หลายประเทศเรียกร้องพลเมืองของตนเดินทางออกจากเลบานอนที่กำลังจะกลายเป็นแนวหน้าแนวใหม่ของสงครามตะวันออกกลาง ขณะที่อิหร่านลั่นมีสิทธิชอบธรรมในการตอบโต้อิสราเอลสำหรับการลอบสังหารผู้นำฮามาส อิสมาอิล ฮานิเยห์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้านเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ของอเมริการายงานว่า บลิงเคนบอกกับสมาชิกกลุ่มจี7 อิหร่านและฮิซบอลเลาะห์เล็งลงมืออย่างเร็วที่สุดในวันจันทร์ (5 ส.ค.) นี้ โดยรัฐมนตรีกลาโหมยิวยังท้าทาย ถ้ากล้ามาโจมตีจริงก็ให้เตรียมรับการตอบโต้สถานหนัก
สงครามในกาซาที่ดำเนินมาเกือบ 10 เดือนยังคงดำเนินต่อไป โดยความรุนแรงที่สำคัญยังคงเป็นการที่อิสราเอลถล่มโจมตีใส่พื้นที่ในฉนวนกาซา ท่ามกลางรายงานข่าวการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนปาเลสไตน์ แต่ขณะเดียวกัน ทั่วโลกตอนนี้กำลังวิตกเรื่องที่สถานการณ์ทำท่าลุกลามบานปลายอย่างน่ากลัว จนจะระเบิดเป็นศึกใหญ่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง
ในวันอาทิตย์ (4 ส.ค.) หน่วยงานป้องกันภัยพลเรือนของกาซาระบุว่า อิสราเอลโจมตีถล่มโรงเรียน 2 แห่งในเมืองกาซาซิตี้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 คน และนับจากวันที่ 6 ที่ผ่านมามีโรงเรียนอย่างน้อย 11 แห่งในกาซาถูกกองทัพรัฐยิวโจมตี ขณะที่ผู้หลบหนีสงครามจำนวนมากมายอาศัยโรงเรียนเหล่านี้เป็นที่พำนักลี้ภัย
ทางด้านกองทัพอิสราเอลยืนยันรายงานดังกล่าว และอ้างเช่นเดียวกับที่เคยอ้างว่า มีนักรบฮามาสหลบซ่อนอยู่ในโรงเรียน 2 แห่งนั้น
ในอีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่า ตรงใกล้ๆ ย่านธุรกิจในกรุงเทลอาวีฟของอิสราเอล มีผู้ถูกแทงเสียชีวิต 2 คน โดยคนร้ายที่เป็นชาวปาเลสไตน์จากเขตยึดครองเวสต์แบงก์ ถูกตำรวจจับกุมและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
สำหรับที่เลบานอน กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ต่อสู้กับกองกำลังอิสราเอลเกือบทุกวันนับจากที่สงครามกาซาปะทุขึ้นในเดือนตุลาคม ประกาศว่า นักรบ 2 คนเสียชีวิตแต่ไม่ได้ระบุว่า เสียชีวิตที่ใด
ทว่า กระทรวงสาธารณสุขเลบานอนแถลงว่า อิสราเอลโจมตีหมู่บานฮูลา บริเวณชายแดนทางใต้ และมีผู้เสียชีวิต 2 คน ส่วนสำนักงานเนชันแนล นิวส์ของทางการเลบานอนรายงานว่า อิสราเอลโจมตีหลายจุดทางใต้ของประเทศ หลังจากฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดระลอกใหม่โจมตีดินแดนตอนเหนือของอิสราเอล
ทางฝั่งกองทัพอิสราเอลแถลงว่า สามารถสกัดจรวดส่วนใหญ่จาก 30 ลูกที่ยิงมาจากเลบานอน นอกจากนั้นเมื่อเช้าวันจันทร์ (5 ส.ค.) ยังพบเป้าหมายทางอากาศต้องสงสัย ข้ามแดนจากฝั่งเลบานอนเข้าไปโจมตีในเขตอัปเปอร์กาลิลีของอิสราเอล ทำให้เกิดไฟไหม้และทหารอิสราเอล 1 นายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เหตุการณ์รุนแรงข้ามพรมแดนที่เกิดขึ้นนับจากเดือนตุลาคมทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 547 คนในเลบานอน ส่วนใหญ่เป็นนักรบ และมีพลเรือนรวมอยู่ด้วย 115 คน
ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และอิหร่าน เพิ่มสูงปรี๊ดขึ้นมาตอนกลางสัปดาห์ที่แล้ว เมื่ออิสราเอลแถลงว่าได้สังหาร ฟาอัด ชุคร์ ผู้บัญชาการคนสำคัญของกองกำลังของฮิซบอลเลาะห์ ในกรุงเบรุต เมืองหลวงเลบานอน เมื่อวันพุธที่แล้ว (7 ส.ค.) ในวันเดียวกัน ก็เกิดเหตุ อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำทางการเมืองของฮามาส ถูกลอบสังหารในกรุงเตหะราน เมืองหลวงอิหร่าน โดยแม้อิสราเอลทำเงียบเฉยไม่พูดอะไรกับกรณีหลังนี้ แต่อิหร่านและกองกำลังในตะวันออกกลางที่เป็นพันธมิตรของพวกเขา ซึ่งรวมตัวกันเป็น “กลุ่มอักษะแห่งการต่อต้าน” ต่างระบุว่าเป็นฝีมือของอิสราเอลอย่างแน่นอน พร้อมกับประกาศล้างแค้นรัฐยิว โดยที่สื่อตะวันตกก็อ้างแหล่งข่าวหน่วยข่าวกรองอิสราเอลรายงานเหตุลอบสังหารนี้กันอย่างเอิกเกริก
สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน รวมทั้งกับอิหร่าน ทำให้ซาอุดีอาระเบียและฝรั่งเศสเป็นสองประเทศล่าสุดที่เรียกร้องให้พลเมืองของตนงดเดินทางไปเลบานอน ส่วนพลเมืองที่อยู่ในเลบานอนเวลานี้ก็ให้รีบเดินทางออกมาทันที นอกจากนี้ ฝรั่งเศสยังเรียกร้องให้พลเมืองของตนที่อยู่ในอิหร่านเดินทางออกมาชั่วคราวด้วย
เวลาเดียวกัน สายการบินตะวันตกหลายแห่งต่างระงับเที่ยวบินไปยังเลบานอนและสนามบินแห่งอื่นๆ ในภูมิภาคดังกล่าว ส่วนกาตาร์ แอร์เวย์ประกาศให้บริการเส้นทางโดฮา-เบรุต เฉพาะช่วงกลางวันเท่านั้นอย่างน้อยจนถึงวันจันทร์
นาสเซอร์ คานานี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน ประกาศระหว่างการแถลงข่าวปกติเมื่อวันจันทร์ว่า อิหร่านมีสิทธิชอบธรรมในการลงโทษอิสราเอล พร้อมยืนยันว่า ไม่ต้องการให้สถานการณ์ลุกลาม แต่เชื่อว่า ตะวันออกกลางจะมีเสถียรภาพและความมั่นคงต่อเมื่อสามารถลงโทษผู้รุกราน และสร้างการป้องปรามต่อพฤติกรรมโลดโผนและการก่อการร้ายข้ามพรมแดนของรัฐยิว
ด้านเว็บไซต์ข่าว “แอกซิออส” ของอเมริกา รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยกับพวกรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มจี7 ระหว่างการหารือทางโทรศัพท์ว่า อิหร่านและฮิซบอลเลาะห์อาจเริ่มโจมตีอิสราเอลอย่างเร็วที่สุดในวันจันทร์ แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับรูปแบบและเวลาที่แน่นอนในการโจมตี
เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับรายงานนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ อ้างอิงข้อมูลจากบันทึกย่อการสนทนาที่เผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า รัฐมนตรีจี7 หารือกันเกี่ยวกับความจำเป็นเร่งด่วนในการทำให้สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางผ่อนคลายลง
อย่างไรก็ดี เมื่อวันศุกร์ (2 ส.ค.) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศแผนส่งหมู่เรือบรรทุกเครื่องบินโจมตี ซึ่งนอกจากฝูงเครื่องบินขับไล่ที่ประจำอยู่บนเรือบรรทุกเครื่องบินแล้ว ยังมีเรือรบอีกหลายลำในหมู่เรือนี้ ไปประจำการเพิ่มในตะวันออกกลาง และประธานาธิบดีโจ ไบเดน นัดประชุมทีมความมั่นคงแห่งชาติในห้องสถานการณ์ในวันจันทร์เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง รวมทั้งจะหารือกับกษัตริย์อับดุลเลาะห์แห่งจอร์แดน
ในวันอาทิตย์ โจนาธาน ไฟเนอร์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์รายการ “เฟซ เดอะ เนชัน” ของฝ่ายข่าวเครือข่ายโทรทัศน์ซีบีเอส โดยแม้เขาบอกว่า เป้าหมายโดยรวมของอเมริกาคือ ลดอุณหภูมิความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และหลีกเลี่ยงความขัดแย้งภายในภูมิภาค แต่ก็ยังคงประกาศจุดยืนของสหรัฐฯ ที่ยืนอยู่ข้างอิสราเอลอย่างชัดเจน เมื่อบอกอีกว่า จะต้องป้องปรามและป้องกันการโจมตีของอิหร่านและฮิซบอลเลาะห์ รวมทั้งสำทับว่า อเมริกาและอิสราเอลกำลังเตรียมพร้อมรับมือความเป็นไปได้ทั้งหมด
ทางด้านโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ประกาศว่า ถ้าอิหร่านและฮิซบอลเลาะห์กล้าโจมตีจริง อิสราเอลก็พร้อมตอบโต้สถานหนัก
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)