xs
xsm
sm
md
lg

เพิ่มอุณหภูมิเดือด!! รัสเซียย้ำปรับหลักการให้สามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ง่ายขึ้น ขณะข่าวสะพัดUSใกล้อนุมัติส่งขีปนาวุธพิสัยไกล JASSM ให้เคียฟ โจมตีลึกเข้าไปในแดนหมีขาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เครื่องบินของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ขณะยิงขีปนาวุธ JASSM ระหว่างการทดสอบ ในภาพนี้ซึ่งไม่ได้ระบุว่าถ่ายเมื่อใด แต่สำนักข่าวเอเอฟพีนำเอาเผยแพร่เมื่อเดือนธันวาคม ปี2003
ทำเนียบเครมลินสำทับในวันพุธ (4 ก.ย.) การปลุกปั่นยั่วยุของฝ่ายตะวันตกกำลังบีบให้รัสเซียต้องพิจารณาเปลี่ยนแปลงหลักการใช้อาวุธนิวเคลียร์ เตือนพร้อมตอบโต้รุนแรงมากทันที ถ้าถูกโจมตีด้วยอาวุธยิงไกลหรือถูกเคียฟรุกราน หลังมีข่าวอเมริกาใกล้ตกลงส่งขีปนาวุธร่อนหลบหลีกเรดาร์พิสัยไกลประสิทธิภาพสูงให้ยูเครน ซึ่งสามารถโจมตีลึกเข้าสู่ดินแดนชั้นในของรัสเซีย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันอังคาร (3) โดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าว 3 คนที่ไม่เปิดเผยชื่อซึ่งระบุว่า อาจมีการประกาศแพกเกจอาวุธรอบใหม่ที่สหรัฐฯจะจัดส่งไปให้ยูเครนในฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้ ซึ่งจะครอบคลุมขีปนาวุธร่อนยิงจากอากาศสู่พื้น Joint Air-to-Surface Standoff Missiles (JASSM) แม้ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายก็ตาม

การส่ง JASSM ให้ยูเครนอาจทำให้ภูมิทัศน์เชิงยุทธศาสตร์ของการสู้รบขัดแย้งนี้เปลี่ยนแปลงไป โดยทำให้ดินแดนรัสเซียในขอบเขตกว้างขวางขึ้นตกอยู่ในพิสัยการโจมตีของจรวดนำวิถีที่แม่นยำและทรงพลัง ซึ่งเป็นประเด็นที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนมีความกังวลว่า อาจเป็นเหตุให้มอสโกมีปฏิกิริยาตอบโต้ จนทำให้สงครามบานปลายขยายตัว

พวกนักวิเคราะห์ทางการทหารชี้ว่า JASSM ซึ่งมีคุณสมบัติหลบหลีกเรดาร์และมีพิสัยโจมตีไกลกว่าขีปนาวุธส่วนใหญ่ซึ่งมีอยู่ในคลังแสงยูเครนปัจจุบัน อาจทำให้รัสเซียต้องถอยจุดเตรียมการสำหรับการออกปฏิบัติการในยูเครน ตลอดจนคลังสัมภาระต่างๆ ให้ออกห่างไปอีกหลายร้อยกิโลเมตร ซึ่งจะบ่อนทำลายศักยภาพในการคงปฏิบัติการบุกโจมตี และอาจช่วยให้ยูเครนพลิกกลับมามีความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์

การปล่อยขีปนาวุธ JASSM จากบริเวณใกล้ชายแดนด้านเหนือของยูเครนอาจโจมตีได้ถึงที่ตั้งทางทหารของรัสเซียในเมืองโวโรเนซและบรีแยนสก์ และหากปล่อยใกล้แนวรบทางใต้อาจโจมตีสนามบินและฐานปฏิบัติการของกองทัพเรือรัสเซียในไครเมีย

ปัจจุบันสหรัฐฯมีการติดตั้งจรวดรุ่นนี้ในเครื่องบินรบของตนอยู่แล้ว และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งเผยว่า กำลังมีการดำเนินการเพื่อให้สามารถติดตั้ง JASSM ในเครื่องบินขับไล่ของประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตะวันตก ซึ่งยูเครนครอบครองอยู่ อาทิ มิก-29, ซู-24 และซู-27 ที่ผลิตออกมาตั้งแต่ครั้งสหภาพโซเวียตยังไม่ล่มสลาย

ทั้งนี้ JASSM ที่ผลิตโดยล็อกฮีด มาร์ติน รุ่นเก่ามีพิสัยโจมตีไกลราวๆ 370 กม. และมีคุณสมบัติระดับสูงในการหลบหลีกการตรวจจับของเรดาร์ นอกจากนั้นยังสามารถบินในระยะต่ำและตั้งโปรแกรมให้บินเป็นเส้นทางคดเคี้ยวเพื่อหลีกเลี่ยงระบบป้องกันภัยทางอากาศ

JASSM ยังมีรุ่นที่ยิงได้ไกลกว่า 800 กม. โดยจรวดแต่ละลูกสามารถติดหัวรบขนาด 1,000 ปอนด์ได้ 1 หัวรบ

ระบบนำวิถีของ JASSM ใช้สัญญาณจีพีเอสและระบบนำทางเฉื่อย เมื่อเข้าใกล้เป้าหมาย จะมีระบบค้นหาคลื่นอินฟราเรดช่วยนำทางไปยังจุดเข้ากระทบด้วยความแม่นยำประมาณ 3 เมตร

ท่ามกลางกระแสข่าวทางการยูเครนรบเร้าอยู่แทบทุกวัน ให้ฝ่ายตะวันตกจัดส่งอาวุธพิสัยไกลมาให้ หรืออนุญาตให้เคียฟใช้อาวุธซึ่งมีสมรรถนะเช่นนี้ที่ได้รับมาแล้ว ในการโจมตีลึกเข้าไปในรัสเซีย ปรากฏว่ามอสโกได้แสดงปฏิกิริยาด้วยการข่มขู่ที่จะตอบโต้โดยใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยเฉพาะอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี

ล่าสุดคือเมื่อวันพุธ (4) ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ประกาศว่า รัสเซียกำลังปรับเปลี่ยนหลักนิยมนิวเคลียร์ (nuclear doctrine)เนื่องจากถูกคุกคามจากอเมริกาและพันธมิตรตะวันตกที่ปลุกปั่นยั่วยุให้สงครามในยูเครนลุกลาม และปฏิบัติต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงที่ชอบธรรมของรัสเซียอย่างเลวร้าย รวมทั้งปฏิเสธการเจรจากับรัสเซีย

เปสคอฟโจมตีว่า อเมริกาพยายามทำลายสถาปัตยกรรมความมั่นคงหลังยุคสงครามเย็นของยุโรป และเสริมว่า การทบทวนหลักนิยมนิวเคลียร์ของแดนหมีขาว อยู่ระหว่างการดำเนินการขั้นต้น โดยจะมีการวิเคราะห์สถานการณ์ความขัดแย้งปัจจุบันอย่างรอบคอบและใช้เป็นพื้นฐานการเปลี่ยนแปลงหลักนิยม

สำหรับหลักนิยมนิวเคลียร์ฉบับที่ใช้อยู่ปัจจุบัน อยู่ในรูปของกฤษฎีกาที่ออกโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในปี 2020 น ระบุว่า รัสเซียสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ในกรณีที่ถูกโจมตีด้วยนิวเคลียร์ หรืออาวุธตามแบบแผนธรรมดาซึ่งถึงขั้นคุกคามการดำรงอยู่ของประเทศ

ปัจจุบัน รัสเซียกับอเมริกาเป็นสองชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยรวมกันแล้วครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ราว 88% ของทั่วโลก และต่างกำลังปรับปรุงคลังแสงนิวเคลียร์ของตนเอง ขณะที่สงครามในยูเครนกระตุ้นการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างรัสเซียกับตะวันตก

เปสคอฟสำทับว่า ยูเครนแสดงออกชัดเจนว่า ต้องการใช้อาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้โจมตีลึกเข้าสู่ดินแดนรัสเซีย

ด้าน มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ก็ออกมาแถลงเตือนพวกนักการเมืองในสหภาพยุโรป องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และประเทศอื่นๆ ว่ากำลังแสดงความไร้ความรับผิดชอบ ไม่ตระหนักถึงความเป็นจริง ไม่คิดถึงความเสี่ยงที่การสู้รบขัดแย้งจะลุกลามออกไป และกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติของพวกเขาเอง พร้อมกับย้ำว่า รัสเซียจะตอบโต้อย่างรุนแรงมากทันที ถ้าถูกโจมตีด้วยอาวุธพิสัยไกล หรือถูกเคียฟรุกราน

(ที่มา: รอยเตอร์/เอเจนซีส์)
กำลังโหลดความคิดเห็น