ปลอดภัยไว้ก่อน กระแสคาดเข็มขัดตลอดเวลาที่นั่งอยู่บนเครื่องบินมาแรง หลัง“สิงคโปร์แอร์ไลน์ส” ตกหลุมอากาศ

เกิดกระแสมาแรง รณรงค์คาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาที่นั่งอยู่บนเครื่องบิน หลังเกิดอุบัติเหตุ “สิงคโปร์แอร์ไลน์ส” ตกหลุมอากาศ จนมีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บหลายสิบคน

จากกรณีเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน เครื่องบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน SQ321 ตกหลุมอากาศอย่างรุนแรงเมื่อวันอังคาร ที่ 21 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บหลายสิบคน

ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งบนเที่ยวบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เผยว่า มีคนจำนวนมากที่ไม่ได้คาดเข็มขัด ถูกเหวี่ยงกระเด็นกระดอนไปทั่วห้องโดยสาร ตอนที่เครื่องบินลดระดับลงอย่างกะทันหัน หลายคนศีรษะกระแทกกับเพดาน
หลังอุบัติเหตุเครื่องบินตกหลุมอากาศในครั้งนี้ได้เกิดกระแสรณรงค์เรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาที่นั่งอยู่บนเครื่องบิน โดย เรือเอกนพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า การเดินทางด้วยเครื่องบินมีโอกาสที่จะเจอกับสภาพอากาศแปรปรวนหรือที่เรียกกันว่าการ “ตกหลุมอากาศ” ซึ่งโดยปกติแล้วนักบินก็จะทำการแก้ไขให้สามารถเดินทางไปได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ดีขณะเกิดตกหลุมอากาศ หากผู้โดยสารที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ก็จะถูกแรงเหวี่ยงให้ลอยขึ้นและตกลงมาสู่พื้นห้องโดยสาร ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บได้

ด้วยเหตุนี้ เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ จึงเตือนให้ผู้ที่ต้องโดยสารเครื่องบินในระหว่างเดินทางเมื่อนั่งอยู่กับที่ต้องรัดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย


ด้าน แอนโทนี บริคเฮาส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยการบินและอวกาศ เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ควรให้ผู้โดยสารลดความเคลื่อนไหวให้เหลือน้อยที่สุดบนเที่ยวบิน และคาดเข็มขัดอยู่ตลอดเวลา โดยไม่พิจารณาว่าไฟสัญญาณเตือนให้คาดเข็มขัดเปิดอยู่หรือไม่

สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส บังคับให้นักบินของบริษัทเปิดไฟสัญญาณเตือนคาดเข็มขัดอยู่ตลอด และจะสั่งให้พวกผู้โดยสารและพนักงานต้อนรับบนเที่ยวบินนั่งลงในทันที ยามที่เผชิญกับหลุมอากาศรุนแรง

หลังจากนั้นพนักงานต้อนรับบนเที่ยวบินจะนั่งประจำที่จนกว่าจะมีการแจ้งเพิ่มเติมมาจากกัปตัน หรือสัญญาณเตือนคาดเข็มขัดถูกปิดลง ทั้งนี้สายการบินอื่นๆ ก็มีขั้นตอนปฏิบัติคล้ายๆ กัน

อย่างไรก็ตาม นักบินและพนักงานต้อนรับบนเที่ยวบินบางส่วน ให้ข้อมูลว่าการเปิดไฟเตือนคาดเข็มขัดอยู่ตลอดเที่ยวบิน กลับกลายเป็นไฟย้อนศร เพราะว่าพวกผู้โดยสารเริ่มชินชาและเพิกเฉยต่อสัญญาณเตือน

ขณะที่ในโลกโซเชียลก็ได้มีการรณรงค์ให้คาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาที่นั่งอยู่บนเครื่องบิน เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้โดยสารเอง