เอเจนซีส์/เอพี/MGRออนไลน์ - ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน วันเสาร์ (21 ก.ย.) วิจารณ์ปักกิ่งและประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง อย่างเผ็ดร้อนระหว่างหารือผู้นำกลุ่ม QUAD ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอินเดีย ชี้ผู้นำจีนพยายายามซื้อพื้นที่การทูตให้ตัวเองเพื่อโปรโมตไชน่าอย่างก้าวร้าว แสดงพฤติกรรมท้าทายไปทั่วทั้งทะเลจีนใต้ไปจนถึงเอเชียใต้
นิวสวีกของสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (24 ก.ย.) ว่า ปักกิ่งวันจันทร์ (24) ออกมาตอบโต้สหรัฐฯ อย่างแข็งกร้าวหลังเสียงรอดไมค์ผู้นำประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความเห็นตรงไปตรงมาต่อประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และรัฐบาลจีนระหว่างการหารือร่วมกับผู้นำกลุ่ม QUAD 4 ชาติที่รัฐเดลาแวร์บ้านเกิด
โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน หลิน เจี้ยน (Lin Jian) ตอบโต้ระหว่างการรายงานสรุปประจำวัน ชี้นิ้วสหรัฐฯ พยายามสร้าง “ภัยคุกคามจีน” เพื่อควบคุมและโดดเดี่ยวปักกิ่ง และใช้กลุ่ม QUAD เพื่อยังคงความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ต่อไป อ้างอิงสื่อทางการจีน
“ฝ่ายสหรัฐฯ มักกล่าวว่าตัวเองไม่มีเป้าหมายไปที่จีน แต่ประเด็นแรกของการซัมมิตคือ “จีน” และการหารือซัมมิตนั้นเกี่ยวข้องจีนทุกเรื่อง” โฆษกแถลงโต้
โฆษกจีนกล่าวหาวอชิงตันไร้สาระและเรียกร้องให้สหรัฐฯ ละทิ้งต่อความลุ่มหลงในการเป็นผู้นำโลก
กลุ่ม QUAD เป็นกลุ่มพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ที่ย่อมาจาก Quadrilateral Security Dialogue ประกอบไปด้วยสหรัฐฯ อินเดีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ที่บ่อยครั้งจะมองจีนเป็นภัยคุกคาม ถึงแม้ว่าประธานาธิบดีไบเดนมักจะย้ำว่า เป้าหมายของ QUAD เพื่อปกป้องกฎหมายระหว่างประเทศ และเสริมสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาค มากกว่าจะปะทะจีนโดยตรง
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิอาเซียน รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ได้เคยกล่าวถึงกลุ่ม QUAD ของไบเดนว่า การประชุมกลุ่ม QUAD ครั้งที่ 1 นั้นมอง “จีนเป็นภัยซ่อนเร้น”
สมัยของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ในปี 2017 ซึ่งในยุทธศาสตร์ระยะยาวฉบับนี้มีเป้าหมายด้านความมั่นคงของสหรัฐ 4 ข้อ ได้แก่
1.ปกป้องคน มาตุภูมิ และวิถีอเมริกัน
2.สร้างความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ
3.สร้างสันติภาพ
4.คงสถานะผู้จัดระเบียบโลกแบบมหาอำนาจเชิงเดี่ยว
จะเห็นว่า 3 ใน 4 ของเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ระบุชัดเจนว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนคือภัยคุกคาม
ผู้เชี่ยวชาญไทยชี้ว่า ทั้งในในยุทธศาสตร์ระยะยาวปี 2017 ของสหรัฐฯ และ ยุทธศาสตร์ระดับรองภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ในนาม Indo-Pacific Strategy เมื่อปี 2019 สหรัฐฯ ต้องการย้ำว่า “การสร้างพันธมิตรในการปิดล้อมจีนคือสิ่งที่สำคัญที่สุด” และสิ่งสำคัญนั้นก็สะท้อนออกมาในรูปของบทบาทของสหรัฐฯ ที่เป็นตัวตั้งตัวตีใน The Quad
นิวสวีกรายงานต่อว่า การหารือวันเสาร์ (21) ของกลุ่ม QUAD มีนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโธนี อัลบานีส นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ ซึ่งมีปัญหาพรมแดนทั้งกับจีนและรัสเซีย
เอพีรายงาน เครื่องบินรัสเซีย Il-38 บินล้ำน่านฟ้าทางเหนือของญี่ปุ่นวันจันทร์ (23) ที่เกาะรีบุน (Rebun Island) นอกชายฝั่งเกาะฮอกไกโด เป็นเวลา 1 นาที จำนวน 3 ครั้งในช่วงเวลาการบิน 5 ชม.ในพื้นที่ และส่งผลทำให้เครื่องบินรบญี่ปุ่นยิงพลุแสงใส่เครื่องบินรัสเซียเพื่อเตือน
นิวสวีกรายงานว่า เสียงไบเดนรอดออกมามีใจความว่า “จีนยังคงพฤติกรรมก้าวร้าว ท้าทายพวกเราไปทั่วภูมิภาค มันเป็นเรื่องจริงทั้งในทะเลจีนใต้ ทะเลจีนตะวันออก เอเชียใต้ และช่องแคบไต้หวัน”
ปักกิ่งยังคงยืนกรานอ้างสิทธิในทะเลจีนใต้ที่ซึ่งหน่วยยามจีนได้ใช้กระสุนน้ำและพุ่งชนเรือฟิลิปปินส์ใกล้แนวสันดอนซาบินา (Sabina Shoal) จุดปะทะล่าสุดในพื้นที่พิพาท
และปักกิ่งยังคงท้าท้ายญี่ปุ่นในหมู่เกาะสแปรตลีย์ (Spratly Islands)
ไบเดนวิจารณ์ประธานาธิบดีสีกับผู้นำกลุ่ม QUAD ว่า
“เขา (ประธานาธิบดีจีน) มองหาโอกาสที่จะซื้อพื้นที่ทางการทูตให้ตัวเอง ซึ่งในมุมมองของผม เป็นการผลักดันผลประโยชน์จีนอย่างก้าวร้าว”