สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเบรุต เร่งเร้าพลเมืองให้เดินทางออกจากเลบานอน "ไม่ว่าด้วยตั๋วเที่ยวบินใดๆ เท่าที่จะหาได้" ท่ามกลางความตึงเครียดที่พุ่งสูงในตะวันออกกลาง ขณะที่ เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร ก็ออกคำแนะนำแบบเดียวกัน พร้อมเตือนว่าสถานการณ์ในภูมิภาคอาจเสื่อมทรามลงอย่างรวดเร็ว
อิหร่านประกาศแก้แค้นอิสราเอลอย่างหนักหน่วง หลังกล่าวโทษรัฐยิวต่อเหตุโจมตีปลิดชีพ อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาสในเตหะรานเมื่อวันพุธ (31 ก.ค.) เหตุลอบสังหารเขามีขึ้นไม่นานหลังอิสราเอลเพิ่งสังหาร ฟูอัด ชูคร์ ผู้บัญชาการระดับสูงของฮิซบอลเลาะห์ในเบรุต
มีความกังวลว่าพวกนักรบฮิซบอลเลาะห์กลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในเลบานอน อาจรับบทบาทสำคัญในการแก้แค้นใดๆ ซึ่งในทางกลับกันมันอาจจุดชนวนตอบโต้รุนแรงจากอิสราเอล
สถานทูตสหรัฐฯ เน้นย้ำในวันเสาร์ (3 ส.ค.) ว่าใครก็ตามที่เลือกอยู่ในเลบานอนควรเตรียมเผนฉุกเฉินเอาไว้ และเตรียมพร้อมสำหรับการหลบภัยเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน
ทางสถานทูตสหรัฐฯ ระบุด้วยว่าสายการบินหลายแห่งได้เริ่มระงับและยกเลิกเที่ยวบินแล้ว และหลายเที่ยวบินตั๋วจำนวนหมดเกลี้ยง แต่ทางเลือกด้านการขนส่งทางพาณิชย์อื่นๆ สำหรับเดินทางออกจากเลบานอนยังคงพอหาได้อยู่
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยว่ากำลังประจำการกองเรือรบและฝูงบินขับไล่ในภูมิภาคแห่งนี้เพิ่มเติม เพื่อปกป้องอิสราเอลจากความเป็นไปได้ที่จะถูกโจมตีแก้แค้นจากอิหร่านและบรรดากลุ่มตัวแทนของเตหะราน
ด้านสหราชอาณาจักรระบุเช่นกันว่า พวกเขากำลังส่งบุคลากรทางทหารพิเศษ เจ้าหน้าที่กงสุล และเจ้าหน้าที่กองกำลังชายแดนเข้าช่วยเหลือความเป็นไปได้ของการอพยพใดๆ แต่เร่งเร้าให้พลเมืองของประเทศเดินทางออกจากเลบานอน "ในขณะที่เที่ยวบินพาณิชย์ยังคงให้บริการ"
เรือของกองทัพสหราชอาณาจักรถูกส่งเข้าไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางแล้วก่อนหน้านี้ และทางกองทัพอากาศยังได้สั่งให้เฮลิคอปเตอร์ขนส่งอยู่ในสถานะเตรียมพร้อม ท่ามกลางคำเตือนของ เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศ ว่า "มันจะไม่เป็นประโยชน์กับใครเลย หากว่าความขัดแย้งนี้ลุกลามบานปลายไปทั่วภูมิภาค"
ในเดือนเมษายน อิหร่านเปิดฉากโจมตีทางอากาศเล่นงานอิสราเอล ด้วยโดรน 170 ลำ ขีปนาวุธร่อน 30 ลูก และขีปนาวุธแบบทิ้งตัวอย่างน้อย 110 ลูก ในปฏิบัติการแก้แค้นอิสราเอลทิ้งบอมบ์ถล่มสถานกงสุลของอิหร่านประจำกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย
มีความกังวลว่าการแก้แค้นของอิหร่านคราวนี้ อาจใช้ปฏิบัติการในรูปแบบเดิม
ระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับ โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อวันศุกร์ (2 ส.ค.) ทาง อาลี บาเกรรี คานี รักษาการรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน ประกาศกร้าว "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอิหร่านจะใช้สิทธิโดยเนื้อแท้และชอบธรรมตามกฎหมายในการลงโทษอิสราเอล" ในวันเดียวกันนั้น ผู้ประกาศข่าวรายหนึ่งของสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐอิหร่าน เตือนว่า "โลกจะได้เป็นสักขีพยานแห่งฉากที่พิเศษไม่เคยพบเห็นมาก่อน"
เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เตือนชาวอิสราเอล "วันที่ท้าทายรออยู่เบื้องหน้า เราได้ยินคำขู่มาจากทั่วสารทิศ เราเตรียมพร้อมสำหรับทุกกรณี" ขณะที่มีรายงานว่าบรรดารัฐมนตรีอิสราเอลถูกส่งกลับบ้านเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ พร้อมกับโทรศัพท์ดาวเทียม รับมือในกรณีที่มีเหตุโจมตีโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมของประเทศ
ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านพุ่งสูงขึ้น ตามหลังมีเด็กและวัยรุ่น 12 คน เสียชีวิตในเหตุโจมตีที่ราบสูงโกลัน ซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของอิสราเอล ทั้งนี้ อิสราเอล กล่าวโทษว่าเป็นฝีมือพวกฮิซบอลเลาะห์ และประกาศแก้แค้นรุนแรง แม้ฮิซบอลเลาะห์ยืนกรานว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
หลายวันต่อมา ฟูอัด ชูคร์ ผู้บัญชาการระดับสูงของฮิซบอลเลาะห์ ถูกสังหารในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศแบบเจาะจงเป้าหมายของอิสราเอลในกรุงเบรุต เช่นเดียวกับคนอื่นๆ อีก 4 ราย ในนั้นรวมถึงเด็ก 2 คน
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาสถูกลอบสังหารในอิหร่าน ชาติผู้สนับสนุนหลักของฮามาส ระหว่างที่เขาเดินทางไปร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่านคนใหม่ ของ มาซูด เปเซชเคียน
ณ พิธีศพของฮานิเยห์ในเตหะรานเมื่อวันพฤหัสบดี (1 ส.ค.) อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านออกคำสั่งให้อิหร่านโจมตีเล่นงานอิสราเอลโดยตรง หลังจากประกาศก่อนหน้านี้ว่า อิสราเอลจะต้องเจอกับบทลงโทษรุนแรงสำหรับการลอบสังหารฮานิเยห์
ขณะเดียวกัน ฮามาสเปิดเผยในวันเสาร์ (3 ส.ค.) ว่ามีพลเรือน 10 ราย เสียชีวิตในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ถูกปรับเป็นที่พักอาศัยของเหล่าผู้ลี้ภัย จากปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอล ทางอิสราเอลอ้างว่าโรงเรียนดังกล่าวในกาซา ซิตี ถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการของพวกนักรบ แม้ฮามาสปฏิเสธมาช้านานว่าพวกเขาไม่ได้ใช้ที่ตั้งทางพลเรือนไหนๆ เป็นฐานปฏิบัติการ
(ที่มา : บีบีซี)