ฝรั่งเศสเลือกตั้งเดิมพันอนาคต โพลชี้พรรคขวาจัดส่อคว้าชัย

เอเอฟพี - ชาวเมืองน้ำหอมเข้าคูหากาบัตรในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาก่อนกำหนดเมื่อวันอาทิตย์ (30 มิ.ย.) ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงแนวทางของฝรั่งเศส และส่งให้พรรคขวาจัดของมารีน เลอ แปน สร้างประวัติศาสตร์ในการคว้าชัยชนะ โดยโพลล่าสุดระบุว่า พรรคอาร์เอ็นจะได้ที่นั่งในสภามากที่สุด แม้ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้เสียงข้างมากขาดลอยหรือไม่ก็ตาม

ขณะที่สงครามในยูเครนล่วงเลยเข้าสู่ปีที่ 3 และราคาพลังงานและอาหารแพงขึ้นมาก การสนับสนุนพรรคเนชันแนล แรลลี (อาร์เอ็น) ที่มีจุดยืนต่อต้านผู้อพยพและต่อต้านสหภาพยุโรป (อียู) ยิ่งพุ่งขึ้น แม้ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง เรียกร้องให้คนฝรั่งเศสร่วมกันป้องกันไม่ให้พรรคขวาจัดครองเมืองก็ตาม

คูหาเลือกตั้งทั่วฝรั่งเศสสำหรับการเลือกตั้งรอบแรกเปิดทำการตั้งแต่เวลา 8.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และจะปิดในเวลา 20.00 น. หลังจากนั้นจะมีเผยแพร่การคาดการณ์ผลการเลือกตั้งที่มีความแม่นยำในระดับหนึ่ง

การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มีสิทธิออกเสียงราว 49 ล้านคน เพื่อเลือกสมาชิกรัฐสภา 577 ที่นั่ง ซึ่งจะมีการเลือกตั้งสองรอบ และทิศทางของรัฐสภาจะเริ่มชัดเจนภายหลังการเลือกตั้งรอบสองในวันที่ 7 ก.ค.

โพลส่วนใหญ่แสดงให้เห็นว่า อาร์เอ็นน่าจะกวาดที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรได้มากที่สุด แม้ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้เสียงข้างมากขาดลอยหรือไม่ก็ตาม

นอกจากนั้น ยังคาดว่าจะมีผู้ออกไปใช้สิทธิจำนวนมาก และโพลล่าสุดระบุว่า อาร์เอ็นจะได้คะแนนเลือกตั้ง 35-37% ขณะที่พรรคแนวร่วมปีกซ้าย นิว ป็อปปูลาร์ ฟรอนต์ได้ 27.5-29% และ 20-21% สำหรับแนวร่วมสายกลางของมาครง

หากอาร์เอ็นได้เสียงข้างมากขาดลอย หัวหน้าพรรคคือ จอร์แดน บาร์เดลลา วัย 28 ปี ที่อยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ค้ำชูของเลอ แปน แต่ไม่มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ อาจคว้าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และต้องอยู่ร่วมกับมาครงในบรรยากาศตึงเครียด ซึ่งแหล่งข่าวในรัฐบาลเผยว่า มาครงมีแผนจัดประชุมรัฐบาลในวันจันทร์ (1 ก.ค.) เพื่อตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

มุจตาบา ราห์มาน ผู้นำประจำยุโรปของบริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยง ยูเรเซีย กรุ๊ป เชื่อว่า ฝรั่งเศสกำลังจะเข้าสู่ปีแห่งความสับสนอลหม่านทางการเมืองจากสภาแขวน หรือสถานการณ์ที่รัฐบาลมีเสียงข้างน้อยในสภา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการเมืองฝรั่งเศส

การตัดสินใจของมาครงในการจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดหลังจากอาร์เอ็นกวาดคะแนนโดดเด่นในการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปในเดือนมิถุนายน สร้างความประหลาดใจอย่างมากทั้งในหมู่มิตรและศัตรู อีกทั้งนำไปสู่สถานการณ์ที่ไร้ความแน่นอนในฝรั่งเศสซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของยุโรป ซึ่งตลาดหุ้นปารีสตกแรงที่สุดในรอบ 2 ปีเมื่อเดือนที่แล้ว โดยลดลงถึง 6.4%

บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ เลอ มงด์ ระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่จะลุกขึ้นมาต่อต้านฝ่ายขวาจัด การปล่อยให้กลุ่มนี้มีอำนาจเสี่ยงที่จะทำให้ทุกสิ่งที่ฝรั่งเศสสร้างสมมาตลอดระยะเวลากว่าสองศตวรรษครึ่งค่อยๆ สูญสลายไป

นักเคลื่อนไหวกลุ่มเฟมินิสต์ ฟีเมน แต่งชุดพนักงานทำความสะอาดเปลือยอกประท้วงที่โทรคาเดโรในปารีสเมื่อวันเสาร์ (29 มิ.ย.) พร้อมตะโกนคำขวัญต่อต้านฝ่ายขวาสุดโต่ง นอกจากนั้น ยังมีประชาชนหลายพันคนร่วมขบวนพาเหรดกลุ่มหลากหลายทางเพศในปารีส ซึ่งมีบางคนชูป้ายโจมตีฝ่ายขวาจัด

หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า มีการพูดเพื่อสร้างความเกลียดชังและการเหยียดเชื้อชาติมากขึ้นในระหว่างการหาเสียงที่ผ่านมา โดยวิดีโอชุดหนึ่งที่มีภาพผู้สนับสนุนอาร์เอ็นสองคนใช้ถ้อยคำรุนแรงต่อผู้หญิงผิวดำเป็นไวรัลในโลกออนไลน์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ด้านมาครงประณามการเหยียดเชื้อชาติและการต่อต้านยิว

มาครงนั้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะฉวยโอกาสที่ศัตรูทางการเมืองไม่ทันระวังตัว หยิบยื่นโอกาสให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกอนาคตของประเทศ ทว่า ผู้สังเกตการณ์ติงว่า เขาอาจเป็นฝ่ายแพ้ในการเดิมพันครั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้การสนับสนุนแนวร่วมสายกลางของมาครงล่มสลายลง

ในทางกลับกัน นักวิเคราะห์ระบุว่า ความพยายามยาวนานหลายปีของเลอ แปนในการล้างภาพพรรคการเมืองที่มีอดีตสมาชิกวัฟเฟิน เอสเอส ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธของพรรคนาซี ร่วมก่อตั้งนั้น กำลังผลิดอกออกผล โดยอาร์เอ็นให้สัญญาว่า จะส่งเสริมอำนาจซื้อ จำกัดผู้อพยพ และเพิ่มประสิทธิภาพการรักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อย

ภายใต้นโยบายของมาครง ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของยูเครนนับจากถูกรัสเซียรุกรานในปี 2022 แต่เลอ แปน และบาร์เดลลาประกาศว่า จะลดการสนับสนุนยูเครนด้วยการตัดความเป็นไปได้ในการส่งทหารร่วมรบ และส่งขีปนาวุธพิสัยไกลให้ยูเครน