เดโมแครตหวั่นไบเดนไร้น้ำยาเอาชนะทรัมป์ ห่วงรีพับลิกันยังจะกวาดเรียบทั้งสภาล่าง-สภาสูง

สมาชิกเดโมแครตในสภาจำนวนมากขึ้นมีความกังวลไบเดนไม่น่าเอาชนะทรัมป์ในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปลายปีนี้ บางคนกระทั่งหวั่นรีพับลิกันอาจกวาดเรียบได้ครองทั้งสภาล่างและสภาสูงด้วย ด้านทรัมป์เริ่มปรับการหาเสียงใหม่ด้วยการหว่านแหโจมตีทั้งไบเดน และแฮร์ริส ซ้ำกล่าวหาลูกเมียไบเดนเป็นผู้คุมรัฐบาลอเมริกาตัวจริง

ถึงแม้ช่วงไม่กี่วันหลังๆ นี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน วัย 81 ปีพยายามอย่างหนักที่จะยืนกรานว่าตนเองพร้อมสู้ต่อ และเป็นคนเดียวที่จะเอาชนะอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ปี ว่าที่ผู้สมัครของพรรครีพับลิกันได้ แต่ก็ยังคงปรากฏความระส่ำระสายในพรรคเดโมแครต ทั้งนี้ ผลงานการดีเบตรอบแรกที่ย่ำแย่ของไบเดนเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ประกอบกับผลโพลที่แสดงถึงคะแนนนิยมซึ่งลดต่ำลง ทำให้สมาชิกเดโมแครตบางคนกังวลกับความสามารถของไบเดนในการชนะการเลือกตั้ง และสมาชิกจำนวนมากขึ้นวิตกที่ไบเดนไม่อาจโน้มน้าวผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้เชื่อว่า การดีเบตกับทรัมป์นัดแรกเป็นแค่เหตุการณ์ที่ไม่ปกติ ไม่ใช่สิ่งที่สะท้อนความสามารถที่แท้จริงของตัวเขา

เมื่อวันอังคาร (9 ก.ค.) ไมกี เชร์ริลล์ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดโมแครตคนที่ 7 ที่ออกมาเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้ ไบเดน ถอนตัวจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 พ.ย. โดยระบุในคำแถลงว่า เดิมพันสูงเกินไปและภัยคุกคามเป็นจริงเกินกว่าที่เธอจะนิ่งเฉยได้

ขณะเดียวกัน ไมเคิล เบนเน็ต ก็กลายเป็นวุฒิสมาชิกเดโมแครตคนแรกที่กล้าออกมาแสดงความกังวลว่า ไบเดนอาจแพ้ทรัมป์ โดยให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่า คิดว่า ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้ง และอาจชนะแบบถล่มทลาย แถมได้เสียงข้างมากทั้งในสภาล่างและสภาสูง

แต่เมื่อถูกถามว่า ไบเดนควรถอนตัวหรือไม่ เบนเน็ตตอบว่า นั่นเป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีต้องพิจารณาเอง

ถ้าหากรีพับลิกันได้เสียงข้างมากทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาด้วย ขณะทรัมป์ชนะได้ครองตำแหน่งประธานาธิบดี เขาก็จะพบอุปสรรคน้อยมากในการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่โตมโหฬาร ตามที่เขาประกาศในการรณรงค์หาเสียงรอบนี้ ขณะที่ในปัจจุบัน ที่สภาล่าง รีพับลิกันครองเสียงข้างมากด้วยคะแนน 220-213 ที่นั่งอยู่แล้ว ส่วนเดโมแครตแม้ยึดสภาสูงไว้ได้ แต่ก็อยู่ในระดับปริ่มน้ำ นั่นคือเหนือกว่าแค่ 51-49 ที่นั่ง โดยที่ในการเลือกตั้งคราวนี้ ซึ่งมีการเลือกตั้ง ส.ว. ราว 1 ใน 3 ของทั้งหมดนั้น เดโมแครตต้องแย่งชิงที่นั่ง ส.ว.ในหลายรัฐที่มีประวัติโน้มเอียงลงคะแนนให้รีพับลิกันมากกว่า

ในวันอังคาร ซึ่งมีการนัดประชุมของสมาชิกพรรคเดโมแครตทั้งในวุฒิสภาและในสภาผู้แทนราษฎร ปรากฏว่าแม้ภายหลังการประชุม มีหลายคนกระทั่งผู้ที่รายงานข่าวระบุก่อนหน้านี้ว่าเรียกร้องให้ไบเดนถอนตัว ได้เดินผ่านแถวของผู้สื่อข่าวโดยประกาศความจงรักภักดีต่อประธานาธิบดี แต่ผู้นำพรรเดโมแครตทั้งในสภาสูงและสภาล่างคือ ส.ว.ชัค ชูเมอร์ และ ส.ส.ฮาคีม เจฟฟรีส์ ต่างพูดถึงการปิดห้องประชุมกับสมาชิกพรรคในวันอังคารน้อยมาก นอกจากนั้น ยังเห็นกันว่าสมาชิกเหล่านี้นอกจากพยายามกดดันแล้ว ก็ไม่มีอำนาจบอกให้ไบเดนถอยลงจากเวทีอยู่ดี แม้กระทั่งตัดสินใจจะดำเนินการร่วมกัน

ชูเมอร์ เพิกเฉยเมื่อเจอคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของไบเดน และย้ำเพียงว่าเขาสนับสนุนไบเดน ระหว่างการพูดคุยสั้นๆ กับนักข่าวภายหลังการประชุมวุฒิสมาชิกเดโมแครตเกี่ยวกับแคมเปญการเลือกตั้งของประธานาธิบดี

ขณะเดียวกัน แม้ผลสำรวจความคิดเห็นทั่วอเมริกาของสำนักโพลต่างๆ ชี้ให้เห็นว่ากระทั่งในระยะหลังๆ นี้ คะแนนนิยมของไบเดนกับทรัมป์ ก็ยังไล่เลี่ยคู่คี่ไม่ใช่ทิ้งกันขาดลอย ทว่าโพลเช่นนี้ก็ให้ภาพฐานะโดยรวมของแคนดิเดตแต่ละคน ขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีมักตัดสินกันที่คะแนนในแต่ละรัฐ โดยเฉพาะรัฐซึ่งผู้ออกเสียงเอนเอียงไปมา ไม่ปักใจกับพรรคใดอย่างชัดเจน ปรากฏว่าเมื่อวันอังคาร คุก โพลิทิคัล รีพอร์ต ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่ฝักใฝ่พรรคใด ได้ปรับเปลี่ยนสถานะใน 3 รัฐที่มีการแข่งขันดุเดือดที่สุด ได้แก่ แอริโซนา จอร์เจีย และเนวาดา ให้เป็น “โน้มเอียงเลือกรีพับลิกัน” จากเดิมยังเป็น “50-50” โดยอ้างอิงความคิดเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เปลี่ยนไปหลังการดีเบตเมื่อปลายเดือนที่แล้ว

ทางด้านทรัมป์ที่เก็บตัวเงียบมาหลายวัน โดยเฉพาะไม่ได้โจมตีเล่นงานไบเดนที่พ่ายแพ้ยับในการดีเบตกับตนเองเลย ได้ออกมาตระเวนรณรงค์หาเสียงอีกครั้งในวันอังคาร (9) โดยคราวนี้เขาเริ่มต้นด้วยการโจมตีทั้งไบเดน และรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ซึ่งมีรายงานว่าเป็นตัวเก็งคนสำคัญที่เดโมแครตจะดันขึ้นมาเป็นผู้ชิงนำแหน่งประธานาธิบดีแทน ในกรณีไบเดนถอนตัว

นอกจากนั้น ทรัมป์ยังกล่าวหาโดยไม่มีการแสดงหลักฐานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ขณะนี้ควบคุมโดย ฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายประธานาธิบดี และมีจิลล์ ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งเป็นผู้ช่วย

ระหว่างพบกับพวกผู้สนับสนุนในสนามกอล์ฟของตัวเองที่ไมอามี่ ทรัมป์ท้าไบเดนดีเบตรอบใหม่ ก่อนเยาะว่า ชัยชนะในการโต้วาทีรอบแรกชัดเจนจนกระทั่งพรรคเดโมแครตอยากให้ไบเดนถอนตัวจากการเลือกตั้ง

ทรัมป์ยังโจมตีแฮร์ริส โดยคุยว่า ตัวเองสามารถชนะแบบถล่มทลายทั้งนั้นไม่ว่าเดโมแครตจะส่งใครลงสมัครก็ตาม

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)