รอยเตอร์ - บลิงเคนย้ำความกังวลของวอชิงตันเกี่ยวกับการดำเนินการของปักกิ่งต่อไทเป รวมทั้งการสนับสนุนสงครามของรัสเซียในยูเครน ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศจีน “หวัง อี้” ย้ำไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ซึ่งจะไม่มีวันเป็นประเทศอิสระ และปักกิ่งจะต่อต้านการยั่วยุของพวกที่สนับสนุนให้ไต้หวันประกาศเอกราช
เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (27 ก.ค.) รัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงคัน ที่ก่อนหน้านี้วิจารณ์การที่จีนทำให้สถานการณ์ทางทะเลกับฟิลิปปินส์ตึงเครียดยิ่งขึ้นนั้น ได้หารือกับหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเกี่ยวกับไต้หวันและการดำเนินการยั่วยุของปักกิ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งรวมถึงการปิดล้อมจำลองระหว่างที่ประธานาธิบดีไล่ ชิง-เต๋อของไต้หวัน ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง
เจ้าหน้าที่คนเดิมเพิ่มเติมว่า บลิงเคนและหวังตกลงสานต่อการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพ แต่ไม่ได้หารือเรื่องการเจรจาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งนี้ รัฐบาลจีนถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนที่ล่วงละเมิดไม่ได้ของตน ขณะที่ไต้หวันไม่ยอมรับ
หวังย้ำกับบลิงเคนว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ซึ่งจะไม่มีวันเป็นประเทศอิสระ และปักกิ่งจะต่อต้านการยั่วยุของพวกที่สนับสนุนให้ไต้หวันประกาศเอกราช รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเสริมว่า แม้ช่องทางการสื่อสารระหว่างจีนกับอเมริกาเปิดกว้าง ทว่าวอชิงตันกลับเพิ่มความพยายามในการตีกรอบและปิดกั้นปักกิ่ง
หวังยังบอกอีกว่า สัมพันธภาพจีน-อเมริกาเผชิญความเสี่ยงและความท้าทายมากขึ้น และอยู่บนทางแยกที่จะชี้ขาดว่า ความสัมพันธ์จะเดินหน้าต่ออย่างมีเสถียรภาพได้หรือไม่
ทั้งคู่หารือกันนาน 1 ชั่วโมง 20 นาที นอกรอบการประชุมสุดยอดในลาว ซึ่งถือเป็นการพบกันครั้งที่ 6 นับจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วที่บลิงเคนเยือนปักกิ่ง และส่งสัญญาณว่า ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกเริ่มดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ไม่ได้นัดหมายวันเวลาในการพบกันครั้งต่อไป
ทั้งนี้ บลิงเคนอยู่ระหว่างเยือนเอเชียตะวันออกเพื่อให้ความมั่นใจกับความมุ่งมั่นของอเมริกาต่อประเทศที่อยู่ใกล้จีน แม้การเมืองในประเทศไร้ความแน่นอนอยู่ก็ตาม โดยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางไปยังเวียดนามต่อในวันเสาร์ และเตรียมหารือด้านความมั่นคงร่วมกับลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ในญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ในสัปดาห์นี้
บลิงเคนกล่าวกับหวังว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครต เชื่อมั่นในความสำคัญของความสัมพันธ์วอชิงตัน-ปักกิ่งที่มีเสถียรภาพ และการยึดมั่นในระเบียบโลก
บลิงเคนยังหารือเกี่ยวกับการที่จีนให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมกลาโหมของรัสเซีย และเตือนว่า อเมริกาจะออกมาตรการตอบโต้เพิ่มหากจีนไม่หยุดยั้งการดำเนินการดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ วอชิงตันแซงก์ชันเป้าหมายหลายแห่งที่รวมถึงบริษัทที่ตั้งอยู่ในจีนที่ขายเซมิคอนดักเตอร์ให้มอสโก อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามสกัดการผลิตอาวุธที่รัสเซียนำไปใช้ทำสงครามในยูเครน ทว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่า จีนไม่ได้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการใดๆ ในเรื่องนี้
บลิงเคนยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง ไต้หวัน และทิเบต และย้ำกับหวังถึงควมจำเป็นที่ปักกิ่งจะเพิ่มความพยายามในการต่อต้านสารเสพติดที่รวมถึงสารตั้งต้นในการผลิตเฟทานิลที่มาจากจีน
นอกจากนั้น ทั้งคู่ยังพูดคุยกันเกี่ยวกับข้อตกลงเมื่อเร็วๆ นี้ที่มีปักกิ่งเป็นตัวกลางระหว่างกลุ่มฟาตาห์ที่ปกครององค์การบริหารแห่งชาติปาเลสไตน์ กับกลุ่มฮามาสที่ปกครองฉนวนกาซา โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ตั้งข้อสังเกตว่า ทั้งสองกลุ่มที่เป็นศัตรูกันเคยพยายามปรองดองมาแล้วหลายครั้งแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จ
