ศูนย์วิจัย AP-NORC เผยผลสำรวจพบว่า เสียงข้างมากอย่างท่วมท้นของชาวอเมริกา เชื่อว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ควรถอนตัวจากศึกชิงเก้าอี้ทำเนียบขาว เหตุเพราะกังวลเกี่ยวกับสมรรถภาพทางสติปัญญา สำหรับอยู่ในตำแหน่งต่อไปอีกสมัย
ผลสำรวจความคิดเห็นทั่วประเทศที่จัดทำโดยศูนย์วิจัยกิจการสาธารณะ AP-NORC บ่งชี้ว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามอย่างน้อย 7 คนใน 10 คน ที่อยากเห็น ไบเดน ถอนตัวจากการชิงชัยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเปิดทางให้พรรคเดโมแครตเสนอชื่อคนอื่นแทน
ในนั้นหากนับเฉพาะพวกที่เป็นเดโมแครต มีอัตราส่วนน้อยกว่าที่ 65% ที่เชื่อว่า ไบเดน ควรถอนตัวการเป็นตัวแทนพรรคลงสู้ศึกชิงเก้าอี้ทำเนียบขาว อย่างไรก็ตาม ถือเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ราว 1 ใน 3 จากผลสำรวจเดียวกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ผลสำรวจยังพบด้วยว่า มีอเมริกันชนมากถึง 70% ที่ไม่มั่นใจเท่าไหร่หรือไม่มั่นใจเลยว่า ไบเดน มีสมรรถภาพทางสติปัญญาสำหรับดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
นักการเมืองวัย 81 ปีรายนี้ ต้องเผชิญกับการจับตาอย่างเข้มข้นจากสาธารณชน เกี่ยวกับสุขภาพทางกายและสุขภาพทางสติปัญญาที่เสื่อมทรามลงตลอดช่วงเวลาของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี
แต่ความกังวลเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูน ตามหลังศึกประชันวิสัยทัศน์ครั้งหายนะที่มีซีเอ็นเอ็นเป็นเจ้าภาพ กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน เมื่อเดือนที่แล้ว โดย ณ เวทีดีเบต ไบเดน หลงๆ ลืมๆ สิ่งที่พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า พูดจาสับสนและไม่จบประโยค เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนำมาซึ่งเสียงต่อต้านจากภายในพรรคเดโมแครตเอง โดยสมาชิกระดับสูงหลายคนและบรรดาผู้บริจาคเรียกร้องให้ ไบเดน ถอนตัวจากการชิงชัย
ประธานาธิบดีคนปัจจุบันเพิกเฉยต่อความกังวลและกล่าวโทษผลงานของเขาในศึกประชันวิสัยทัศน์ ว่ามีต้นตอจากอาการป่วยและเหนื่อยล้า เขาปฏิเสธซ้ำๆ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการถอนตัว บอกว่าจะทำเช่นนั้นก็ต่อเมื่อเป็นคำสั่งของพวกผู้บริจาค หรือไม่ก็มีแต่ "พระเจ้าเท่านั้น" ที่จะโน้มน้าวให้เขาถอนตัว นอกจากนี้ ไบเดน ยังยืนยันว่าเขามีโอกาสดีที่จะเอาชนะทรัมป์
ทั้งนี้ ในผลสำรวจพบว่ามีชาวอเมริกาเพียงเล็กน้อยที่เชื่อว่าทั้ง ไบเดน และ ทรัมป์ มีสมรรถภาพทางสติปัญญาสำหรับการเป็นผู้นำคนถัดไป อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มมากกว่าที่พวกเขาจะเสี่ยงเดิมพันกับฝ่ายหลัง
ในทางตรงกันข้ามกับไบเดน ที่มีประชาชนมอบความเชื่อถืออยู่ 14% มีผู้ตอบแบบสอบถาม 30% มีความเชื่อมั่นว่า ทรัมป์ มีสมรรถภาพทางสติปัญญามากกว่าที่จะดำรงตำแหน่งนี้ นอกจากนี้ ในผลสำรวจยังพบผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากกว่าที่คิดว่า ทรัมป์ จะเป็นฝ่ายชนะเลือกตั้ง และมองว่าเขาน่าจะมีศักยภาพมากกว่าในการรับมือกับวิกฤตต่างๆ
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)