เจ.ดี.แวนซ์ แคนดิเดตที่ลงศึกเลือกตั้งคู่กับโดนัลด์ ทรัมป์ ในตำแหน่งรองประธานาธิบดี เปิดตัวบนเวทีประชุมใหญ่รีพับลิกันเมื่อคืนวันพุธ (17 ก.ค.) ด้วยการเสนอภาพตัวเองเป็นเด็กจากเมืองอุตสาหกรรมในรัฐโอไฮโอที่ถูกชนชั้นปกครองในวอชิงตันมองข้าม ก่อนบากบั่นพากเพียรจนก้าวขึ้นเป็น ส.ว. พร้อมประกาศต่อสู้เพื่อชนชั้นแรงงาน และกล่าวหานักการเมืองอาชีพอย่างโจ ไบเดน ทำลายชุมชนต่างๆ ด้วยนโยบายการค้าอับโชคและการทำสงครามในต่างแดน
แวนซ์แนะนำตัวเองโดยเริ่มต้นจากชีวิตวัยเด็กที่ไม่มีพ่อ ซ้ำแม่ติดยา กระทั่งได้เป็นนาวิกโยธินสหรัฐฯ เรียนจบนิติศาสตร์ซึ่งในสหรัฐฯถือเป็นการศึกษาระดับหลังปริญญาตรี จากสถาบันชื่อเสียงเก่าแก่อย่างมหาวิทยาลัยเยล จากนั้นได้เป็นนักลงทุนในธุรกิจร่วมลงทุน และเข้าสู่รัฐสภาในฐานะวุฒิสมาชิก ทั้งหมดนี้เพื่อย้ำว่า เขาเข้าใจการต่อสู้ชีวิตในแต่ละวันของชาวอเมริกันผู้ใช้แรงงานเป็นอย่างดี
แวนซ์ซึ่งได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการต่อที่ประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันเมื่อวันจันทร์ (15 ก.ค.) ให้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงเลือกตั้งคู่กับอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ กล่าวหานักการเมืองอาชีพอย่างประธานาธิบดีไบเดน ว่าทำลายชุมชนต่างๆ ด้วยนโยบายการค้าอับโชคและการทำสงครามในต่างแดน
ในทางกลับกัน เขาชมวิสัยทัศน์ของทรัมป์ว่า เรียบง่ายและทรงพลัง นอกจากนั้น แวนซ์ วัย 39 ปี ที่เพิ่งขึ้นเป็นวุฒิสมาชิกสมัยแรก ยังร้องขอการสนับสนุนจากชนชั้นกลางและชนชั้นแรงงานในมิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน 3 รัฐสมรภูมิสำคัญในแถบอุตสาหกรรมการผลิต (รัสต์เบลต์) ที่รีพับลิกันและเดโมแครตมีคะแนนสนับสนุนคู่คี่กันมาก
การเปิดตัวแวนซ์คราวนี้ สะท้อนความสำเร็จอย่างรวดเร็วของเขาที่เกิดขึ้นพร้อมการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญ จากผู้ที่ตั้งป้อมรังเกียจทรัมป์ กลายเป็นหนึ่งในผู้อุทิศตัวปกป้องอดีตนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผู้นี้มากที่สุด อันเป็นการเดินตามรอยสมาชิกรีพับลิกันที่มีชื่อเสียงจำนวนหนึ่ง ดังเช่น วุฒิสมาชิกเท็ด ครูซ จากรัฐเทกซัส ซึ่งก็กลับใจจากที่เคยเป็นขาประจำวิจารณ์ทรัมป์มาเป็นผู้จงรักภักดี เรื่องราวเช่นนี้ทำให้พวกนักวิเคราะห์มองว่า ตอกย้ำให้เห็นว่าอดีตประธานาธิบดีผู้นี้สามารถเข้าเทกโอเวอร์รีพับลิกันเป็นที่เรียบร้อย
ผู้เชี่ยวชาญหลายรายให้ความเห็นว่า แวนซ์ ที่เคยเขียนบันทึกความทรงจำประวัติชีวิตของตัวเองใช้ชื่อว่า “ฮิลบิลลี เอเลจี้” (Hillbilly Elegy) ในปี 2016 จนติดอันดับหนังสือขายดี รวมทั้งถูกนำไปดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูด กำลังช่วยทำให้สัญชาตญาณประชานิยมของทรัมป์กลายเป็นวาระนโยบายที่จะนำอเมริกากลับสู่บทบาทผู้นำในเวทีโลก นอกจากนั้น เขายังถูกวางตัวให้ขับเคลื่อนนโยบายฟื้นความยิ่งใหญ่ของอเมริกาในคณะบริหารทรัมป์ 2
การปราศรัยของแวนซ์คราวนี้ ยังโอบอุ้มความเชื่อหลักของลัทธิทรัมป์นิยมที่ให้สัญญาให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศมากกว่าการนำเข้าสินค้าจีน และเตือนพันธมิตรว่า จะไม่มี “ตั๋วฟรี” สำหรับการที่สหรัฐฯ ปฏิบัติหน้าที่รักษาสันติภาพโลกอีกต่อไป
ทั้งนี้ แวนซ์คัดค้านการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน และปกป้องความพยายามของทรัมป์ในการล้มล้างผลการเลือกตั้งปี 2020 ที่อดีตประธานาธิบดีผู้นี้แพ้ไบเดน เขายังเรียกร้องให้รัฐบาลให้ความช่วยเหลือชนชั้นแรงงานมากขึ้นด้วยการจำกัดการนำเข้า ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ปราบปรามการบริจาคเงินขององค์กรธุรกิจ ซึ่งแม้จุดยืนเหล่านี้ขัดแย้งกับจุดยืนส่งเสริมธุรกิจดั้งเดิมของรีพับลิกัน แต่เป็นไปในทิศทางเดียวกับแผนการของทรัมป์
ในการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันเมื่อคืนวันพุธ ยังมีการเปิดวิดีโอภาพครอบครัวของทหารอเมริกันที่เสียชีวิตระหว่างการถอนทัพจากอัฟกานิสถาน โดยที่ประณามไบเดนว่าเป็นต้นเหตุการจากไปของทหารเหล่านั้น โดยบุคคลในวิดีโอบางคนได้รับเชิญขึ้นเวทีระบายความโกรธแค้น ขณะที่ผู้ฟังบางคนนั่งปาดน้ำตา
มีรายงานด้วยว่าผู้ปราศรัยหลายคนยกระดับความก้าวร้าวและบางคราวโจมตีคณะบริหารของไบเดนโดยไม่มีหลักฐาน ซึ่งตรงกันข้ามกับที่ทรัมป์ให้สัญญาไว้หลังถูกลอบยิงระหว่างการหาเสียงเมื่อวันเสาร์ (13 ก.ค.) ว่า จะส่งเสริมความสามัคคีของอเมริกา
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอพี)