MGR ออนไลน์ - กองทัพเรือฟิลิปปินส์กำลังติดตามกิจกรรมสร้างเกาะของเวียดนามในทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก ที่เป็นส่วนหนึ่งของทะเลจีนใต้ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของมะนิลา เจ้าหน้าที่กองทัพเรือฟิลิปปินส์ระบุ
พลเรือจัตวารอย วินเซนต์ ตรินิแดด โฆษกกองทัพเรือฝั่งทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก กล่าวกับสถานีวิทยุว่าทั้งกองทัพเรือและกระทรวงการต่างประเทศกำลังจับตาดูสถานการณ์ดังกล่าว
มะนิลาอ้างสิทธิเหนือกลุ่มปะการังและหินที่เรียกว่ากลุ่มหมู่เกาะกาลายานในฟิลิปปินส์ โดยแนวปะการังส่วนใหญ่อยู่ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ ที่หลายประเทศในภูมิภาคแข่งขันอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ดังกล่าว
องค์กรริเริ่มเพื่อความโปร่งใสทางทะเลแห่งเอเชีย (AMTI) ระบุในรายงานฉบับล่าสุดว่าในช่วงระยะเวลา 6 เดือน เวียดนามได้สร้างพื้นที่ขึ้นใหม่ในทะเลจีนใต้มากเท่ากับ 2 ปีก่อนรวมกัน
เวียดนามบุกเบิกพื้นที่ได้รวมทั้งหมด 955 เฮกตาร์ หรือราวครึ่งหนึ่งของพื้นที่ที่จีนสร้างขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา AMTI ระบุ
ความเคลื่อนไหวของฟิลิปปินส์ต่อรายงานการถมที่ของเวียดนามครั้งนี้เกิดขึ้นหลังการเผชิญหน้ากันระหว่างมะนิลาและปักกิ่งในพื้นที่อื่นของน่านน้ำพิพาททวีความรุนแรงขึ้น
ฟิลิปปินส์และเวียดนามมีความสัมพันธ์ฉันมิตร ตรินิแดดกล่าวกับสถานีวิทยุ Super Radyo dzBB และระบุว่า เวียดนามไม่ได้กระทำสิ่งผิดกฎหมาย บีบบังคับ ก้าวร้าว หรือหลอกลวงฟิลิปปินส์ ไม่เหมือนจีน
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์อีกคนหนึ่งกล่าวว่าเวียดนามกำลังถมที่ในพื้นที่ที่เวียดนามยึดครองก่อนมีปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ปี 2545
“เวียดนามมุ่งความสนใจอยู่กับเรื่องของพวกเขา พวกเขาไม่ได้มีส่วนในการคุกคามชาวประมงของเรา หรือส่งเรือยามฝั่งและกองกำลังติดอาวุธทางทะเลอย่างผิดกฎหมายมายังน่านน้ำรอบพื้นที่ทางทะเลที่เราครอบครองอยู่” โฆษกหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว
ในอดีต ฟิลิปปินส์เคยประท้วงทางการทูตอย่างเป็นทางการต่อต้านการสร้างเกาะของเวียดนาม ที่เป็นการปฏิบัติตามปกติในการตอบสนองต่อกิจกรรมของต่างประเทศในทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก เจย์ บาตองบากัล ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายทางทะเล ระบุ
“มันเป็นเรื่องของความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของกิจกรรมต่างๆ เนื่องจากฟิลิปปินส์ให้คุณค่าอย่างมากต่อแหล่งที่อยู่อาศัยทางทะเลและความหลากหลายของสายพันธุ์ สิ่งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์โดยรวมของเวียดนามและฟิลิปปินส์” บาตองบากัล กล่าวสำนักข่าววิทยุเอเชียเสรี
บาตองบากัล กล่าวว่า สองประเทศมีส่วนร่วมในการเจรจาอย่างต่อเนื่องในฐานะสองผู้อ้างสิทธิจากสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ตามปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยแนวปฏิบัติสำหรับภาคีในทะเลจีนใต้ปี 2535 และปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติระหว่างกลุ่มและจีนปี 2545
มะนิลาและฮานอยสถาปนาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในปี 2558 และทำงานร่วมกันในการจัดการการอ้างสิทธิทับซ้อนในทะเลจีนใต้ ท่ามกลางความท้าทายทางทะเลครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นจากจีน เพื่อนบ้านยักษ์ใหญ่ของพวกเขา
เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำกรุงฮานอยเรียกเวียดนามว่าพี่น้องฝาแฝดในภูมิภาคอาเซียน และว่าทั้งสองประเทศใช้ทะเลจีนใต้ร่วมกันเป็นพื้นที่ร่วมกันสำหรับการเติบโต เป็นแหล่งหล่อเลี้ยงชีวิตสำหรับการพัฒนา และมีความจำเป็นต่อการอยู่ร่วมกัน
แต่ความพยายามล่าสุดของเวียดนามอาจกลายเป็นประเด็นปัญหาที่สร้างความแตกแยกระหว่างพวกเขาได้ โดยบทความล่าสุดในหนังสือพิมพ์มะนิลาไทม์สระบุว่าเวียดนามเป็นภัยคุกคามอื่นๆ ของฟิลิปปินส์
“ดังเช่นดวงอาทิตย์ที่ขึ้นทางทิศตะวันออกอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าจีนถอนตัวจากเกาะเทียมที่ยึดครองในทะเลจีนใต้ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามก็จะยกทัพลงบนเกาะแต่ละเกาะ เวียดนามเตรียมการที่จะทำเช่นนั้นมานับทศวรรษ” บทความในหนังสือพิมพ์ระบุ
หนังสือพิมพ์มะนิลาไทม์ส ที่มักถูกมองว่าสนับสนุนจีน เคยตีพิมพ์รายงานเกี่ยวกับการเสริมกำลังทหารของเวียดนามในบริเวณด่านหน้าในทะเลจีนใต้ โดยอ้างถึงเอกสารที่รั่วไหลจากกระทรวงกลาโหม แต่ไม่มีการตรวจสอบเอกสารโดยอิสระและผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสงสัยถึงความถูกต้องของเอกสารดังกล่าว
แต่อย่างไรก็ตาม หลังบทความดังกล่าวถูกตีพิมพ์ มีชาวฟิลิปปินส์กลุ่มหนึ่งออกมาประท้วงและฉีกธงชาติเวียดนามที่หน้าสถานทูตในกรุงมะนิลา ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เวียดนามต้องขอให้ทางการฟิลิปปินส์เข้าจัดการกับเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างจริงจัง.