8 กรกฏาคม 2025 ในวโรกาสที่ประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง พร้อมสุภาพสตรีหมายเลข 1 บรีฌิต มาครง เดินทางเยือนเมืองผู้ดีอันเป็นสเตท วิสิท ครั้งแรกในรอบ 17 ปีอังกฤษ-ฝรั่งเศส ซึ่งก็คือ State Visit สุดยอดของการเยือนอย่างเป็นทางการ ที่ประมุขแห่งประเทศหนึ่ง ตอบรับคำเชิญจากประมุขแห่งอีกประเทศหนึ่งนั่นเอง

เนื่องจาก Saint George’s Hall ห้องจัดเลี้ยงหลวงอันเป็นที่สุดแห่งความโบราณกว่า 1,000 ปีและงามหรูไม่น้อยหน้าให้แก่ฮอลล์แห่งใดในสากลโลก ถูกออกแบบให้มีความยาวมหาศาล 55.5 เมตร การจัดแปลนโต๊ะรับรองแขกผู้เปี่ยมด้วยเกียรติยศจึงมิได้เป็นฟอร์มของอักษรตัวยูเกือกม้า ดั่งที่จะจัดกัน ณ พระราชวังบัคกิงแฮม หากเป็นการจัดวางโต๊ะขนาดความกว้างสองเมตร เรียงต่อกันยาวเหยียดสุดสายตา

โดยบริเวณตอนกลางของแถวโต๊ะจัดเลี้ยงทั้งหมด สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ องค์ประธานและเจ้าภาพของพระราชอีเวนท์ เสด็จประทับนั่งข้างซ้ายของประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ในเวลาเดียวกัน พระราชสุณิสาพระองค์ใหญ่ ได้แก่ เจ้าหญิงเคท ประทับนั่งด้านขวาของประธานาธิบดี เดอะซัน สื่อจอมอิทธิพลค่ายใหญ่ยักษ์ของอังกฤษรายงานไว้

พร้อมนี้ อีกฟากหนึ่งของแนวโต๊ะอันงดงามอลังการ มาดามบรีฌิต มาครง นั่งตรงข้ามกับท่านประธานาธิบดี โดยมีสมเด็จพระราชินีคามิลลากับเจ้าฟ้าชายวิลเลียม องค์รัชทายาทลำดับที่ 1 แห่งพระราชบัลลังก์อังกฤษ ประทับนั่งประกบทั้งด้านซ้ายและด้านขวาอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง

พิธีการดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานหรูหราของนานาประเทศในยุโรป ดังนั้น ปรินเซสเคท ซึ่งเว็บไซต์ข่าวฮับเพจเจสรายงานว่าทรงสนทนาภาษาฝรั่งเศสและอิตาลีได้บ้าง จึงทรงปฏิบัติพระภารกิจสนับสนุนสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ด้วยการสนทนากับประมุขแห่งฝรั่งเศส ในเวลาเดียวกัน ในด้านของปรินซ์วิลเลียมก็ทรงรับพระบทบาทคู่สนทนาสุภาพน่ารักกับสุภาพสตรีหมายเลข 1 เพื่อเสริมสร้างความประทับใจ

แอมานุแอล ฌ็อง-มีแชล เฟรเดริก มาครง (Emmanuel Jean-Michel Fr?d?ric Macron) นักการเมืองหนุ่มใหญ่โฉมงามชาวราศีธนูขนานแท้ (21 ธันวาคม 1977 – 47 ปี) เคยเป็นข้าราชการพลเรือนระดับสูง และอดีตวาณิชธนกร ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสและเจ้าผู้ร่วมครองอันดอร์รา มาแล้วกว่า 8 ปี ในภาพนี้ที่กำลังชนแก้วกริ๊กๆ กับเจ้าหญิงแคเธอริน ท่านประธานาธิบดีดูหล่อกว่าปกติ น่าจะเป็นเพราะอยู่ในอารมณ์ชื่นมื่นชื่นชมปรินเซสเคทอย่างเปิดเผย ไม่มีการเก้อเขินที่จะแสดงออก

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงชนแก้วไวน์กับประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง ประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสผู้ซึ่งเดินทางมาเยือนอังกฤษ 3 วัน 2 คืน (8-10 กรกฎาคม 2025) ตามการเชิญของประมุขแห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ ภายในสภาพแวดล้อมทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมที่น่าเป็นห่วงมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แรงกดดันจากความเปลี่ยนแปลงในนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา

ณ ช่วงกลางของแถวโต๊ะจัดเลี้ยงอันยาวเหยียดราว 50 เมตร สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรทรงประทับเป็นองค์ประธานแห่งพระราชพิธีเลี้ยงต้อนรับ (ประทับยืนและกล่าวสปีช) โดยมีประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง แห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสนั่งเคียงข้าง และเจ้าหญิงแคเธอริน ปรินเซสแห่งเวลส์ประทับนั่งทางขวาของท่านประธานาธิบดี พร้อมนี้ ในอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะ มาดามบรีฌิต มาครง สุภาพสตรีหมายเลข 1 แห่งฝรั่งเศส (ชุดสีน้ำเงิน) นั่งตรงข้ามกับท่านประธานาธิบดี โดยนั่งเคียงข้างกับสมเด็จพระราชินีคามิลลา (ด้านซ้ายของมาดามมาครง แต่ไม่เห็นในภาพเพราะมีรัฐมนตรีกลาโหมแห่งฝรั่งเศสนั่งบังมุมกล้อง) ในเวลาเดียวกัน เจ้าฟ้าชายวิลเลียม ปรินซ์แห่งเวลส์ทรงประทับนั่งด้านขวาของมาดามมาครง โดยอยู่ตรงข้ามเสด็จพระราชบิดา

สมเด็จพระราชินีคามิลลา (หันหลังให้กล้อง ที่สองจากซ้าย ชุดราตรีขาว) ทรงประทับนั่งเคียงข้าง สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของฝรั่งเศส บรีฌิต มาครง (ที่สามจากซ้าย ชุดสีน้ำเงิน) โดยมีเจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงประทับนั่งในลำดับถัดมา ทั้งนี้ 3 วีวีไอพีปรากฏในพระรูปเสมือนว่ามิได้นั่งตรงข้ามกับสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ เป็นเพราะจุดที่ช่างภาพยืนนั้น เฉียงมาทางขวาค่อนข้างมาก ส่วนสุภาพบุรุษที่ได้นั่งทางด้านซ้ายของควีนคามิลลา คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของฝรั่งเศส
แอมานุแอล มาครง ปลาบปลื้มเจ้าหญิงเคทแบบเชิดชูเวอร์วัง โดยออกอาการชัดเจนเห็นได้ในคลิปด้านล่าง ซึ่งนี่เป็นเฟสที่ 2

พระภารกิจของปรินเซสเคทนับว่าชิลๆ เพราะหนุ่มปารีเซียงพราวเสน่ห์นาม แอมานุแอล มาครง ออกทรงว่าจะชื่นชมปรินเซสเคทอย่างไม่เก้อเขินที่จะแสดงออกตั้งแต่จังหวะแรกกันเลยทีเดียว

ทั้งนี้ เจ้าฟ้าชายวิลเลียมกับเจ้าหญิงเคท ในพระฐานันดรศักดิ์แห่งปรินซ์แอนด์ปรินเซสออฟเวลส์ ทรงเป็นผู้แทนพระองค์คิงชาร์ลส์ในการเสด็จต้อนรับประธานาธิบดีและสุภาพสตรีหมายเลข 1 ณ สนามบินกองทัพอากาศนอร์ธอล์ท Royal Air Force Northolt ทางลอนดอนตะวันตก ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนด้วยกันไปสู่พระราชวังวินด์เซอร์ เดลิเมลออนไลน์รายงาน


เมื่อประตูเครื่องบินประจำตำแหน่งเปิดออก ประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง ก้าวลงบันไดมายังพรมแดง ทักทายท่านทูตอิเลนนา ดูเชนน์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศอังกฤษซึ่งยืนรอต้อนรับริมขั้นบันได แล้วเงยหน้าขึ้นมองรอสุภาพสตรีหมายเลข 1 มาดามบรีฌิต มาครง ก้าวลงขั้นบันไดมาสมทบ ซึ่งเมื่อประธานาธิบดีผู้แสนจะสุภาพบุรุษยื่นมือจะประคองมาดามสู่พื้นพรมแดง ผู้เป็นศรีภริยาในชุดเดินทางสง่านุ่มนวล ส่งภาษากายให้ท่านสามีรีบไปทักทายเจ้าฟ้าชายวิลเลียมได้เลย ประมาณว่าไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้

หลังจากนั้น เป็นราชอีเวนต์เด่นหนึ่งในสองรายการของเช้าวันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2025 กล่าวคือ VVIP ทั้งสองท่านจากสาธารณรัฐฝรั่งเศสได้รับการต้อนรับสู่แผ่นดินอังกฤษโดยพระมหากษัตริย์และพระราชินีแห่งอนาคต หรือก็คือ ปรินซ์และปรินเซสแห่งเวลส์นั่นเอง

ประธานาธิบดีมาครงทักทาย เช็กแฮนด์ และสนทนาแจ่มใส กับปรินซ์วิลเลียมในอิริยาบถนุ่มนวล แล้วมือซ้ายที่ว่างอยู่เคลื่อนแตะพระกรแบบพระสหายสนิทผู้ปลาบปลื้มที่พบปะกันอีกครา ในวินาทีต่อมา มือซ้ายสะอาดสะอ้านและนิ้วเรียวยาวเลื่อนไปจับประกบพระหัตถ์ขวาของปรินซ์วิลเลียมอย่างรักใคร่ผูกพัน ด้วยว่าสองหนุ่มสองมุมวัยห่างกันเพียง 3-4 ปี มีการพบกันอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการมาก่อนแล้วหลายๆ ครั้ง อาทิ เมื่อธันวาคม 2024 ที่ปรินซ์วิลเลียมเสด็จเยือนกรุงปารีส ในโอกาสที่ฝรั่งเศสจัดพิธีเปิดตัวอาสนวิหารน็อทร์-ดาม อย่างยิ่งใหญ่อลังการ หลังถูกปิดซ่อมให้กลับมางดงามดุจเดิมนานกว่า 5 ปี นับแต่ที่เกิดเพลิงไหม้วอดวายเมื่อปี 2019

หลังจากนั้น ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศสเขยิบเข้าทักทายปรินเซสเคท

โดยในขณะที่มาดามบรีฌิตเช็กแฮนด์และสนทนากับปรินซ์วิลเลียม ประธานาธิบดีแอมานุแอลเอนกายลงจุมพิตบนอากาศเหนือพระหัตถ์ขวาของปรินเซสเคท ในท่วงท่าลีลาอันสง่า สุภาพ และอ่อนหวาน สำนักข่าวแอลบีซีแห่งสหราชอาณาจักรรายงานประกอบภาพถ่ายไว้อย่างละเอียด


หลังจากนั้น ปรินซ์วิลเลียมทรงพาพระราชอาคันตุกะของเสด็จพระราชบิดา ออกเดินทักทายบรรดาผู้ทรงเกียรติซึ่งยืนรอต้อนรับต่อเนื่องกันไปตามรายทางของพรมแดง โดยส่วนใหญ่เป็นคณะนายทหารระดับสูง

เมื่อเสร็จสิ้นอิ่มเอิบใจกันทั่วหน้า ประธานาธิบดีและภริยาก้าวขึ้นลีมูซีนของสถานทูตฝรั่งเศสประจำกรุงลอนดอน ขณะที่ปรินซ์และปรินเซสแห่งเวลส์ทรงก้าวขึ้นพระราชยานยนต์ แล้วเคลื่อนขบวน 5 คันไปยังเขตพระราชฐานวินด์เซอร์

ประธานาธิบดีมาครง ประจงจุมพิตบนอากาศเหนือพระหัตถ์ขวาของปรินเซสเคทอย่างสุภาพอ่อนหวาน ด้วยระเบียบร่างกายที่สุดแสนจะเป๊ะและสมบูรณ์แบบ รับคะแนนเต็ม 10 ไม่หัก กันเลยทีเดียว

ประธานาธิบดีมาครงอายุมากกว่าปรินซ์วิลเลียม 4-5 ปี (ธันวาคม 1977 vs มิถุนายน 1982) และในห้วง 7-8 ปีที่ประธานาธิบดีมาครงดำรงตำแหน่งประมุขของประเทศ ทั้งสองต่างชื่นชมในวิสัยทัศน์และคุณงามความดีของกันและกัน เมื่อมีโอกาสต้อนรับการมาเยือน ภาษากายที่ปรากฏให้สาธารณชนได้เห็นจึงเป็นบรรยากาศที่คุ้นเคยและไว้วางใจแบบสหายสนิทนั่นเอง

ปรินเซสเคททรงใช้เครื่องแต่งกายของแบรนด์ดิออร์แห่งฝรั่งเศสเป็นครั้งแรก เดลิเมลออนไลน์บอกไว้ พร้อมให้รายละเอียดว่า โดยตลอดที่ผ่านมาพระนางจะใช้เครื่องแต่งกายของห้องเสื้อต่างๆ ในอังกฤษ อย่างไรก็ตาม พระภารกิจครั้งนี้เป็นการต้อนรับประมุขแห่งเมืองน้ำหอม จึงทรงส่งสัญญาณมิตรไมตรีไปให้ชื่นใจว่า พระองค์ทรงยินดีที่จะอุดหนุนผลิตภัณฑ์ของประเทศเพื่อนบ้าน เดลิเมลออนไลน์รายงาน

ปรินซ์และปรินเซสแห่งเวลส์ ว่าที่พระมหากษัตริย์และพระราชินีในอนาคต คือสองพระองค์ที่ทรงเหมาะสมที่สุดในการเป็นผู้แทนพระองค์สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ไปต้อนรับประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง ประมุขสองสมัยแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส และภริยา เมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2568 ทั้งนี้ ในปีนี้ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์และพระราชินีคามิลลาทรงเจริญพระชนมายุ 77 พรรษากันแล้ว จึงเป็นการสมควรที่จะถนอมพระวรกาย ที่ผ่านมา แอมานุแอล มาครง ครองตำแหน่งสูงสุดของประเทศ (2017-2022 และ 2022-2027) มากว่า 8 ปีเต็มๆ แล้ว หรือก็คือ 1.5 สมัยแล้ว

ประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง เป็นพระสหายกับปรินซ์วิลเลียมมานานปี โดยมีการพบกันอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการในหลายๆ วาระ อาทิ ในเดือนธันวาคม 2024 ในโอกาสที่ฝรั่งเศสจัดพิธีเปิดตัวอาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีสอย่างยิ่งใหญ่อลังการ (หลังปิดซ่อมใหม่ให้กลับมางดงามดุจเดิมนานกว่า 5 ปี เพราะเกิดเพลิงไหม้วอดวายเมื่อปี 2019) นั้น ประธานาธิบดีมาครงส่งหนังสือเชิญเสด็จเข้าร่วมพิธีดังกล่าวอย่างเป็นทางการ

บรรยายคลิป 1
ณ นาทีที่ 3.40 ในคลิปนี้ ประธานาธิบดีมาครง ประจงจุมพิตบนอากาศเหนือพระหัตถ์ขวาของปรินเซสเคทอย่างสุภาพอ่อนหวาน ด้วยระเบียบร่างกายที่สุดแสนจะสง่าและสมบูรณ์แบบ

ในห้วงก่อนเที่ยงของวันเดียวกัน มีการจัดพระราชพิธีต้อนรับอันยิ่งใหญ่อลังการ ณ พระราชวังวินด์เซอร์ ซึ่งเริ่มต้นด้วยกิจกรรมเก๋กู๊ดสุดที่จะภูมิใจเสนอ

กล่าวคือ ขบวนเสด็จแบบโบราณราชประเพณีที่ใช้พระราชยานเทียมม้าพระที่นั่งเก๋ง โดยมีบรรดานายทหารม้าราชองครักษ์ในเครื่องแบบหรูหราสง่างาม ที่รักษาสืบทอดมาตั้งแต่ยุคสมัยอันเรืองรองของสมเด็จพระราชินีนาถวิกทอเรีย (อเลกซานดรินา วิกทอเรีย 1819-1901) จำนวน 50 นายจากกองร้อยทหารม้าถวายอารักขา ทั้งนำขบวนและตามปิดท้าย

พร้อมทั้งยังมีทหารหลายร้อยนายจากกองทัพบก กองทัพอากาศ และกองทัพเรือซึ่งครบครันทั้งราชนาวีและราชนาวิกโยธิน ยืนเรียงรายถวายอารักขาโดยตลอดทุกถนนที่พระราชยานเทียมม้าของคณะวีวีไอพีวิ่งผ่านไปยังปราสาทวินด์เซอร์ เดอะซันรายงาน

ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงนำประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง แห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสขึ้นนั่งบนพระราชยานเทียมม้าพระที่นั่งเก๋ง “สเตท แลนโด 1902” ซึ่งจัดเตรียมไว้เป็นแบบเปิดประทุนให้สามารถชมบรรดาอาคารโบราณสองฟากฝั่งถนน และให้ได้ตระการตากับธงชาติฝรั่งเศสและธงชาติอังกฤษที่โบกไสวเรียงรายงดงามสลับกันตลอดเส้นทาง พร้อมนี้ การชมความหรูหราแห่งเมืองในเขตพระราชฐาน ยังเป็นโอกาสที่จะได้ทักทายกับประชาชนหลายพันรายผู้รอรับเสด็จ และรอโบกมือและเปล่งเสียงร้องเชียร์เพื่อต้อนรับพระราชอาคันตุกะ ตามถนนสายต่างๆ ที่ทอดตัวสู่ปราสาทวินด์เซอร์

ด้านสมเด็จพระราชินีคามิลลาก็ทรงปฏิบัติในทำนองอันสง่างามแบบเดียวกัน กล่าวคือ ทรงนำมาดามสุภาพสตรีหมายเลข 1 แห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ขึ้นนั่งบนพระราชยานเทียมม้าพระที่นั่งเก๋ง “เซมิ-สเตทแลนโด” ซึ่งเปิดประทุนให้ชมความงดงามบนสองข้างทางและทักทายประชาชนเช่นกัน

ส่วนสำหรับพระราชยานเทียมม้าพระที่นั่งเก๋งลำดับที่สาม ปรินซ์และปรินเซสแห่งเวลส์ทรงนำสองรัฐมนตรีจากสาธารณรัฐฝรั่งเศสขึ้นไปเดินทางด้วยกัน ซึ่งได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดลีเมลออนไลน์รายงาน

ณ ปราสาทวินด์เซอร์อันโบราณนานโพ้นกว่า 1,000 ปี วีวีไอพีจากฝรั่งเศสทั้งสองท่านแวะเข้าห้องพักรับรองนานหนึ่งครู่ใหญ่ เพื่อพักผ่อนอิริยาบถจากการเดินทาง อีกทั้งก็จะได้ดูแลความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมก่อนจะออกงานใหญ่ที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส และนานาประเทศโดยทั่วถึง

เมื่อทุกท่านทุกพระองค์ทรงพร้อมหนึ่งร้อยเปอร์เซนต์ คิงชาร์ลส์และควีนคามิลลาเสด็จออกก่อน โดยใช้พระราชยานยนต์มุ่งหน้าไปยังปะรำพิธีด้านหน้าปราสาทวินด์เซอร์ และทรงทักทายบรรดาแขกวีไอพีที่ตั้งแถวรับเสด็จบนเวที

ราวสิบนาทีต่อมา ประธานาธิบดีแอมานุแอลกับภริยา ขึ้นลีมูซีนของสถานทูตฝรั่งเศส ขณะที่ปรินซ์และปรินเซสแห่งเวลส์ ก้าวเข้าสู่พระราชยานยนต์ แล้วขบวนก็เคลื่อนไปยังเวทีแห่งพระราชพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงพระราชทานการต้อนรับแด่ประธานาธิบดีมาครงอย่างยอดเยี่ยม อันได้แก่ ประสบการณ์บนพระราชยานเทียมม้าพระที่นั่งเก๋งโบราณ ภายในแวดล้อมของบรรดาทหารในเครื่องแบบหรูหรา และพระราชยานก็ถูกขับเคลื่อนไปตามถนนของเขตพระราชฐาน ซึ่งสองข้างทางมากมายด้วยอาคารเก่าแก่หลายร้อยปี ที่ยังมีสภาพใหม่สดใส พร้อมนี้ แอมานุแอล มาครง ผู้ซึ่งศึกษาเล่าเรียนในสาขาปรัชญาการเมือง เมื่อได้ใกล้ชิดกับคิงชาร์ลส์ ซึ่งศึกษาเล่าเรียนในสาขาประวัติศาสตร์ศิลป์ บทสนทนาจึงพรั่งพรู กลายเป็นโอกาสพิเศษของชีวิตอย่างแท้จริง

นับเป็นภาพที่น่าชื่นชม เมื่อสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์และประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง สนทนากันอย่างออกรสในระหว่างนั่งรถม้าโบราณ ทั้งนี้ แอมานุแอล มาครง นักเรียนเกรดเอหัวกะทิของรุ่น ถือกำเนิดและเติบโตขึ้นมาในครอบครัวชนชั้นกลางฐานะดี ภายในแวดวงปัญญาชนเมืองอาเมียงทางตอนเหนือของฝรั่งเศส คุณพ่อเป็นแพทย์ คุณแม่เป็นศาสตราจารย์ด้านประสาทวิทยา หลังจากเข้าสู่แวดวงนักการเมืองได้ระยะหนึ่ง ก็สามารถชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2017 และด้วยใจร้อนแรงที่จะเปลี่ยนแปลงสังคม ประธานาธิบดีมาครงลงมือสร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปฏิรูปกฎหมายแรงงานและกฎหมายภาษี ดังนั้น ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2022 ก็สามารถคว้าชัยชนะและครองตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2  ทั้งนี้ ในความเป็นสามัญชนที่มีโอกาสดีงามทางการเมืองนั้น การได้รับประสบการณ์ชีวิตแบบกษัตริย์จึงเป็นสิทธิพิเศษและเป็นประสบการณ์ชีวิตที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง สำหรับชายหนุ่มชนชั้นกลางผู้ปราดเปรื่อง ที่สามารถทะยานขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่อายุเพียง 40 ปี

สมเด็จพระราชินีคามิลลาของอังกฤษ กับสุภาพสตรีหมายเลข 1 บรีฌิต มาครง ของฝรั่งเศส ชมภาพงดงามสองฝั่งถนนด้วยกันบนพระราชยานเทียมม้าพระที่นั่งเก๋ง “เซมิ-สเตทแลนโด” ซึ่งเปิดประทุนให้เห็นธงทิวและอาคารโบราณ ตลอดจนให้ได้โบกมือทักทายเหล่าประชาชนทั้งปวงที่รอรับเสด็จเนืองแน่น

บนพระราชยานเทียมม้าพระที่นั่งเก๋งคันที่ 3 ปรินซ์วิลเลียม ปรินเซสเคท ทรงพารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเซบาสเตียง ลุคคอร์นู (ขวาสุด) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมราชิดา ดาติ (ด้านขวาของรัฐมนตรีกลาโหม แต่ไม่ปรากฏในภาพนี้) ขึ้นนั่งบน “เซมิ-สเตทแลนโด” มุ่งหน้าสู่พระราชวังวินด์เซอร์

หนึ่งในไฮไลต์ต่างๆ ของพระราชพิธีคือพิธีสวนสนามพร้อมแตรวงบรรเลงอย่างคึกคัก ท่ามกลางทิวธงอังกฤษและฝรั่งเศส ตลอดจนบรรดาประชาชนที่เฝ้ารอรับเสด็จกันอย่างเนืองแน่น
สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ กษัตริย์ผู้หลงใหลในศิลปะและความงาม ทรงสวีตคลาสิกกับมาดามบรีฌิต สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของฝรั่งเศส

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์และสมเด็จพระราชินีคามิลลาทรงพระราชทานการต้อนรับอันสง่างาม และอบอุ่นใกล้ชิดแด่ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ผู้ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่ามีความสนิทสนมอย่างแนบแน่นในทางส่วนตัวกับพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักร
ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ยังทรงเป็นรัชทายาทหมายเลข 1 แห่งพระราชบัลลังก์อังกฤษ แม้ว่าในภาพรวมระดับประเทศนั้น เมืองน้ำหอมกับเมืองผู้ดีจะเปรี้ยวใส่กันในหลายประเด็น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณี Brexit ที่อังกฤษถอนตัวจากอียู ส่งผลเป็นความขุ่นเคืองในฝ่ายฝรั่งเศสเป็นอย่างยิ่ง และกรณีคลื่นผู้อพยพลักลอบออกจากชายฝั่งฝรั่งเศส เพื่อข้ามช่องแคบอังกฤษ ไปขึ้นบกที่เกาะเกรทบริเตน ซึ่งฝ่ายอังกฤษกล่าวหาว่ารัฐบาลฝรั่งเศสไม่เอาจริงกับการช่วยป้องกันปัญหาให้แก่อังกฤษ

ในช่วงต้นๆ บนเวทีพระราชพิธี คิงชาร์ลส์ผู้ทรงคุ้นเคยกับวัฒนธรรมฝรั่งเศสอยู่ในพระราชดีเอ็นเอ ทรงพระราชทานจุมพิตเจ้าเสน่ห์บนมือขวาบอบบางของมาดามบรีฌิต มาครง สุภาพสตรีหมายเลข 1 จากเมืองน้ำหอม ผู้อ่อนวัยกว่าพระองค์เพียง 4 ปี (72 กะรัต) จุมพิตอันนุ่มนวลบนมือเป็นการแสดงถึงความชื่นชม รัก และนับถือ ที่ให้ผลดีมหาศาลในเชิงการทูต

อันที่จริง เมื่อหนึ่งปีก่อนหน้า ในวโรกาสที่กษัตริย์ชาร์ลส์และพระราชินีคามิลลาเสด็จร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 80 ปีแห่งวัน D-Day ณ 6 มิถุนายน 2024 ที่เมืองแซ็งต์ แมร์-เอกลิส เมืองริมทะเลตอนเหนือของฝรั่งเศส เพื่อไว้อาลัยแก่ทหารหาญแห่งกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรที่ยกพลข้ามช่องแคบอังกฤษไปขึ้นบก ณ หาดยุทธศาสตร์แห่งแคว้นนอร์มังดี จนกระทั่งเมืองแซ็งต์ แมร์-เอกลิส เป็นเมืองแรกที่ได้รับการปลดปล่อยจากการยึดครองของนาซีเยอรมัน และในปีต่อมาก็สามารถช่วยปลดปล่อยยุโรปตะวันตกได้ทั้งหมดในมหาสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น คิงชาร์ลส์ก็ได้พระราชทานจุมพิตอันทรงเกียรติแด่บรีฌิต มาครง ในท่ามกลางแสงตะวันอบอุ่นของนอร์มันดี ก่อนที่พิธีรำลึกจะเริ่มต้น

เดลิเมลออนไลน์รายงานไว้อย่างนั้น พร้อมกับรายงานด้วยว่าสุภาพสตรีหมายเลข 1 แห่งฝรั่งเศสมีท่าทีประทับใจอย่างยิ่งที่ได้รับความชื่นชมมากมายจากพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษ

ด้านประธานาธิบดีมาครงก็ถวายจุมพิตบนพระหัตถ์ของควีนคามิลลา โดยในครานี้ ควีนทรงมิได้ยิงพระมุกแต่อย่างใด ดั่งที่ทรงเคยทำให้ประธานาธิบดีมาครงทั้งเขิน ทั้งขำ และทั้งยิ้มจนจมูกย่น เมื่อถวายจุมพิตบนพระหัตถ์ของควีนในช่วงก่อนเข้าสู่พิธีรำลึกครบรอบ 80 ปีแห่งวัน D-DAY ณ 6 มิถุนายน 2024

(ชมภาพฮาพิเศษ “ภาพเดียวในชีวิต” ของแอมานุแอล มาครง ได้ที่ https://www.dailymail.co.uk/news/article-13501563/King-Charles-Brigitte-Macron-President-Macron-charismatic-greets-Queen-royal-couple-waiting-DDay.html - ภาพที่ 2 จากบรรทัดพาดหัวข่าว)

พร้อมนี้ เดลิเมลออนไลน์รายงานว่าการพบปะกันอีกคราระหว่างประมุขของฝรั่งเศสกับองค์พระประมุขของอังกฤษในมหาวาระดังกล่าว ทั้งสองประมุขแสดงให้ชาวโลกได้เห็นถึงความสนิทสนมแนบแน่นแบบว่าถูกอัธยาศัยกันขั้นสุด โดยในบางพระรูปของสกู๊ปดังกล่าว ขณะที่มือขวาของประธานาธิบดีมาครงเช็กแฮนด์กับพระมหากษัตริย์น้ำพระทัยงดงามแห่งอังกฤษ มือซ้ายก็เกาะพระกรและบีบเบาๆ พลางหัวเราะตาหยี ลักยิ้มบุ๋มลึก ในอารมณ์ประจบคิงชาร์ลส์อย่างสุดดวงใจ ดั่งนักเรียนหัวกะทิประจบคุณครูคนโปรด พอเรียกได้ (ภาพที่ 4 และ 5 จากบรรทัดพาดหัวข่าว)

คิงชาร์ลส์พระราชทานจุมพิตบนมือขวาบอบบางของมาดามบรีฌิต มาครง (ขวาสุดของภาพ) สุภาพสตรีหมายเลข 1 แห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ผู้อ่อนวัยกว่าพระองค์ 4 ปี และดูแลสุขภาพได้เลอเลิศน่าชื่นชม น่ารัก และน่านับถือ ในเวลาเดียวกัน มาดามมาครงก็เปล่งยิ้มสดชื่น ปลาบปลื้มใจในเกียรติยศที่ได้รับ

ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสถวายจุมพิตบนพระหัตถ์ของควีนคามิลลา โดยในครั้งนี้ ควีนผู้ทรงได้รับยกย่องมาตลอดพระชนม์ชีพว่าเป็นมหารานีแห่งมุกขำและการอำ มิได้มีการยิงมุกใดๆ ให้พระราชอาคันตุกะได้เขินระคนขำแต่อย่างใด

พระรูปในคราวการพบปะที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ทรงเสด็จร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 80 ปีแห่งวัน D-Day ณ 6 มิถุนายน 2024 ที่เมืองแซ็งต์ แมร์-เอกลิส แคว้นนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส คิงชาร์ลส์ทรงพระราชทานจุมพิตเกียรติยศบนมือขวาบอบบางของสุภาพสตรีหมายเลข 1 จากเมืองน้ำหอม ผู้ซึ่งสามารถถนอมรักษาความงามได้อมตะอย่างน่าทึ่งสุดๆ

รอยเตอร์ระบุในสกู๊ปเดือนสิงหาคม 2023 ว่าประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง มีความสนิทสนมอย่างแนบแน่นในทางส่วนตัวกับพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักร ตั้งแต่เมื่อครั้งที่พระองค์ยังทรงเป็นรัชทายาทหมายเลข 1 แห่งพระราชบัลลังก์อังกฤษ ในภาพนี้เมื่อปี 2021 เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ปรินซ์แห่งเวลส์ ทรงสนทนาครึกครื้นกับประธานาธิบดีฝรั่งเศสก่อนจะพากันเดินเข้าห้องประชุมทวิภาคีอังกฤษ-ฝรั่งเศส ณ การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2021

อีกหนึ่งบรรยากาศชื่นมื่นระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กับประธานาธิบดีมาครง ในประเทศอังกฤษ ปี 2020 โดยประธานาธิบดีมาครงมาเยือนสหราชอาณาจักรเพื่อรำลึกวันครบรอบ 80 ปี การแสดงปราศรัยของ ชาร์ลส์ เดอ โกล อดีตประธานาธิบดีฝรั่งเศส ต่อประชาชนฝรั่งเศส จากกรุงลอนดอน หลังการรุกรานของนาซีเยอรมัน เมื่อ 18 มิถุนายน 1940

บรรยากาศใกล้ชิดสนิทสนมประมาณเป็นพระโอรสแสนรักพระองค์โต ระหว่างประธานาธิบดีมาครงกับกษัตริย์ชาร์ลส์ ในประเทศฝรั่งเศส เมื่อ 6 มิถุนายน ปี 2024 โดยคิงแห่งอังกฤษทรงเสด็จร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 80 ปีแห่งวัน D-Day ที่เมืองแซ็งต์ แมร์-เอกลิส แคว้นนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส
พิธีการต่างๆ สำหรับมหกรรมแห่งพระราชพิธีต้อนรับประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส และภริยา อย่างสมเกียรติถูกจัดเตรียมไว้ครบครัน เริ่มด้วยพิธียิงปืนใหญ่ด้วยลูกสลุต หรือก็คือ Salutio เพื่อเป็นเกียรติยศแก่ประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยยิงที่โฮมปาร์กในเขตพระราชฐานวินด์เซอร์จำนวน 41 ลูก และในเวลาเดียวกันก็ยิงที่ทาวเวอร์ออฟลอนดอน จำนวน 41 ลูกพร้อมกัน Army.mod.uk เว็บไซต์กองทัพบกอังกฤษรายงาน

ลำดับต่อมาเป็นการแปรขบวนเกียรติยศชุดใหญ่โดยกองทหารรักษาพระองค์ 2 ชุด จากกรมเกรนาเดียร์การ์ดส์ และกรมสกอตส์การ์ดส์ ซึ่งเป็นสองกรมที่เก่าแก่ที่สุดของกองทัพบกอังกฤษ คือ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17

ถัดจากนั้น กัปตันแห่งคณะทหารรักษาพระองค์กล่าวด้วยภาษาฝรั่งเศส เชิญประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศสออกตรวจแถวกองทหารเกียรติยศรักษาพระองค์ โดยมีพระมหากษัตริย์อังกฤษตามประกบใกล้ๆ ในเวลาเดียวกัน วงดุริยางค์บรรเลงเพลง L’Entente Cordiale ซึ่งปลุกขวัญมิตรภาพแห่งการความช่วยเหลือกันและกันในระหว่างประเทศทั้งสอง

ลำดับสุดท้ายเป็นขบวนสวนสนามโดยคณะทหารจากกองพลทหารราบรักษาพระองค์ และวงดุริยางค์บรรเลงเพลงสองชุด คือ Hielan Laddie กับ The British Grenadiers เป็นอันจบพิธี

บรรยากาศชื่นมื่นมิตรไมตรีทั้งปวง ดำเนินอยู่ในท่ามกลางสถานกาณ์ความสัมพันธ์ร้อนระอุระหว่างประเทศทั้งสอง ทั้งในทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้คนในอังกฤษไม่พอใจว่ารัฐบาลฝรั่งเศสไม่เอาจริงกับการสกัดกั้นผู้อพยพหลายๆ ชาติที่คอยจะขึ้นเรือยาง อันเป็นบริการผิดกฎมาย เพื่อออกจากฝั่งทะเลของฝรั่งเศส ข้ามช่องแคบอังกฤษ ไปขอลี้ภัยอยู่บนอภิมหาเกาะเกรทบริเทนปีละหลายหมื่นราย และกลายเป็นภาระของฝ่ายอังกฤษ ซึ่งสถานการณ์นี้ ส่งผลให้รัฐบาลอังกฤษทุกชุดถูกสาธารณชนตำหนิอย่างรุนแรงที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้

สถานการณ์ย่ำแย่สาหัสดังกล่าวมีสัญญาณบ่งบอกความเปลี่ยนแปลง หลังจากรัฐบาลอังกฤษกับรัฐบาลฝรั่งเศสได้บรรลุข้อตกลงการขับเคลื่อนมาตรการควบคุมการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ที่จะทวีความเข้มงวดยิ่งขึ้นรอยเตอร์รายงานไว้

โดยเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 ในการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาเมอร์ แห่งอังกฤษ กับประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง แห่งฝรั่งเศส มีการบรรลุข้อตกลงสำคัญหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ปัญหาอันเรื้อรังที่บรรดาผู้อพยพหลากหลายชาติ ซึ่งอยู่ในฝรั่งเศส ใช้บริการเรือยางเถื่อน และลักลอบเดินทางข้ามช่องแคบอังกฤษ เพื่อหลบหนีเข้าสู่สหราชอาณาจักรปีละหลายหมื่นราย

ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ร่วมอังกฤษ-ฝรั่งเศส อังกฤษจะจับกุมและส่งกลับผู้อพยพผิดกฎหมายที่ลักลอบเข้าอังกฤษด้วยเรือยางเถื่อนซึ่งเป็นเรือขนาดเล็ก กลับไปยังฝรั่งเศส และจะชดเชยให้แก่ฝรั่งเศสด้วยการนำจำนวนผู้ที่ถูกส่งกลับ ไปเป็นโควตาที่จะให้ผู้อพยพที่พักรอในฝรั่งเศสซึ่งมิใช่กลุ่มที่พยายามลักลอบเข้าไปอย่างผิดกฎหมาย ได้รับสิทธิ์อพยพเข้าอังกฤษได้อย่างถูกต้อง

พิธีสวนสนามโดยคณะทหารจากกองพลทหารราบรักษาพระองค์ และวงดุริยางค์บรรเลงเพลงสองชุด คือ Hielan Laddie กับ The British Grenadiers อันเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีต้อนรับประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส และภริยา ในโอกาสที่ประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง พร้อมสุภาพสตรีหมายเลข 1 บรีฌิต มาครง เดินทางเยือนสหราชอาณาจักร อันเป็นสเตท วิสิท ครั้งแรกในรอบ 17 ปีอังกฤษ-ฝรั่งเศส

พิธีสวนสนามโดยทหารราบราชองครักษ์ ณ พระราชฐานวินด์เซอร์ อันเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีต้อนรับประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส และภริยา

พิธียิงปืนใหญ่ด้วยลูกสลุต หรือก็คือ Salutio เพื่อเป็นเกียรติยศแด่ประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยยิงที่โฮมปาร์กในเขตพระราชฐานวินด์เซอร์จำนวน 41 ลูก และในเวลาเดียวกันก็ยิงที่ทาวเวอร์ออฟลอนดอน จำนวน 41 ลูกพร้อมกัน

ภาพเรือยางเถื่อนที่ให้บริการลักลอบพาเข้าแผ่นดินอังกฤษ โดยแล่นผ่านช่องแคบอังกฤษ การเดินทางผิดกฎหมายเยี่ยงนี้ต้องเสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง เพราะผู้โดยสารบนเรือจะหนาแน่น ขณะที่คุณภาพของเรือก็ไม่โอเค ที่ผ่านมามีเหตุเรือล่มจมน้ำเป็นครั้งเป็นคราว ในการนี้ นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาเมอร์ ของอังกฤษ พบหารือกับประธานาธิบดีแอมานูแอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในการเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการ โดยระหว่างการแถลงข่าวร่วม มีการประกาศมาตรการควบคุมการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายที่เข้มงวดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังประกาศข้อตกลงทางทหารและความร่วมมือด้านนิวเคลียร์ระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส รวมถึงแผนการสนับสนุนรัฐบาลยูเครนในการทำข้อตกลงหยุดยิงกับรัสเซีย
เปิดภาพซีนน่ารักเฟสที่ 1: แอมานุแอล มาครง ปลาบปลื้มเจ้าหญิงเคท โดยแสดงออกด้วยลีลาเชิดชูเวอร์วัง ซึ่งเห็นชัดเจนได้ในคลิป 2 ในการนี้ สื่อยักษ์ อาทิ เดอะซัน พาดหัวข่าวไม่ปลื้ม & ตำหนิรุนแรง

ภารกิจในวันแรกของประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง ดำเนินไปถึงกิจกรรมไฮไลท์ขั้นสุดในเวลาค่ำคืนอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2025 ซึ่งก็คือพระราชพิธีเลี้ยงต้อนรับประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส และภริยา ซึ่งสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรทรงเป็นเจ้าภาพ

ณ เวลา 20.30 น. ก่อนจะเริ่มเสิร์ฟอาหารคอร์สกะทัดรัด แต่สดชื่นมากมายหลายหลากด้วยไวน์ แชมเปญ บรั่นดี คอนญัคนั้น พระมหากษัตริย์อังกฤษทรงกล่าวเปิดพระราชพิธีและกล่าวสปีช ที่ทรงตรัสสลับไปมาระหว่างภาษาอังกฤษกับภาษาฝรั่งเศส และทรงย้ำถึงคุณค่าแห่งความร่วมมือร่วมใจของประเทศอังกฤษกับประเทศฝรั่งเศส ในอันที่จะสร้างความเข้มแข็งให้แก่ทวีปยุโรปเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากภายนอกซึ่งทวีความซับซ้อนอย่างที่ท้าทายเหลือเกิน พร้อมนี้ พระองค์ยังทรงยืนยันถึงความจำเป็นที่จะลดละการพึ่งพิงสหรัฐอเมริกาและจีน

ด้านประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าวสปีชสนับสนุนพระราชวิสัยทัศน์ พร้อมกับกล่าวยกย่องสรรเสริญสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ผู้ล่วงลับ

พร้อมนี้ ประธานาธิบดีมาครงแสดงความเป็นสุภาพบุรุษเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ให้ได้ประจักษ์กันทั่วประเทศในคลิปน่ารัก

โดยในเวลาที่แต่ละท่านในห้องพระราชพิธีพากันลงนั่ง เจ้าหญิงแคเธอรินทรงประทับยืนอยู่หลังพระเก้าอี้ ขณะที่ท่านประธานาธิบดียืนที่เก้าอี้อยู่แล้ว ท่านประธานาธิบดีช่วยเลื่อนพระเก้าอี้ของปรินเซสสุดสวย เพื่อเปิดทางให้พระนางขยับผ่านเข้าสู่ด้านหน้าของพระเก้าอี้ได้อย่างสะดวก ปรินเซสทรงแย้มพระสรวลและกล่าวขอบคุณ ก่อนจะนั่งลง โดยที่มือแข็งแรงของประธานาธิบดีช่วยเลื่อนให้พระเก้าอี้เข้ารองรับพระกายของเจ้าหญิงได้อย่างนุ่มเนิบเหมาะเจาะ ภารกิจสุภาพบุรุษสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านประธานาธิบดีจึงลงนั่งอย่างสบายใจ คลิปของแฟนคลับเจ้าหญิงเคทที่ใช้ชื่อแอคเคาท์ว่า RoyalCelebrity เล่าเรื่องด้วยวิดีโอไว้อย่างนั้น


ในด้านของแขกรับเชิญทั้งปวงก็มากมายด้วยสีสันเช่นกัน ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ในการกระชับสัมพันธ์และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศอังกฤษกับประเทศฝรั่งเศสให้ความสำคัญแก่มิติของศิลปะและวัฒนธรรม โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของฝรั่งเศสร่วมในคณะผู้แทนด้วย ดังนั้น จึงไม่น่าประหลาดใจที่สำนักพระราชวังบัคกิงแฮมจะออกหนังสือเชิญศิลปินนักร้อง นักแสดง นักกีฬา ที่โดดเด่นและได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มาร่วมในพระราชพิธีด้วย

อาทิ เซอร์เอลตัน จอห์น นักร้องนักแต่งเพลงระดับเซเลบริตีโลก ซึ่งมาพร้อมสามี กับ เซอร์มิก แจ็กเกอร์ ซูเปอร์ร็อกเกอร์ระดับตำนาน ซึ่งมาพร้อมคุณคู่หมั้น ตลอดจนนักแสดงชื่อเสียงโด่งดัง เดม คริสติน สก็อตต์ โทมัส และแมรี เอิร์ป สาวนักฟุตบอลทีมชาติ ซึ่งเป็นผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูและเป็นขวัญใจคนอังกฤษทั้งประเทศ ฯลฯ ดิอินดีเพนเดนท์รายงาน

เซเลบริตีผู้เรืองนามทั้งปวงนี้ นอกจากจะเป็นสีสันของพระราชพิธี ยังเป็นแม่เหล็กดึงดูดสื่อมวลชนได้อย่างล้นเหลือ


มากมายหลายหลากเสียงจากสาธารณชนชี้ว่าการมีสุดยอดนักร้อง นักกีฬา ดาราดัง และดาวค้างฟ้า ส่งผลดีใหญ่หลวงในการป้องกันการขโมยซีน-แย่งพื้นที่ข่าว ที่เคยเกิดขึ้นบ่อยครั้งโดยพระราชบุตรอย่างปรินซ์แฮร์รี กับพระราชสุณิสาเมแกน มาร์เคิล

และแล้ว สื่อมวลชนก็ได้ข่าวสีสันไปเมาท์มอยครึกครื้น เมื่อช่างภาพได้รูปทีเด็ดที่ประธานาธิบดีมาครง หลิ่วตาพลางยิ้มแย้มปลื้มหวานถวายเจ้าหญิงแคเธอริน ปรินเซสแห่งเวลส์

โดยในจังหวะที่คิงชาร์ลส์ทรงหันพระวรกายไปทางซ้าย ในอันที่จะชนแก้วกับมาดามราชิดา ดาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมแห่งฝรั่งเศส เพื่อแสดงความยินดีต่อความยั่งยืนในความสัมพันธ์อังกฤษ-ฝรั่งเศส ประธานาธิบดีมาครงก็หันไปทางขวา และชนแก้วกับเจ้าหญิงเคท พลางหลิ่วตาถวายในลีลาหนุ่มจิ๊กโก๋ปารีเซียง รูปหล่อพ่อรวย อารมณ์ดีและกิ๊วก๊าว

ปรากฏว่าบางค่ายสื่อยักษ์ใหญ่ไม่ปลื้มกับมุกวิ้ดวิ่วน่ารักของประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยเดอะซัน สื่อขาใหญ่ผู้ทรงอิทธิพล ติเตียนว่าเป็นการหว่านเสน่ห์อย่างน่ารังเกียจ หรือก็คือ Charm Offensive นั่นเอง อย่างไรก็ตาม พาดหัวข่าวนี้ของเดอะซันดำดิ่งหายไปในกระแสข่าวอันมากมายของการเยือน 3 วัน 8-10 กรกฎาคม 2025

กระนั้นก็ตาม ผู้สันทัดกรณีของเดลิเมลออนไลน์ออกมาช่วยอธิบายเกี่ยวกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยบอกให้ดูคลิปถ่ายทอดสดขณะที่พระมหากษัตริย์อังกฤษทรงกล่าวสปีช แล้วชี้ว่าท่านประมุขหลิ่วตายิ้มแย้มถวายคิงชาร์ลส์เมื่อพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสโดนใจ นอกจากนั้น ยังมีใครบางคนซึ่งนั่งฝั่งตรงข้ามเยื้องไปทางขวาของโต๊ะจัดเลี้ยง ได้รับการหลิ่วตาจากท่านประธานาธิบดี ประมาณว่าเป็นการทักทายแบบผู้ที่สนิทกันมาแต่เก่าก่อน เหล่านี้เป็นเครื่องชี้ว่าความอารมณ์ครึกครื้นเป็นหนึ่งในตัวตนแห่งแอมานุแอล มาครง พอกล่าวได้

สองซูเปอร์วีวีไอพีของพระราชพิธีเลี้ยงต้อนรับประมุขแห่งฝรั่งเศสมีช่วงถ่ายภาพที่ระลึก หรือก็คือโฟโต้เซสชัน และได้ “ภาพหล่อใหญ่กับหล่อเล็กแห่ง The Super VVIP” มาฝากชาวโลก

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ทรงกล่าวสปีชถูกใจประธานาธิบดีมาครง ซึ่งเรียกรอยยิ้มแฉ่งตาหยี ตลอดจน “มุกหลิ่วตาขอบพระทัย” ถวายพระมหากษัตริย์อังกฤษ อันเป็นจังหวะที่พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสถึงความผูกพันทางวัฒนธรรมระหว่างสหราชอาณาจักรกับสาธารณรัฐฝรั่งเศส และทรงตรัสถึง The Great King William the Conqueror (1028–1087) หรือก็คือ สมเด็จพระเจ้าวิลเลียมมหาราช พระมหากษัตริย์ผู้พิชิต ซึ่งเป็นดยุกแห่งนอร์มังดี แคว้นทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ผู้ทรงยกพลข้ามช่องแคบอังกฤษมายึดอำนาจ แล้วสถาปนาพระราชวงศ์นอร์มังดี ตลอดจนทำการรวมชาติอังกฤษ และการพัฒนาการปกครองระบอบกษัตริย์อังกฤษที่ยั่งยืนมาจดจนปัจจุบัน

ขณะที่ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสกล่าวสปีชตอบคิงชาร์ลส์ อากัปกิริยาบ่งบอกชัดเจนว่าทั้งสองประมุขมีความสนิทสนมแนบแน่นหยั่งรากลึก

หากไม่มาเป็นประธานาธิบดี อาจไปเป็นดาราหนังดังยิ่งกว่าในปัจจุบัน?

ประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง มีความสูงของร่างกายที่ระดับ 1.78 เมตร ขณะที่เจ้าหญิงแคเธอรินมีส่วนสูงที่ระดับ 1.75 เมตร เอไอให้ข้อมูลไว้อย่างนั้น แต่มุมกล้องทำให้แลเห็นเป็นว่าปรินเซสทรงสูงกว่า ซึ่งอาจเป็นผลจากรองพระบาทส้นสูงระดับระหว่าง 0.06 – 0.09 เมตรกันเลยทีเดียว

หนึ่งในแขกรับเชิญผู้ทรงเกียรติยศระดับเซเลบริตี A-ลิสเตอร์กว่า 160 ท่าน คือ เซอร์เอลตัน จอห์น นักร้องนักแต่งเพลงระดับเซเลบริตีโลก ซึ่งมาพร้อมสามีชาวแคนาเดียน นามว่า เดวิด เฟอร์นิช นักธุรกิจในอุตสาหกรรมดนตรี ทั้งสองแต่งงานกันเมื่อปี 2014 และเป็นครอบครัวอบอุ่นมาถึงปัจจุบัน

บรรยากาศหรูหราโอ่อ่าใน Saint George’s Hall ห้องจัดเลี้ยงหลวง อันเป็นที่สุดแห่งความโบราณกว่า 1,000 ปีและงามหรูไม่น้อยหน้าให้แก่ห้องแห่งใดในสากลโลก โดยฮอลล์แห่งนี้มีความยาวมหาศาล 55.5 เมตร และความกว้าง 9 เมตร การจัดเรียงโต๊ะรับรองแขกผู้ทรงเกียรติจึงมิได้เป็นฟอร์มของอักษรตัวยูเกือกม้า ดั่งที่จะจัดกัน ณ พระราชวังบัคกิงแฮม หากเป็นการจัดวางโต๊ะขนาดความกว้างสองเมตร เรียงต่อกันยาวเหยียดสุดสายตา

ภาพโคลสอัพเพื่อพินิจถึงการจัดวางเครื่องถ้วยช้อนจานชามอันวิจิตรตระการตา ภายในห้องจัดเลี้ยงหลวง Saint George’s Hall โดยจัดเตรียมไว้รองรับสุราเมรัยชั้นเลิศอย่างหลากหลายด้วยแก้วคริสตัล 5 ประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไวน์ Taylor’s 1977 Vintage Port กับ คอนญัค 1948 Grande Champagne Cognac by Frapin & Co ซึ่งเป็นตัวเลือกเพื่อให้เกียรติแก่ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส ผู้ที่ถือกำเนิดในปี 1977 และเพื่อเป็นที่ระลึกถึงปีพระราชสมภพของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ณ ปี 1948
“จุมพิตเกียรติยศ” ที่คิงชาร์ลส์พระราชทานรัวๆ บนมือเรียวบอบบางและแก้มงามซ้ายขวาของมาดามบรีฌีต มาครง

ข่าวฮือฮากรณีประธานาธิบดีฝรั่งเศสหลิ่วตาถวายเจ้าหญิงอังกฤษ ถูก “กลบ” ด้วยภาพข่าวที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์แห่งอังกฤษทรงพระราชทานจุมพิตลา กู๊ดบายคิส ครั้งแล้วครั้งเล่า ชุดใหญ่วิ้ดวิ่ว แด่มาดามบรีฌิต มาครง ผู้ยังครองเรือนกายให้ประเปรียวและวงหน้างามเก๋แจ่มจรัสได้อย่างน่าทึ่ง ณ วัย 72 กะรัต

โดยในวันเดินทางกลับ เมื่อพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม 2025 คิงชาร์ลส์ พร้อมด้วยควีนคามิลลา นำประธานาธีบดีมาครง และภริยา ไปเพลิดเพลินกับการชมคอกม้าส่วนพระองค์ โดยในท่ามกลางแสงตะวันสดใส คิงชาร์ลส์ทรงพระราชทานจุมพิตอันแสนสุภาพและให้เกียรติบนมือขวาของมาดามบรีฌิต มาครง ต่อด้วยจุมพิตนุ่มนวลบนแก้มงามทั้งซ้ายและขวา

แต่พิธีการของพระองค์ มิได้จบตรงช็อตนั้น คิงชาร์ลส์ทรงนำมืออบอุ่นของพระราชอาคันตุกะเข้าไปพระราชทานจุมพิตอีกหนึ่งรอบ น่าปลาบปลื้มอย่างที่สุด

ด้านประธานาธิบดีมาครงก็ถวายกู๊ดบายคิส แด่ควีนคามิลลา จำนวน 1 รอบ ชื่นมื่นฤทัยเช่นกัน

ยิ่งกว่านั้น ก่อนจะถึงเวลาที่พระราชอาคันตุกะจะต้องขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังสนามบิน ก็เป็นวาระสำคัญที่สุดของวัน กล่าวคือ พิธีการแห่งการอำลาที่จะต้องฝากรอยประทับให้ตราตรึงในดวงใจ โดยย้ายจากสวนสวยและคอกม้ามูลค่าหลายสิบล้านปอนด์ด้านหลังองค์ปราสาท ไปยังอาคารรับแขกด้านหน้าสุดของพระราชวังวินด์เซอร์

ณ เฉลียงส่งแขกเพดานสูงที่ตกแต่งด้วแผ่นไม้โบราณสีน้ำตาลกับกำแพงปูนสีเบจคลาสิก สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ทรงพระราชทานจุมพิตแด่มาดามบรีฌิต มาครง อีกหนึ่งรอบใหญ่ ตลอดจนบทสนทนาโอบอ้อมอารีอย่างสนิทเสน่หา แบบที่เกรียนคีย์บอร์ดเข้าไปเขียนแซวว่าทรงหลงเสน่ห์ปลาบปลื้มในพระราชอาคันตุกะอย่างเหลือเกิน ไม่อยากให้กลับเลย (ชมภาพในคลิปด้านล่าง)

สเตท วิสิท ครั้งประวัติศาสตร์ ที่ประมุขแห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษเชิญประมุขแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสไปเยือนอย่างเป็นทางการ หลังจากว่างเว้นไปแสนนานร่วมๆ 17 ปี ได้สำเร็จเสร็จสิ้นอย่างดีเยี่ยม สมตามความปรารถนาของรัฐบาลพรรคเลเบอร์ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มและตั้งเรื่องกราบบังคมทูลขึ้นไป จนกระทั่งบรรลุเป้าหมายทั้งปวง รายงานของเดลิเมลออนไลน์บอกไว้

ก่อนจะถึงเวลาที่พระราชอาคันตุกะจะต้องขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังสนามบิน ก็เป็นในวาระสำคัญที่สุดของวัน กล่าวคือ พิธีการแห่งการอำลาที่จะต้องฝากรอยประทับให้ตราตรึงในดวงใจ

ในคลิปบนยูทูป ชาวโลกได้ประจักษ์กันไปทั่วว่าคิงชาร์ลส์ทรงพระราชทานพระเกียรติอย่างท่วมท้นแด่พระราชอาคันตุกะวีวีไอพีจากฝรั่งเศส ในการนี้ การเชิดชูมิตรภาพระหว่างกันด้วยการพระราชทานพระเกียรติยศส่งผลในทางเสริมแกร่งให้แก่ความตกลงฉันทไมตรี Entente Cordiale (1904) ได้อย่างลึกซึ้ง

บรรยายคลิป2
คลิปน่ารัก: คิงชาร์ลส์ทรงพระราชทานจุมพิตบนมือขวาของมาดามบรีฌิต มาครง ต่อด้วยจุมพิตนุ่มนวลบนแก้มซ้ายและแก้มขวา แต่พิธีการมิได้จบตรงช็อตนั้น คิงชาร์ลส์ทรงนำมืออบอุ่นของพระราชอาคันตุกะเข้าไปพระราชทานจุมพิตอีกหนึ่งรอบ น่าปลาบปลื้มอย่างที่สุด ด้านประธานาธิบดีมาครงก็ถวายกู๊ดบายคิส แด่ควีนคามิลลา จำนวน 1 รอบ ชื่นมื่นฤทัย

คอลัมน์ PLANET No.3

โดย รัศมี มีเรื่องเล่า


(ที่มา: เดลิเมลออนไลน์ เดอะซัน parade.com Hub Pages LBC England Royal Celebrity Army.mod.uk อินดีเพนเดนท์ รอยเตอร์)

กำลังโหลดความคิดเห็น