ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันอังคาร (19 ส.ค.) ตนจะไม่ส่งทหารสหรัฐฯ ลงพื้นที่ในยูเครน แต่สหรัฐฯ อาจจะให้การสนับสนุนทางอากาศเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงยุติสงคราม
เพียง 1 วันหลังจากที่ ทรัมป์ ให้คำมั่นสัญญาว่าจะค้ำประกันความปลอดภัยเพื่อช่วยยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนในการประชุมซัมมิตที่ทำเนียบขาว ทว่าเส้นทางสู่สันติภาพยังคงไม่แน่นอน เนื่องจากสหรัฐฯ และพันธมิตรเตรียมหารือถึงการสนับสนุนทางทหารสำหรับยูเครน
“เมื่อพูดถึงเรื่องความมั่นคง (ชาวยุโรป) ยินดีที่จะส่งกำลังทหารลงพื้นที่ เรายินดีที่จะช่วยเหลือพวกเขาในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ทางอากาศ” ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับรายการ “Fox & Friends” ของ Fox News
ต่อมาระหว่างให้สัมภาษณ์กับ มาร์ค เลวิน พิธีกรรายการวิทยุ ทรัมป์ได้อธิบายถึงรูปแบบการเจรจาของเขาในความพยายามยุติสงครามว่า “น่าจะเป็นสัญชาตญาณ มากกว่ากระบวนการ”
ไม่กี่ชั่วโมงหลังการประชุมของ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. รัสเซียได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 1 เดือนต่อยูเครนด้วยโดรน 270 ลำ และขีปนาวุธ 10 ลูก ตามข้อมูลจากกองทัพอากาศยูเครน
กระทรวงพลังงานยูเครนระบุว่า การโจมตีดังกล่าวทำให้เกิดเพลิงไหม้ใหญ่ที่โรงงานพลังงานในเขตโปลตาวาทางตอนกลาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงกลั่นน้ำมันแห่งเดียวของยูเครน
ทรัมป์ ยอมรับว่า ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียอาจไม่ต้องการทำข้อตกลงก็เป็นได้ โดยระบุว่า "เราจะได้ทราบเกี่ยวกับประธานาธิบดี ปูติน ในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า"
รูปแบบความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ ต่อยูเครนภายใต้ข้อตกลงสันติภาพยังคงไม่ชัดเจน เนื่องจากการสนับสนุนทางอากาศอาจมีได้หลายรูปแบบ เช่น การส่งมอบระบบป้องกันขีปนาวุธ หรือเครื่องบินขับไล่ที่ใช้บังคับเขตห้ามบิน เป็นต้น
แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ยืนยันว่า การสนับสนุนทางอากาศของสหรัฐฯ เป็น "ทางเลือกและความเป็นไปได้" แต่ก็ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดใดๆ เช่นเดียวกับ ทรัมป์
ลีวิตต์ กล่าวว่า "ท่านประธานาธิบดีได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯ จะไม่ส่งทหารเข้าประจำการในยูเครน แต่เราสามารถช่วยในการประสานงาน และอาจจัดหาวิธีการอื่นๆ เพื่อค้ำประกันความมั่นคงให้กับเหล่าพันธมิตรยุโรปของเราได้"
ก่อนการประชุมสุดยอดที่วอชิงตันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (18) รัสเซียซึ่งเคยออกมาระบุหลายครั้งว่าเห็นด้วยกับแนวคิดเรื่องการค้ำประกันความมั่นคงสำหรับเคียฟ ได้ออกมาย้ำจุดยืนที่มีมานานอีกครั้งว่า มอสโก "ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด" ต่อ "สถานการณ์ใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการส่งกองกำลังนาโตเข้าไปประจำการในยูเครน"
นักวิเคราะห์ชี้ว่า สงครามซึ่งเริ่มต้นจากการที่รัสเซียบุกยูเครนอย่างเต็มรูปแบบในเดือนกุม ก.พ. ปี 2022 ทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บไปแล้วมากกว่า 1 ล้าน
ประธานาธิบดี เซเลนสกี ของยูเครนยกย่องการเจรจาที่ทำเนียบขาวว่าเป็น "ก้าวสำคัญ" สู่การยุติสงครามนองเลือดที่สุดของยุโรปในรอบ 80 ปี และจะช่วยสร้างเงื่อนไขไปสู่ก่รพบปะ 3 ฝ่ายระหว่างตนกับ ปูติน และ ทรัมป์
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่า ทรัมป์ ได้หารือกับ วิกเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการีเมื่อวันอังคาร (19) เกี่ยวกับการใช้กรุงบูดาเปสต์เป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดระหว่าง เซเลนสกี และ ปูติน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ กล่าวว่า อิสตันบูลซึ่งเคยเป็นสถานที่จัดการประชุมของคณะผู้แทนจากทั้ง 2 ประเทศก่อนหน้านี้ ก็ถูกกล่าวถึงเช่นกัน
ฮังการีเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในยุโรปที่ ปูติน สามารถไปเยือนได้โดยไม่ต้องกลัวถูกจับกุมตามหมายจับศาลอาญาระหว่างประเทศ เนื่องจาก ออร์บาน นั้นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้นำรัสเซีย แต่ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ยูเครนจะยอมรับฮังการีเป็นสถานที่จัดการประชุมหรือไม่
สวิตเซอร์แลนด์ซึ่งมีจุดยืนเป็นกลางก็เสนอตัวว่าพร้อมที่จะต้อนรับ ปูติน สำหรับการเจรจาสันติภาพใดๆ ที่จะมีขึ้น
ที่มา: รอยเตอร์