xs
xsm
sm
md
lg

ประชาธิปไตยUSA!! ศาลสูงสุดสหรัฐฯตัดสินป้อง‘ทรัมป์’ไม่ต้องถูกฟ้องคดีอาญา ‘ไบเดน’จวกแหลก ตีความแบบนี้ทำให้ประธานาธิบดีมีอำนาจแทบไม่มีขีดจำกัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



‘ไบเดน’ฟาด ‘ศาลสูงสุด’ สร้างบรรทัดฐานอันตราย ด้วยการตัดสินให้ ‘ทรัมป์’ มีเอกสิทธิ์คุ้มครองจากการถูกดำเนินคดีอาญา ขณะที่เจ้าตัวโอ่เป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยของอเมริกา

เมื่อวันจันทร์ (1 ก.ค.) คณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดของสหรัฐฯ --ซึ่งปัจจุบันครอบงำโดยผู้พิพากษาสายอนุรักษนิยม และในจำนวนนี้ 3 คนเป็นผู้ที่ได้รับตำแหน่งโดยที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ขณะเป็นประธานาธิบดีเป็นผู้เสนอชื่อ-- มีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 ตัดสินให้ ทรัมป์ ตลอดจนถึงประธานาธิบดีทุกคน ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองไม่ต้องถูกดำเนินคดีอาญา สำหรับการปฏิบัติภารกิจภายใต้อำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ขณะดำรงตำแหน่ง ยกเว้นกรณีที่เป็นการดำเนินการเรื่องส่วนตัว

ที่ทำเนียบขาววันเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงว่า การวินิจฉัยตัดสินเช่นนี้ของศาลสูงสุด เกือบจะหมายความว่า ประธานาธิบดีสามารถทำได้ทุกอย่างโดยไม่มีขีดจำกัด ซึ่งถือเป็นแนวทางใหม่และเป็นการสร้างบรรทัดฐานอันตรายขึ้นมา

เวลานี้ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน เผชิญข้อหาในคดีอาญาจากการพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งที่ตนเองปราชัยต่อไบเดนเมื่อ 4 ปีก่อน ทว่า การดำเนินคดีเหล่านี้ถูกระงับระหว่างที่ศาลสูงสุดพิจารณาคำร้องของทรัมป์ซึ่งโต้แย้งว่าตนเองในฐานะที่ยังเป็นประธานาธิบดีในเวลานั้น พึงได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง

เห็นกันว่าจากคำวินิจฉัยตัดสินคราวนี้ มีแนวโน้มจะทำให้การพิจารณาคดีดังกล่าวต้องเลื่อนออกไปอีก ซึ่งเกือบจะแน่นอนแล้วว่า จะต้องเลื่อนไปหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้

ไบเดนสำทับว่า คนอเมริกันต้องตัดสินใจว่า จะวางใจให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีอีกครั้งได้หรือไม่ ขณะที่รับรู้ว่าทรัมป์เวลานี้จะต้องฮึกเหิมมากขึ้นในการทำทุกสิ่งและทุกเมื่อตามที่พอใจ

จอห์น โรเบิร์ตส์ ประธานศาลสูงสุด ระบุในคำพิพากษาของฝ่ายเสียงข้างมากในคดีนี้ ยืนยันว่า ประธานาธิบดีไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย แต่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองจากการถูกดำเนินคดีอาญาสำหรับการดำเนินการภายใต้อำนาจหน้าที่ระหว่างรับตำแหน่ง ทว่าจะไม่ได้รับความคุ้มครองหากเป็นการกระทำส่วนตัว

หลังจากศาลสูงสุดตัดสินกำหนดธงออกมาเช่นนี้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการส่งเรื่องกลับไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาว่า ข้อกล่าวหาที่ทรัมป์ถูกฟ้องร้องนั้น เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจประธานาธิบดี หรือเป็นการดำเนินการส่วนตัว

ทรัมป์ถูกศาลชั้นต้นสหรัฐฯตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดฉ้อโกงประเทศ รวมถึงขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ จากกรณีพวกผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีผู้นี้บุกอาคารรัฐสภาเพื่อพยายามขัดขวางกระบวนการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดนเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021

ทรัมป์ยังถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดปฏิเสธสิทธิ์ของคนอเมริกันในการออกเสียงเลือกตั้งและยอมรับคะแนนเสียงเหล่านั้น

ไบเดนโจมตีว่า ประชาชนต้องมีสิทธิ์รับรู้ว่า มีอะไรเกิดขึ้นในวันที่ 6 ม.ค. ก่อนที่จะใช้สิทธิ์เลือกตั้งอีกครั้งปลายปีนี้ แต่คำตัดสินของศาลสูงสุดทำให้ไม่มีแนวโน้มเป็นไปได้ และทำให้ประชาชนเสียประโยชน์อย่างมาก

ทางด้านผู้พิพากษาศาลสูงสุดที่เป็นสายเสรีนิยมรวม 3 คน ลงมติไม่เห็นด้วยกับเสียงส่วนใหญ่ โดยหนึ่งในนั้น คือ โซเนีย โซโตเมเยอร์ กล่าวว่า ไม่มีครั้งใดในประวัติศาสตร์อเมริกาที่ประธานาธิบดีมีเหตุผลที่ทำให้เชื่อได้แล้วว่า ตนเองสามารถได้รับการคุ้มครองไม่ต้องถูกดำเนินคดีอาญา แม้ทำการดักฟังในห้องทำงานเพื่อละเมิดกฎหมายอาญา, สั่งให้หน่วยซีลลอบสังหารศัตรูทางการเมือง, จัดการรัฐประหารเพื่ออยู่ในอำนาจต่อไป, รับสินบนจากการใช้อำนาจให้อภัยโทษ

“ในทุกๆ การใช้อำนาจที่ดำเนินการอย่างเป็นทางการ ประธานาธิบดีเวลานี้ก็กลายเป็นกษัตริย์ที่สามารถอยู่เหนือกฎหมายได้” เธอย้ำ

สำหรับทรัมป์ โพสต์บนแพลตฟอร์มสื่อสังคม ทรูธ โซเชียลว่า การตัดสินของศาลสูงสุดเช่นนี้เป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยของอเมริกา และสมควรเป็นการปิดฉากการตั้งหน้าตั้งตากล่าวโทษเอาผิดเขาแบบ “ล่าแม่มด” ของไบเดน

ขณะที่ สตีเวน ชวินน์ ศาสตราจารย์นิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ชิคาโก กล่าวว่า คำตัดสินของศาลสูงสุดจะยื้อคดีของทรัมป์ไปจนหลังเลือกตั้ง รวมทั้งยังเป็นการวาง “โรดแมป” สำหรับผู้นำสหรัฐฯ ในการหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีจากการกระทำใดๆ ก็ตาม ด้วยการทำให้การกระทำนั้นเกี่ยวพันกับการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ ทรัมป์ที่เผชิญคดีอาญา 4 คดี กำลังพยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อเลื่อนการไต่สวนออกไปจนกระทั่งหลังเลือกตั้ง

อดีตประธานาธิบดีวัย 78 ปีผู้นี้ถูกศาลชั้นต้นในนิวยอร์กตัดสินไปแล้วว่า กระทำผิดในการปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจเพื่อปกปิดเรื่องอื้อฉาวคาวโลกีย์ของตัวเองในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งปี 2016 ส่งผลให้ทรัมป์เป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกของอเมริกาที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาญา

การตัดสินโทษทรัมป์จะมีขึ้นในวันพฤหัสฯหน้า (11 ก.ค.) อย่างไรก็ดี ทีมทนายของทรัมป์ได้ทำจดหมายถึงผู้พิพากษาในคดีดังกล่าวเพื่อขอให้เพิกถอนคำตัดสินโดยอ้างอิงคำวินิจฉัยล่าสุดของศาลสูงสุด

การระดมยื่นคำร้องก่อนการพิจารณาคดีของทีมทนายความของทรัมป์ ทำให้มีการเลื่อนการพิจารณาคดีอื่นอีก 3 คดีไปแล้ว โดยเป็นพวกคดีที่เกี่ยวข้องกับความพยายามในการล้มล้างการเลือกตั้งปี 2020 และการเก็บเอกสารลับสุดยอดไว้ที่ที่พักของทรัมป์เองในฟลอริดา

และหากได้รับเลือกตั้งอีกสมัย ทรัมป์ที่จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้า ยังอาจใช้อำนาจสั่งปิดคดีที่ตนถูกฟ้องร้องในศาลสหรัฐฯอีกด้วย

(ที่มา: เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น