xs
xsm
sm
md
lg

คนเดินทางมีกังวล! เครื่องบินตกหลุมอากาศรุนแรงอีกแล้ว ผู้โดยสารบาดเจ็บหลายสิบคน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหลายสิบคนในวันจันทร์ (1 ก.ค.) หลังเที่ยวบินหนึ่งของสายการบินแอร์ยูโรปา จากมาดริด มุ่งหน้าสู่กรุงมอนเตวิเดโอ เมืองหลวงของอุรุกวัย ตกหลุมอากาศรุนแรง กระตุ้นให้ต้องลงจอดฉุกเฉินในบราซิล ตามการเปิดเผยของสายการบิน และเจ้าหน้าที่รัฐบาล

เครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 325 คน ต้องเบี่ยงเส้นทางในตอนเช้า ไปลงจอดที่ท่าอากาศยานนาทาล ในทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล ท่ามกลางรถฉุกเฉินหลายสิบคันที่จอดรออยู่

มีผู้โดยสาร 40 คน ถูกพาไปยังโรงพยาบาลและคลินิกหลายแห่ง เพื่อรักษารอยถลอกและอาการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ จากการเปิดเผยของสำนักงานสาธารณสุขแห่งรัฐฮิวกรังจีดูนอร์ชี ที่ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี แต่จนถึงช่วงบ่ายวันจันทร์ (1 ก.ค.) ยังเหลืออีก 11 คน ที่ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล มอนเซนฮอร์ เวลเฟรโด กูร์เกล

ในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น มีทั้งชาวสเปน อาร์เจนตินา อุรุกวัย อิสราเอล โบลิเวีย และเยอรมนี

ก่อนหน้านี้สายการบินแอร์ยูโรปา เปิดเผยว่ามีผู้โดยสาร 7 คน ได้รับการรักษาอาการบาดเจ็บต่างๆ แต่ไม่ได้เปิดเผยจำนวนผู้โดยสารที่ต้องพบแพทย์เพื่อดูอาการฟกช้ำดำเขียว พร้อมระบุว่าเครื่องบินลำหนึ่งกำลังถูกส่งไปจากมาดริด เพื่อรับพวกผู้โดยสาร พามุ่งหน้าต่อไปยังสนามบินปลายทาง เปิดทางให้ตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินโบอิ้งที่ท่าอากาศยานนาทาล

มาเรียล โจดาล ผู้ใช้แพลตฟอร์มเอ็กซ์ อ้างว่าเป็นหนึ่งในผู้โดยสารระบุว่ามีผู้โดยสารหลายคนได้รับบาดเจ็บในเหตุตกหลุมอากาศรุนแรงมาก แต่เธอรอดพ้นจากอาการบาดเจ็บ เนื่องจากรัดเข็มขัดนิรภัย

เธอโพสต์ภาพภาพผนังเพดานเครื่องบินแตก จนเห็นท่อและสายไฟ ขณะเดียวกัน อีกภาพเป็นภาพบรรดารถฉุกเฉินเปิดไฟกะพริบจอดรออยู่บริเวณลานสนามบินนาทาล

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ชายชาวอังกฤษวัย 73 ปี เสียชีวิต และผู้โดยสารคนอื่นๆหลายคนรวมถึงลูกเรือได้รับบาดเจ็บบริเวณกะโหลก กระทบกระเทือนทางสมองและบาดเจ็บกระดูกสันหลัง หลังเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ตกหลุมอากาศรุนแรง ระหว่างเดินทางจากลอนดอน จนต้องลงจอดฉุกเฉินในกรุงเทพฯ

จากนั้นราว 1 สัปดาห์ต่อมา มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บอีก 12 คน ในเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ของสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ตกหลุมอากาศรุนแรงเช่นกัน ระหว่างบินจากโดฮา มุ่งหน้าสู่ไอร์แลนด์

พวกผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศ ระบุว่า บ่อยครั้งที่พวกผู้โดยสารเพิกเฉยต่อการคาดเข็มขัดนิรภัย ทำให้พวกเขาตกอยู่ในความเสี่ยงถ้าเครื่องบินตกหลุมอากาศอย่างไม่คาดคิด

ขณะที่พวกนักวิทยาศาสตร์บอกเช่นกันว่า หลุมอากาศที่เรียกว่า Clear Air Turbulence หรือความปั่นป่วนในอากาศแจ่มใส ซึ่งไม่สามารถตรวจจับได้โดยเรดาร์ กำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆ สืบเนื่องจากภาวะโลกร้อน

Clear Air Turbulence หรือ CAT แทบไม่สามารถตรวจจับได้ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน นั่นหมายความว่ามันสามารถเล่นงานเครื่องบินโดยปราศจากสัญญาณเตือนใดๆ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่พวกผู้โดยสารบนเครื่องบินต้องคาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ตลอดเวลา

ผลการศึกษาปี 2023 พบว่าช่วงเวลาของการเกิด Clear Air Turbulence รายปี เพิ่มขึ้นมาถึง 17% จากช่วงปี 1979 ถึง 2020 ในขณะที่เคสเกิด Clear Air Turbulence แบบรุนแรง เพิ่มขึ้นมากกว่า 50%

(ที่มา : เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น