ราคาน้ำมันขยับลงแรง 2 ดอลลาร์ในวันศุกร์ (19 ก.ค.) แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน นักลงทุนจับตาความเป็นไปได้ข้อตกลงหยุดยิงในกาซาและทองคำแข็งค่า ปัจจัยหลังนี้ฉุดทองคำปรับ ขณะที่วอลล์สตรีทดิ่งหนักต่อเนื่อง หลังเกิดปัญหากับ CrownStrike ทำระบบ Windows ล่ม สร้างความยุ่งเหยิงทั่วโลก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 2.69 ดอลลาร์ ปิดที่ 80.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 2.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่าข้อตกลงหยุดยิงที่พยายามตามหามานานระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มนักรบปาเลสไตน์ฮามาส กลับมามีความเป็นไปได้แล้ว "ผมเชื่อว่าเราอยู่ภายในกรอบ 10 หลาและกำลังมุ่งหน้าสู่เส้นประตู ในการได้ข้อตกลงที่จะก่อให้เกิดการหยุดยิง พาตัวประกันกลับบ้านและนำพวกเขาสู่เส้นทางที่ดีกว่าเดิมในความพยายามสร้างสันติภาพและเสถียรภาพที่ยั่งยืน"
นอกจากนี้การแข็งค่าของสกุลเงินสหรัฐฯ ยังกัดเซาะอุปสงค์ทางพลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันที่ซื้อขายด้วยดอลลาร์จะมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
ปัจจัยดังกล่าว ประกอบกับแรงขายทำกำไรหลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉุดให้ทองคำร่วงลงกว่า 2% ในวันศุกร์ (19 ก.ค.) โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 57.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,399.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบหนักต่อเนื่องในวันศุกร์ (19 ก.ค.) จากปัญหายืดเยื้อที่เกี่ยวข้องกับความยุ่งเหยิงทางเทคนิคทั่วโลก อันมีต้นตอจากระบบซอฟต์แวร์ล่ม ซ้ำเติมวอลล์สตรีทที่เต็มไปด้วยความกังวลอยู่ก่อนแล้ว
ดาวโจนส์ ลดลง 377.49 จุด (0.93 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 40,287.53 เอสแอนด์พี ลดลง 39.59 จุด (0.71 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,505.00 จุด แนสแดค ลดลง 144.28 จุด (0.81 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,726.94 จุด
ปัญหาทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ชื่อ “CrowdStrike” (คราวด์สไตรก์) ทำให้คอมพิวเตอร์ที่ใช้ซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ (Microsoft) ทั่วโลกเกิดล่มในวันศุกร์ (19 ก.ค.) สร้างความปั่นป่วนต่ออุตสาหกรรมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสายการบินที่ต้องประกาศระงับเที่ยวบิน สถานีโทรทัศน์ต้องหยุดออกอากาศชั่วคราว และยังส่งผลกระทบไปถึงระบบของธนาคารและโรงพยาบาลต่างๆ
แม้ข้อบกพร่องดังกล่าวถูกตรวจพบและได้มีการแก้ไขแล้ว แต่ประเด็นทางเทคนิคยังคงส่งผลกระทบต่องานบริการบางอย่าง
หุ้นของ CrowdStrike ดิ่งลง 11.1% ส่วน ปาโฌล อัลโต เน็ตเวิร์คส บริษัทความมั่นคงทางไซเบอร์ และเซนติเนลวัน 2 บริษัทคู่แข่ง ปิดบวก 2.2% และ 7.8% ตามลำดับ
(ที่มา : รอยเตอร์)