ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ในวันอาทิตย์ (9 มิ.ย.) ประกาศยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ หลังจากฝ่ายขวาจัดคว้าชัยเหนือพันธมิตรสายกลางของเขาในศึกเลือกตั้งสหภาพยุโรป (อียู)
ศึกเลือกตั้งรอบแรกของสมัชชาแห่งชาติ หรือสภาล่าง จะมีขึ้นในวันที่ 30 มิถุนายน และ 2 รอบจะมีขึ้นในวันที่ 7 กรกฎาคม จากคำแถลงถึงประชาชนทั่วประเทศของมาครง ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นตามหลังผลของศึกเลือกตั้งอียู ซึ่งเขายอมรับว่า "เป็นผลลัพธ์ที่ไม่ดีเลย สำหรับพรรคต่างๆ ที่ปกป้องยุโรป"
มาครง เน้นว่าพวกพรรคขวาจัดในฝรั่งเศส ในนั้นรวมถึงพรรคแนชันแนล แรลลี (อาร์เอ็น) ที่้ทำคะแนนได้สูงสุด คว้าคะแนนโหวตไปเกือบ 40% ในศึกเลือกตั้งอียูในฝรั่งเศส "พวกพรรคขวาจัดกำลังรุกคืบในทุกหนทุกแห่งในทวีปแห่งนี้ มันเป็นสถานการณ์ที่ผมไม่อาจยอมจำนนได้"
เขากล่าวหาพวกขวาจัดเป็นตัวแทนของ "ความแร้นแค้น" และ "เป็นการลดระดับ" ฝรั่งเศส "ดังนั้นในท้ายที่สุดแล้ว ผมไม่อาจทำเหมือนว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมตัดสินใจมอบสิทธิให้พวกคุณเลือก เพราะฉะนั้นผมจะยุบสมัชชาแห่งชาติในคืนนี้ ถึงเพื่อนร่วมชาติทุกคน การตัดสินใจนี้เป็นการตัดสินใจที่หนักหนาสาหัส แต่ผมทำมันด้วยความเชื่อมั่น เชื่อมั่นในตัวพวกคุณ และเชื่อมั่นในศักยภาพของชาวฝรั่งเศสในการตัดสินใจเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดเพื่อตัวคุณเองและคนรุ่นถัดๆ ไป"
พันธมิตรของพรรคอาร์เอ็น ซึ่งนำโดย จอร์แดน บาร์เดลลา วัย 28 ปี ได้คะแนนเสียงระหว่าง 32.3% ถึง 33% ส่วนพันธมิตรของมาครงที่นำโดยพรรค Renaissance ของเขา ได้คะแนนเสียงราว 14.8% ถึง 15.2% จากผลเลือกตั้งเบื้องต้นที่สำรวจโดยบริษัทโพลหลายสำนัก
มาครง เตือนในวันพฤหัสบดี (6 มิ.ย.) ว่าอียูเสี่ยงถูกขัดขวางจากการปรากฏตัวของพวกขวาจัดจำนวนมากในรัฐสภายุโรป ตามหลังศึกเลือกตั้งในสัปดาห์นี้
แต่ทาง บาร์เดลลา บอกกับบรรดาผู้สนับสนุนว่า ชาวฝรั่งเศสแสดงออกถึงความปรารถนาสำหรับความเปลี่ยนแปลง และเขาเป็นคนแรกๆ ที่เรียกร้องให้ มาครง ยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่ "มอบสิทธิให้ชาวฝรั่งเศสเป็นคนตัดสินและไม่อาจอุทธรณ์ใดๆ"
ผลของศึกเลือกตั้งจะมีความสำคัญยิ่งต่อศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในปี 2027 ในขณะที่ มาครง ไม่สามารถลงชิงชัยได้อีกสมัย และ มารีน เลอ แปง แกนนำพรรคอาร์เอ็น เชื่อว่าเธอมีโอกาสดีที่สุดเท่าที่้เคยมีมาในการคว้าเก้าอี้ผู้นำประเทศ "เราพร้อมใช้อำนาจ ถ้าประชาชนชาวฝรั่งเศสเชื่อมั่นในตัวเรา" เลอ แปง กล่าว
ความเคลื่อนไหวยุบสภาครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1997 โดยคราวนั้น ฌาคส์ ชีรัค ประธานาธิบดีขวาจัด ณ ขณะนั้น ประกาศยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่ แต่สุดท้ายแล้วกลับเป็นฝ่ายซ้ายที่ครองเสียงข้างมาก
ผลเลือกตั้งดังกล่าว ทำให้ ชีรัค ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่เรียกว่า cohabitation นานกว่าครึ่งทศวรรษ คำศัพท์ในฝรั่งเศสที่ใช้เรียกสถานการณ์ที่ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีมาจากขุมกำลังทางการเมืองหฝ่ายค้าน
หลุยส์ อาลิโอต์ รองหัวหน้าพรรคอาร์เอ็น ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่นว่าพรรคอาร์เอ็น จะหาทางคว้าเสียงข้างมากในศึกเลือกตั้งรัฐสภา และเสนอชื่อ บาร์เดลลา ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ความเคลื่อนไหวของมาครง มีขึ้นในขณะที่ฝ่ายขวาจัด บรรดานักการเมืองชาตินิยมที่เคลือบแคลงต่ออียู ได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ศึกเลือกตั้งรัฐสภายุโรปเมื่อวันอาทิตย์ (9 มิ.ย.) ในขณะที่พรรคกรีนส์และพวกหัวเสรี ประสบความปราชัยในหลายชาติ ในนั้นรวมถึงอิตาลี เยอรมนี และสเปน
ความโน้มเอียงมายังฝ่ายขวาภายในรัฐสภายุโรป อาจทำให้รัฐสภาแห่งนี้เจองานยากลำบากมากขึ้นในการผ่านกฎหมายใหม่ที่อาจจำเป็นสำหรับตอบโต้ความท้าทายด้านความมั่นคงต่างๆ ผลกระทบของภาวะโลกร้อนหรือการแข่งขันทางอุตสาหกรรมจากจีนและสหรัฐฯ
(ที่มา : เอเอฟพี)