xs
xsm
sm
md
lg

‘จีน’ข่มขู่แก้เผ็ดเอาคืน‘เนเธอร์แลนด์-ญี่ปุ่น’ หากสมยอม‘สหรัฐฯ’ในการทำสงครามชิปกับแดนมังกร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: เจฟฟ์ เปา


สหรัฐฯต้องการให้ ASML ลดทอนบริการซ่อมบำรุงของบริษัทในประเทศจีน โดยงดเง้นไม่ให้บริการแก่เครื่องจักรพิมพ์ลายบนแผ่นชิปรุ่นก้าวหน้า
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

China threatens chip war retaliation against Dutch, Japanese
by Jeff Pao
04/09/2024

‘จีน’ข่มขู่แก้เผ็ดเอาคืน‘เนเธอร์แลนด์-ญี่ปุ่น’ หากสมยอม‘สหรัฐฯ’ในการทำสงครามชิปกับแดนมังกร

ทั้งสื่อภาครัฐของจีนและพวกเจ้าหน้าที่จีนต่างข่มขู่คุกคามที่จะตอบโต้แก้เผ็ดเอากับเนเธอร์แลนด์และญี่ปุ่น ขณะรบเร้าพวกเขาอย่าได้ยอมทำตามเสียงเรียกร้องของวอชิงตัน ที่ให้กระชับเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการส่งออกชิปของพวกเขาซึ่งมีจุดหมายมุ่งพุ่งเป้าเล่นงานจีน

โกลบอลไทมส์ (Global Times) สื่อรายหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นปากเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุ [1] ในบทวิจารณ์ชิ้นหนึ่งว่า หากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์กระทำตามคำสั่งของวอชิงตันที่ต้องการให้ยุติการให้บริการซ่อมบำรุงแก่เครื่องจักรอุปกรณ์สำหรับพิมพ์ลายบนแผ่นชิป (lithography machines) ระดับเทคโนโลยี ดีป อัลตราไวโอเล็ต (DUV) รุ่นไฮเอนด์ ซึ่งใช้งานอยู่ในประเทศจีนแล้ว ปักกิ่งก็จะดำเนินมาตรการตอบโต้เอาคืนด้วยประการต่างๆ เป็นต้นว่า “การบังคับใช้มาตรการควบคุมจำกัดทางการค้า หรือการเสาะหาซัปพลายเออร์รายอื่นๆ ที่อาจเป็นทางเลือก, และการทบทวนประเมินคุณค่ากันใหม่สำหรับความร่วมมืออย่างอื่นๆ ที่จีนมีอยู่กับเนเธอร์แลนด์ในแวดวงระดับโลก”
(หมายเหตุผู้แปล: บริษัท ASML ของเนเธอร์แลนด์ คือ ซัปพลายเออร์เครื่องจักร lithography รายใหญ่ที่สุดของโลก รวมทั้งยังเป็นซัปพลายเออร์แต่ผู้เดียวของโลกสำหรับเครื่องจักรประเภทนี้ระดับไฮเทคที่สุด ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://en.wikipedia.org/wiki/ASML_Holding)

บทวิจารณ์นี้ปรากฏออกมาหลังจากสื่อบลูมเบิร์กรายงานข่าว [2] ในวันที่ 29 สิงหาคมว่า นายกรัฐมนตรี ดิ๊ก ชูฟ ของเนเธอร์แลนด์ ไม่น่าจะต่อใบอนุญาตบางฉบับที่ออกให้แก่ ASML สำหรับการให้บริการและการจัดหาจัดส่งอะไหล่ชิ้นส่วนไปยังประเทศจีน เมื่อใบอนุญาตเหล่านี้หมดอายุลงในสิ้นปีนี้

รายงานข่าวชิ้นนี้ ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าวที่เป็นผู้คนคุ้นเคยกับเรื่องนี้ ระบุว่า การตัดสินใจเช่นนี้ของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ซึ่งจะมีผลครอบคลุมถึงพวกเครื่องจักร lithography เทคโนโลยี DUV ระดับไฮเอนด์ มีขึ้นภายหลังที่มีแรงกดดันบางประการจากทางสหรัฐฯ

ทั้งนี้ บลูมเบิร์กบอกในรายงานว่า คณะบริหารไบเดนนั้นกำลังพิจารณาที่จะนำเอา กฎระเบียบของสหรัฐฯที่เรียกว่า Foreign Direct Product Rule (FDPR) ซึ่งระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯมีอำนาจห้ามประเทศอื่นๆ ไม่ให้ส่งออกผลิตภัณฑ์ใดๆ ก็ตามที่ผลิตออกมาโดยมีการใช้เทคโนโลยีสหรัฐฯ ด้วย มาบังคับใช้กับผลิตภัณฑ์ทั้งหลายที่ส่งออกไปยังจีน

ตัวนายกฯ ชูฟ เองบอก [3] กับสำนักข่าวรอยเตอร์ในวันที่ 30 สิงหาคมว่า “เราอยู่ระหว่างการหารือกัน เป็นการหารือที่ดี และเรายังกำลังให้ความสนใจอย่างเป็นพิเศษมากๆ สำหรับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของ ASML อีกด้วย ผลประโยชน์เหล่านี้จำเป็นต้องนำมาชั่งน้ำหนักกับความเสี่ยงอื่นๆ ซึ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจนี้ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด”

“ASML สำหรับเนเธอร์แลนด์แล้ว มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด อุตสาหกรรมแห่งนวัตกรรมไม่สมควรที่จะต้องลำบากเดือดร้อนไม่ว่าในสภาวการณ์ใดๆ เพราะนั่นจะสร้างความเสียหายให้แก่ฐานะในโลกของ ASML” เขากล่าวต่อ

อย่างไรก็ดี เนเธอร์แลนด์ไม่ได้เป็นประเทศซัปพลายเออร์เพียงรายเดียว ที่กำลังรู้สึกถูกแรงกดดันอย่างรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในรายงานอีกชิ้นหนึ่งของสื่อบลูมเบิร์กซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 2 กันยายน บอก [4] ว่า พวกเจ้าหน้าที่อาวุโสของจีนบางคนได้บอกกับบรรดาบริษัทญี่ปุ่นว่า จีนจะตอบโต้แก้เผ็ดถ้าหากโตเกียวเพิ่มความเข้มแข็งในการควบคุมการส่งออกชิปของญี่ปุ่น

รายงานชิ้นนี้บอกว่า พวกผู้บริหารของบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ได้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นอย่างเป็นการภายในว่า พวกเขามีความกังวลว่าปักกิ่งจะตัดขาดควบคุมไม่ให้ญี่ปุ่นสามารถเข้าถึงพวกแร่ที่ทรงความสำคัญยิ่งยวดซึ่งจำเป็นเหลือเกินสำหรับการผลิตรถยนต์ รายงานนี้ยังกล่าวด้วยว่า เท่าที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ สหรัฐฯยังงดเว้นไม่มีการบังคับใช้กฎระเบียบ FDPR เอากับเหล่าชาติพันธมิตรของตน โดยยังประสงค์ที่จะหาทางออกในเชิงการทูตกับพวกเขามากกว่า

จำกัดควบคุมอะไรกันบ้าง

นับจากวันที่ 1 มกราคมปีนี้เป็นต้นมา รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้ยุติ [5] การออกใบอนุญาตให้ขนส่งระบบพิมพ์ลายบนแผ่นชิป DUV immersion lithography systems รุ่นที่ล้ำยุคที่สุดของ ASML ไปประเทศจีนอยู่แล้ว (ได้แก่รุ่น NXT: 2000i, NXT:2050i และ NXT:2100i ตลอดจนรุ่นอื่นๆ ถัดจากรุ่นเหล่านี้)

แต่กระนั้นพวกผู้ผลิตชิปของจีนก็ยังคงสามารถซื้อหาเครื่องจักรเหล่านี้ได้จากประเทศที่สาม ขณะที่ ASML มีพันธะที่จะต้องให้บริการซ่อมบำรุง และจำหน่ายอะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆ สำหรับเครื่องจักรเหล่านี้

เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สื่อหลายกระแสรายงาน [6]ว่า คณะบริหารไบเดนจะขยายการใช้กฎระเบียบ FDPR ของตนซึ่งจริงๆ ออกมาครั้งแรกตั้งแต่ปี 1959 ให้ครอบคลุมกว้างขวางยิ่งขึ้น เพื่อควบคุมการค้าเทคโนโลยีต่างๆ ของสหรัฐฯ โดยคาดกันว่าจะออกมาภายในสิ้นเดือนสิงหาคม

รายงานของสื่อเหล่านี้ระบุว่า วอชิงตันอาจใช้ FDPR เพื่อยับยั้งตัดหนทางไม่ให้จีนสามารถซื้อหาพวกชิปความจำแบนด์วิดธ์สูง (high-bandwidth memory หรือ HBM) ระดับไฮเอนด์ ที่ผลิตในเกาหลีใต้ ตลอดจนเครื่องจักรอุปกรณ์ทำชิป ซึ่งผลิตในเนเธอร์แลนด์ และในญี่ปุ่น ผ่านดินแดนหรือประเทศที่สามอย่างเช่น อิสราเอล, สิงคโปร์, มาเลเซีย, และไต้หวัน ถึงแม้จนกระทั่งถึงเวลานี้ สหรัฐฯยังไม่ได้มีการประกาศมาตรการหยุดยั้งควบคุมดังกล่าวออกมา

ตั้งแต่ปีที่แล้ว วอชิงตันยังพยายามผลักดันรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ให้จำกัดบริการซ่อมบำรุงซึ่ง ASML ทำให้กับพวกลูกค้าชาวจีน โดยที่การควบคุมเช่นนี้ดูเหมือนจะพุ่งเป้าเล่นงานเครื่องจักร lithography เทคโนโลยี DUV รุ่นก้าวหน้า ในจีน ซึ่งทั้งหมดอาจจะมีอยู่ไม่ถึง 5 เครื่อง

กระนั้น สื่อของรัฐจีนตลอดจนพวกนักวิจารณ์แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อ (คอมเมนเตเตอร์) ชาวจีน บอกว่า การจำกัดควบคุมเช่นนี้จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่โตต่อภาคอุตสาหกรรมชิปของจีน เนื่องจากเครื่องจักรรุ่นที่ถูกกระทบกระเทือน เป็นเครื่องจักรที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการผลิตชิปขนาด 7 นาโนเมตร

“ถ้า ASML ยุติการให้บริการซ่อมบำรุงและการจัดหาจัดส่งอะไหล่ชิ้นส่วนให้แก่จีนแล้ว เครื่องจักร lithography ระดับ DUV บางเครื่องก็อาจจะต้องหยุดทำงานตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป” เจี๋ยฟู (Jiefu) คอลัมนิสต์ด้านไอทีซึ่งตั้งฐานอยู่ที่เมืองฉงชิ่ง กล่าวในข้อเขียน [7] ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (2 ก.ย.) “พวกบริษัทที่กำลังใช้วิธีการพิมพ์ลายหลายๆ ครั้งเพื่อให้ได้ชิประดับไฮเอนด์ จะเป็นพวกที่เจ๊งเป็นอันดับแรก”

เขาบอกว่า มันจะเป็นสถานการณ์ที่มีแต่เสียกับเสียทั้งสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีนและ ASML

ขณะที่ โกลบอลไทมส์ ระบุ [8] ในบทวิจารณ์แสดงความคิดเห็นชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่ในวันที่ 1 กันยายนว่า “นี่คือความเคลื่อนไหวทางยุทธศาสตร์โดยวอชิงตัน เพื่อเป็นปรปักษ์กับจีนให้มากขึ้นอีก และบั่นทอนจำกัดการพัฒนาของจีน” และกล่าวต่อไปว่า “มันจะทำให้ความแตกร้าวที่แผ่กว้างมากขึ้นเรื่อยๆ อยู่แล้วในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ และจีน-เนเธอร์แลนด์ ยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก ทำให้ความไร้เสถียรภาพในทางภูมิรัฐศาสตร์ของโลกยิ่งเพิ่มพูนขึ้น”

บทความนี้กล่าวด้วยว่า เนเธอร์แลนด์เวลานี้กำลังชั่งน้ำหนักผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการตัดสินใจเรื่องจะให้ ASML จำกัดการส่งออกมายังจีนหรือไม่ และระบุว่าความพยายามของเนเธอร์แลนด์ที่จะมองหาจุดสมดุลเช่นนี้ เป็นเครื่องบ่งชี้ว่า นโยบายสหรัฐฯที่มุ่งปิดล้อมจีน กำลังมาถึงขีดจำกัดของมันแล้ว

ทางด้าน เดล เจี้ย เหวินจี๋ (Dale Jieh Wen-chieh) อดีตเอกอัครราชทูตของไต้หวันประจำนิวซีแลนด์ แสดงทัศนะ [9]ในรายการทีวีรายการหนึ่งของไต้หวันซึ่งมีการเผยแพร่ทางยูทูบ ว่าสหรัฐฯสามารถบังคับ ASML ให้หยุดการซ่อมเครื่องจักร lithography เทคโนโลยี DUV รุ่นไฮเอนด์ที่ใช้อยู่ในจีนได้ เนื่องจากสหรัฐฯเป็นเจ้าของเทคโนโลยีอัลตราไวโอเล็ตซึ่ง ASML จำเป็นต้องใช้ในการผลิตของบริษัท –แล้วนอกจากนี้ทางฝ่ายอเมริกันยังสามารถเรียกร้องเยอรมนีให้จำกัดการส่งออกเลนซ์ Zeiss ไปให้เนเธอร์แลนด์ได้อีกด้วย

เจี้ยกล่าวว่ามันไม่น่าเป็นไปได้เลยที่ บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ป (Semiconductor Manufacturing International Corp หรือ SMIC) ของจีน ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่เซี่ยงไฮ้ และถูกระบุในรายงานข่าวต่างๆ ว่าเป็นผู้ใช้เครื่องจักรของ ASML มาพิมพ์ลายซ้ำหลายๆ ครั้ง จนสามารถผลิตชิปขนาด 7 นาโนเมตรให้แก่ หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ได้สำเร็จ จะสามารถหลบหลีกการจำกัดควบคุมของสหรัฐฯครั้งนี้ภายในระยะเวลาสองสามปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม คอมเมเตเตอร์ที่ตั้งฐานอยู่ในมณฑลหูหนานรายหนึ่ง แสดงความเห็น [10] ว่า ชาวจีนไม่ควรที่จะวิตกกังวลกันจนเกินไป เนื่องจากพวกผู้ผลิตชิปของจีนในท้ายที่สุดแล้วจะต้องสามารถหาวิธีการเพื่อให้ได้อะไหล่ชิ้นส่วนที่จำเป็น และซ่อมแซมเครื่อง lithography เทคโนโลยี DUV รุ่นไฮเอนด์ จนได้นั่นแหละ ทำนองเดียวกับรัสเซียยังคงสามารถซื้อหาชิปสหรัฐฯ ผ่านช่องทางไม่เป็นทางการต่างๆ หลายหลากช่องทางในเวลานี้

เชิงอรรถ
[1] https://www.globaltimes.cn/page/202409/1319035.shtml
[2] https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-08-29/the-netherlands-to-put-more-curbs-on-asml-s-china-chip-business
[3] https://www.reuters.com/markets/netherlands-weigh-asmls-interests-china-export-restriction-decision-pm-says-2024-08-30/
[4] https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-09-02/china-warns-japan-of-retaliation-over-potential-new-chip-curbs
[5] https://www.reuters.com/markets/netherlands-weigh-asmls-interests-china-export-restriction-decision-pm-says-2024-08-30/
[6] https://asiatimes.com/2024/08/us-to-tighten-china-chip-squeeze-with-old-cold-war-rule/
[7] https://baijiahao.baidu.com/s?id=1809068923730806684&wfr=spider&for=pc
[8] https://www.globaltimes.cn/page/202409/1319035.shtml
[9] https://m.youtube.com/watch?v=AOc6qXkhxYw&pp=ygUV6Im-5Y-45pGp54i-6KKr5aiB6ISF
[10] https://www.sohu.com/a/805232746_121097259

เครื่องโทรศัพท์มือถือที่หน้าจอแสดงโลโก้ของ ASML วางอยู่บนแผงวงจรหลัก (motherboard) ของเครื่องคอมพิวเตอร์
หมายเหตุผู้แปล

หลังจากเอเชียไทมส์เผยแพร่ข้อเขียนชิ้นนี้เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2024 ต่อมา สื่อซีเอ็นบีซี ได้เสนอรายงานข่าวในวันที่ 6 กันยายน ซึ่งมีประเด็นสำคัญ 3 ประเด็นคือ

**รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ได้ออกคำแถลงในวันที่ 6 ก.ย. ระบุว่า ขณะนี้เนเธอร์แลนด์กำลังขยายมาตรการจำกัดการส่งออกเครื่องจักรอุปกรณ์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับก้าวหน้า

**ซีเอ็นบีซีอธิบายว่า การเปลี่ยนแปลงนี้หมายความว่า ในทางเป็นจริงแล้วรัฐบาลเนเธอร์แลนด์กำลังก้าวเข้าแทนที่รัฐบาลสหรัฐฯ ในเรื่องการควบคุมว่าเครื่องจักรอุปกรณ์อะไรของASML บ้างที่สามารถส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ

**ทางด้านASML ออกคำแถลงว่าการเปลี่ยนระเบียบกฎเกณฑ์ในวันที่ 6 ก.ย.นี้ หมายความว่า ตั้งแต่นี้ไป ระบบเครื่องจักร DUV immersion lithography systems รุ่นTWINSCAN NXT:1970i and 1980i ของบริษัท จะต้องได้ได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ก่อน จึงจะส่งออกได้

ในส่วนของรัฐบาลจีนได้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้เรื่องนี้ในวันที่ 8 ก.ย. โดยตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ กระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกคำแถลงในวันดังกล่าวบอกว่า จีนไม่พอใจกับการตัดสินใจของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ที่เพิ่มมาตรการควบคุมการส่งออกเครื่องจักรผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของ ASML คราวนี้

ในคำแถลงฉบับนี้ กระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า ทางฝ่ายเนเธอร์แลนด์ไม่ควรใช้มาตรการควบคุมการส่งออกไปในทางมิชอบ พร้อมกับขอให้หลีกเลี่ยนมาตรการที่จะสร้างความเสียหายให้แก่ความร่วมมือกันระหว่างจีนกับเนเธอร์แลนด์ในเรื่องเซมิคอนดักเตอร์ รวมทั้งขอให้ป้องกัน “ผลประโยชน์ร่วมกันของวิสาหกิจจีนและวิสาหกิจเนเธอร์แลนด์”

เวลาเดียวกัน ในคำแถลงนี้ได้ตำหนิวิจารณ์สหรัฐฯว่า “ในช่วงปีหลังๆ มานี้ เพื่อธำรงรักษาฐานะความเป็นเจ้าเหนือใครในโลกของตนเอาไว้ สหรัฐฯกำลังพยายามอย่างต่อเนื่องในการ ... ใช้อำนาจบังคับบางประเทศให้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการควบคุมการส่งออกทางด้านเซมิคอนดักเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง ... จีนคัดค้านอย่างเด็ดเดี่ยวต่อเรื่องเช่นนี้”

(ดูเพิ่มเติมได้ที่https://www.cnbc.com/2024/09/06/netherlands-expands-export-curbs-on-advanced-chip-tools.html#:~:text=The%20Dutch%20government%20on%20Friday,to%20export%20to%20other%20countries. และที่ https://www.reuters.com/technology/china-says-dissatisfied-with-new-dutch-export-controls-asml-chipmaking-tools-2024-09-08/#:~:text=Technology-,China%20says%20%22dissatisfied%22%20with%20new%20Dutch%20export,controls%20on%20ASML%20chipmaking%20tools&text=BEIJING%2C%20Sept%208%20(Reuters),in%20a%20statement%20on%20Sunday.)
กำลังโหลดความคิดเห็น