ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันพุธ(6ส.ค.) กำหนดเพดานภาษีเพิ่มเติมอีก 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากอินเดีย โดยอ้างว่านิวเดลียังคงเดินหน้านำเข้าน้ำมันรัสเซีย ความเคลื่อนไหวที่โหมกระพือความตึงเครียดระหว่าง 2 ชาติ หลังการเจรจาการค้ามาถึงทางตัน
ภาษีนำเข้าใหม่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้หลังจากนี้ในอีก 21 วัน จะเท่ากับเป็นการเพิ่มเพดานภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดียบางประเภท สู่ระดับ 50% ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอัตราภาษีสูงสุดในบรรดาคู่หูการค้าของอเมริกา
อย่างไรก็ตามคำสั่งบริหารของทรัมป์ที่กำหนดรีดภาษีเพิ่มเติมนี้ ไม่ได้พาดพิงจีน ซึ่งนำเข้าน้ำมันรัสเซียเช่นกัน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าคำสั่งเพิ่มเติมดังกล่าวครอบคลุมการจัดซื้อที่กำลังจะมาถึงหรือไม่
พวกนักวิเคราะห์มองว่าความเคลื่อนไหวของทรัมป์ ถือเป็นการเสื่อมถอยร้ายแรงที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับอินเดีย นับตั้งแต่ที่เขาเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม คำขู่รีดภาษีนี้เสี่ยงก่อความปั่นป่วนแก่อินเดีย ในการเข้าถึงตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของพวกเขา โดยอินเดียส่งออกสินค้ามายังอเมริกาคิดเป็นมูลค่าเกือบ 87,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2024 ขณะที่ภาคต่างๆที่จะได้รับผลกระทบหนักหน่วง มีทั้งเสื้อผ้า, รองเท้า, อัญมณีและเครื่องประดับ
มันถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากความสัมพันธ์อันอบอุ่นครั้งที่ ทรัมป พบปะกับ นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ความเห็นของพวกนักวิเคราะห์ระบุ โดยชี้ถึงความเห็นของ ทรัมป์ เมื่อเร็วๆนี้ที่เรียกอินเดียว่าเป็นเศรษฐกิจที่ล้มเหลว กีดกันทางการค้าอย่างน่ารังเกียจ และกล่าวหาอินเดียว่าทำกำไรจากน้ำมันราคาถูกของรัสเซีย เพิกเฉยชาวยูเครนที่ถูกเข่นฆ่าในสงครามที่รัสเซียรุกรานประเทศเพื่อนบ้านมานานกว่า 3 ปีครึ่ง
กระทรวงการต่างประเทศอินเดียเรียกการตัดสินใจดังกล่าวของทรัมป์ว่า "เคราะห์ร้ายสุดขั้ว" เน้นว่ามีประเทศอื่นๆอีกมากมายที่นำเข้าน้ำมันรัสเซียเช่นกัน เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของแต่ละชาติ "อินเดียจะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ชาติ" ถ้อยแถลงระบุ พร้อมอ้างว่าการซื้อของอินเดียมีแรงขับเคลื่อนจากปัจจัยด้านการตลาดและความต้องการทางพลังงานของประชาชนชาวอินเดียที่มีอยู่กว่า 1,400 ล้านคน
สถานการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นในขณะที่ โมดี เตรียมเดินทางเยือนจีนเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 7 ปี บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของการวางแนวร่วมพันธมิตรใหม่ ในขณะที่ความสัมพันธ์กับวอชิงตันเสื่อมทรามลง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เตือนจีน ว่าการเดินหน้าซื้อน้ำมันรัสเซีย อาจโหมกระพือการรีดภาษีรอบใหม่ ทั้งนี้วอชิงตันกำลังเตรียมพร้อมสำหรับก้าวย่างต่อไป ในขณะที่ข้อตกลงพักรบจากศึกรีดภาษีระหว่างอเมริกากับจีนจะหมดอายุลงในวันที่ 12 สิงหาคม
การค้าระหว่างสหรัฐฯกับอินเดีย ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกและชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 5 ของโลกตามลำดับ มีมูลค่า 190,000 ล้านดอลลาร์
พวกผู้ส่งออกและนักวิเคราะห์ทางการค้าเตือนว่าการรีดภาษี ที่ ทรัมป์ อ้างว่าเพื่อลดตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯและคืนชีพกำลังผลิตภายในประเทศ อาจก่อความปั่นป่วนอย่างรุนแรงแก่อินเดีย "มันจะก่อความเสียหายอย่างหนัก เกือบ 55% ในสินค้าของเราที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯจะได้รับผลกระทบ" เอส.ซี.ราลฮาน ประธานสหพันธ์องค์กรผู้ส่งออกอินเดียกล่าว
แม้กระทั่งเพดานภาษีที่กำหนดเล่นงานสินค้าส่งออกของอินเดียในระดับ 30% ถึง 35% ก็ทำให้เหล่าผู้ส่งออกอินเดียเสียปรียบคู่แข่งทางการค้ารายอื่นๆ ในเวียดนาม, บังกลาเทศและญี่ปุ่น อยู่ก่อนแล้ว "ด้วยอัตราภาษีที่น่าสะพรึงกลัว การค้าระหว่าง 2 ชาติเท่ากับดับสูญแล้วในทางปฏิบัติ" มัดฮาวี อาโรรา นักเศรษฐศาสตร์ระบุ
พวกเจ้าหน้าที่อินเดียยอมรับว่ากำลังเผชิญแรงกดดันให้กลับไปเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ และการลดนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียอย่างค่อยเป็นค่อยไปและการกระจายความเสี่ยงทางอุปทาน อาจเป็นส่วนหนึ่งของการประนีประนอม "เรายังเห็นโอกาส" เจ้าหน้าที่่ระดับสูงรายหนึ่งของอินเดียกล่าว "ข้อเท็จจริงคือเพดานภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้ใน 21 วัน ส่งสัญญาณว่าทำเนียบขาวเปิดกว้างสำหรับการเจรจา"
(ที่มา:รอยเตอร์)