แหล่งข่าววงในเผยไบเดนแจ้งการตัดสินใจถอนตัวจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีกับเหล่าผู้ช่วยเมื่อวันอาทิตย์ (21 ก.ค.) หลังทำใจอยู่นาน 48 ชั่วโมงกับข้อมูลโพลที่บ่งชี้ว่า เส้นทางสู่ชัยชนะของตนปิดสนิทแล้ว
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพิ่งบอกกับผู้ช่วยหลายคนเมื่อวันเสาร์ (20 ก.ค.) ว่า จะสู้ต่อเพื่อเอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ด้วยถ้อยคำที่แหล่งข่าวคนหนึ่งบอกว่า “ชัดเจนเด็ดขาด”
ทว่า หลังจากซึมซับข้อมูลผลสำรวจความคิดเห็นเมื่อคืนวันเสาร์ ไบเดนจึงเปลี่ยนใจและโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวและทีมหาเสียงก่อนเวลา 13.45 น. วันอาทิตย์เล็กน้อย และไม่นานหลังจากนั้นจึงมีการประกาศการตัดสินใจผ่านจดหมายถึงอเมริกันชนทุกคน โดยนำออกเผยแพร่ทางแพลตฟอร์มเอ็กซ์
แหล่งข่าวคนหนึ่งสำทับว่า ผู้ช่วยระดับสูงนำผลโพลที่จัดทำขึ้นเป็นการภายในพร้อมข่าวชวนช็อกไปให้ไบเดนเมื่อคืนวันเสาร์ที่บ่งชี้ว่า เขาไม่ได้แค่ตามหลังใน 6 รัฐสวิงสเตท ซึ่งหมายถึงรัฐที่มีประวัติไม่ได้ลงคะแนนให้เดโมแครตหรือรีพับลิกันอย่างแน่วแน่ชัดเจน อีกทั้งระยะหลังๆ นี้แสดงความสนับสนุนพรรคทั้งสองคู่คี่กันมาก จึงเห็นกันว่าอาจเป็นตัวตัดสินชัยชนะการเลือกตั้ง แต่ปรากฏว่าเขายังมีคะแนนนิยมดิ่งฮวบในรัฐเวอร์จิเนียและมินนิโซตา ที่เดโมแครตค่อนข้างมั่นใจว่าจะชนะ และไม่มีแผนเพิ่มงบประมาณหาเสียงก้อนใหญ่ๆ ให้อีกด้วย
ทางด้านผู้ช่วยเผยว่า ไบเดนกักตัวในบ้านพักชายทะเลที่รัฐเดลาแวร์ นับจากตรวจพบติดโควิด-19 เมื่อวันพุธ (17 ก.ค.) และใช้เวลาส่วนใหญ่ในช่วงสุดสัปดาห์ขบคิดเกี่ยวกับการที่สมาชิกภายในพรรคกดดันให้ตัวเขาถอนตัวจากการเลือกตั้ง
ผู้ที่อยู่กับไบเดนในช่วงเวลาดังกล่าวคือผู้ช่วยอาวุโสที่ทำงานด้วยกันมานาน ได้แก่ แอนนี โทมาซินี,ฝ สตีฟ รีเคตตี และไมค์ โดนิลอน รวมทั้งแอนโทนี เบอร์นอล ผู้ช่วยคนสำคัญของ จิลล์ ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเล่าว่า หลังจากตัดสินใจได้แล้ว ไบเดนได้อ่านจดหมายที่เตรียมเผยแพร่ต่อสาธารณชนให้เหล่าผู้ช่วยฟังทางโทรศัพท์ โดยบอกว่า เขาใช้เวลาครุ่นคิดตลอด 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ต่อจากนั้น เจฟฟ์ ไซเอนต์ส ประธานคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว ได้โทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวไปรวมกันเพื่อแจ้งข่าวการตัดสินใจของไบเดน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้เจ้าหน้าที่เหล่านั้นส่วนใหญ่
แหล่งข่าววงในอีกคนเผยว่า ไบเดนได้คุยกับรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส หลายรอบในวันอาทิตย์
และแล้วเมื่อถึงเวลา 13.46 น. ไบเดนก็ประกาศการตัดสินใจที่สร้างเซอร์ไพรส์ไปทั่ว
การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังผลงานยอดแย่ระหว่างที่ไบเดนดีเบตกับทรัมป์เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งกระตุ้นให้เกิดคำถามเกี่ยวกับอายุและความคิดสติปัญญาของประธานาธิบดีวัย 81 ปีผู้นี้
หลังการดีเบต ไบเดนเริ่มเสียคะแนนนิยมให้ทรัมป์ในรัฐที่เป็นสมรภูมิสำคัญ แต่ทีมหาเสียงของไบเดนยังคงเดินหน้าสู้ต่อทั้งที่มีโอกาสน้อยมากที่จะได้ชัยชนะ
เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของทำเนียบขาวกล่าวว่า สถานการณ์ของไบเดนยากขึ้นขณะที่ภายในพรรคแตกแยกกันมากขึ้น ทั้งที่เดโมแครตต้องรวมใจกันเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน พร้อมตั้งข้อสังเกตยืนยันว่า ไบเดนยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างมากในทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน ว่ากันว่า ไบเดนขุ่นเคืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งที่ปรึกษาประธานาธิบดีผู้นี้เชื่อว่า เป็นผู้ปลุกกระแสกดดันให้ไบเดนถอนตัว
ทั้งนี้ จนกระทั่งช่วงเช้าวันอาทิตย์ เควนติน ฟัลค์ส รองผู้จัดการทีมรณรงค์หาเสียงของไบเดน ยังคงปฏิเสธข่าวที่ว่าไบเดนมีแผนถอนตัว ขณะให้สัมภาษณ์รายการ “เดอะ วีกเอนด์” ของสื่อเอ็มเอสเอ็นบีซี
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวหลายคนยอมรับว่า ตลอดหลายวันที่ผ่านมา มีสัญญาณหลายอย่างที่ชี้ว่า ไบเดนกำลังพิจารณาถอนตัว เช่น การใช้เวลาคิดทบทวนตัวเอง
(ที่มา : รอยเตอร์)