ฮามาสตั้ง ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้วางแผนบุกโจมตีภาคใต้อิสราเอลแบบช็อกโลกเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2023 อันเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามในกาซา เป็นผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่ม สืบแทน อิสมาอิล ฮานิเยห์ ที่ถูกลอบสังหารในกรุงเตหะรานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในเวลาใกล้เคียงกันนั้น ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ประกาศกร้าวพร้อมชำระแค้นอิสราเอล โดยไม่สนใจว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบอะไรบ้าง ขณะที่ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า ปูตินขอให้อิหร่านหลีกเลี่ยงการโจมตีพลเรือนอิสราเอล ระหว่างปฏิบัติการตอบโต้ยิว
ซินวาร์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมันสมองที่อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีที่สร้างความสูญเสียต่ออิสราเอลมากที่สุดในรอบหลายสิบปี ยังคงใช้ชีวิตกบดานอยู่ภายในฉนวนกาซา แม้จะถูกกองทัพอิสราเอลไล่ล่าเด็ดหัวมาตั้งแต่สงครามเริ่มปะทุขึ้นเมื่อ 10 เดือนที่แล้วก็ตาม
“ขบวนการต่อต้านเพื่ออิสลามฮามาส (The Islamic Resistance Movement Hamas) ขอประกาศแต่งตั้งผู้บัญชาการ ยาห์ยา ซินวาร์ ขึ้นเป็นหัวหน้าสำนักงานฝ่ายการเมืองของฮามาส แทนที่ผู้บัญชาการ อิสมาอีล ฮานิเยห์ ซึ่งเป็นผู้สละชีพ ขอพระเจ้าโปรดประทานความเมตตาแก่เขา” ถ้อยแถลงของฮามาสระบุ
ขณะที่ จิบริล ราชูบ เลขาธิการคณะกรรมการกลางของขบวนการฟาตาห์ที่ปกครององค์การบริหารแห่งชาติปาเลสไตน์ในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ และเดิมทีเป็นศัตรูกับฮามาส แต่เวลานี้กลับมาญาติดีกัน กล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวเหมาะสมและเป็นไปตามคาด
ด้านฮิซบอลเลาะห์ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในเลบานอนและได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านเช่นเดียวกับฮามาส แสดงความยินดีกับซินวาร์ และสำทับว่า ความเคลื่อนไหวนี้เป็นการยืนยันว่า เป้าหมายของอิสราเอลในการสังหารผู้นำและเจ้าหน้าที่ฮามาสล้มเหลว
ทางฝ่ายอิสราเอลนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศ อิสราเอล แคตซ์ ชี้ว่า การแต่งตั้งซินวาร์เป็นอีกเหตุผลสำคัญในการกำจัดบุคคลผู้นี้รวมทั้งกลุ่มฮามาสทั้งหมดให้สิ้นซาก
พวกนักวิเคราะห์เชื่อว่า ซินวาร์ มีแนวโน้มลังเลมากกว่าฮานิเยห์ ในการสนับสนุนข้อตกลงหยุดยิงกับอิสราเอล
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขึ้นอยู่กับซินวาร์ว่า จะช่วยผลักดันข้อตกลงหยุดยิงหรือไม่ และสำทับว่า อเมริกาติดต่อกับพันธมิตรและหุ้นส่วนในตะวันออกกลางอย่างต่อเนื่อง และต่างเห็นพ้องกันอย่างชัดเจนว่า ไม่ต้องการให้สถานการณ์ลุกลาม รวมทั้งได้แจ้งเรื่องนี้กับอิสราเอลและอิหร่านโดยตรง
บลิงเคนยังประกาศย้ำว่า อเมริกายังคงปกป้องอิสราเอลไม่ให้ถูกโจมตีต่อไปตามเดิม แต่ตั้งข้อสังเกตว่า ทุกฝ่ายในตะวันออกกลางควรเข้าใจถึงความเสี่ยงจากสถานการณ์ที่ลุกลามและการคำนวณผิดพลาด และย้ำว่า การเดินหน้าโจมตีกันไปต่อไปรังแต่เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลลัพธ์อันตรายที่ไม่มีใครสามารถคาดเดาหรือควบคุมได้ทั้งหมด
เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เพนตากอนประกาศจัดส่งหมู่เรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีอีก 1 หมู่ ซึ่งมีทั้งฝูงเครื่องบินขับไล่และเรือรบหลายลำ ไปประจำการเพิ่มเติมในตะวันออกกลาง โดยลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า อเมริกาจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อปกป้องทหารอเมริกันและให้ความช่วยเหลือเพื่อปกป้องอิสราเอลหากได้รับการร้องขอ
อย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ (5) ฐานทัพอากาศอาซาด ที่อยู่ทางตะวันตกของอิรักถูกโจมตีและมีทหารอเมริกันได้รับบาดเจ็บ 7 นาย ซึ่งออสตินระบุว่า เป็นฝีมือกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน พร้อมประกาศว่า อเมริกาจะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้
เวลานี้ทั่วโลกต่างกังวลมากขึ้นว่า ตะวันออกกลางจะกลายเป็นสนามรบเต็มรูปแบบ หลังจากอิหร่านประกาศล้างแค้นให้ฮานิเยห์ ผู้นำทางการเมืองของฮามาสที่ถูกลอบสังหารระหว่างเดินทางไปร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีใหม่ของอิหร่านในเตหะรานเมื่อวันที่ 30 ก.ค. ขณะที่ ฮิซบอลเลาะห์ ก็ประกาศแก้แค้นให้ ฟาอัด ชุคร์ ผู้บัญชาการอาวุโสของตนที่ถูกอิสราเอลลอบสังหารในวันเดียวกันที่กรุงเบรุต
ในวันอังคาร ซาเอ็ด ฮัสซัน นาสรัลลาห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ ย้ำระหว่างปราศรัยทางทีวีว่า ฮิซบอลเลาะห์กำลังรอจังหวะและจะตอบโต้การสังหาร ชุคร์ อย่างรุนแรง ไม่ว่าจะมีผลตามมาอย่างไร โดยอาจลงมือเองหรือร่วมกับพันธมิตรในภูมิภาค และเสริมว่า ความพยายามของนานาชาติในการโน้มน้าวให้ฮิซบอลเลาะห์เลิกล้มความตั้งใจล้างแค้นนั้นจะไม่เป็นผล
กระนั้น ในวันเดียวกัน แหล่งข่าวอาวุโสสองคนในอิหร่านเผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ได้ขอให้อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน งดเว้นการโจมตีพลเรือนอิสราเอลในปฏิบัติการล้างแค้นให้ฮานิเยห์ โดย เซียร์เก ชอยกู พันธมิตรอาวุโสของปูติน เป็นผู้นำสาส์นนี้ไปส่งให้ระหว่างพบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านที่เตหะรานเมื่อวันจันทร์
แหล่งข่าวทั้งสองคนทิ้งท้ายว่า การเยือนของชอยกูเป็นหนึ่งในวิธีที่มอสโกใช้ในการแจ้งกับอิหร่านถึงความจำเป็นในการจำกัดการโจมตี ควบคู่กับการประณามการลอบสังหารฮานิเยห์ โดยที่รัสเซียมองว่ามีอันตรายมากที่จะเกิดสงครามใหญ่ในตะวันออกกลาง และจะต้องพยายามป้องกัน
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)