ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ออกหมายจับ เซียร์เก ซอยกู อดีตรัฐมนตรีกลาโหม และ พล.อ.วาเลรี เกราซิมอฟ นายพลระดับสูงของรัสเซีย ในวันอังคาร (24 มิ.ย.) ตามคำกล่าวหาโจมตีโครงสร้างพื้นฐานยูเครน ซึ่งเข้าองค์ประกอบของการก่ออาชญากรรมสงคราม ระหว่างปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
หมายจับล่าสุดนี้ ทำให้รวมแล้วศาลอาญาระหว่างประเทศได้ออกหมายจับไปแล้วทั้งสิ้น 8 ใบ กับพวกผู้ต้องสงสัยบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย นับตั้งแต่มอสโกส่งทหารรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ในนั้นรวมถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ที่เผชิญข้อกล่าวหาบังคับเนรเทศเด็กๆ ชาวยูเครนไปยังรัสเซีย
ความเคลื่อนไหวของศาลได้รับเสียงขานรับด้วยความยินดีจากยูเครน แต่ถูกรัสเซียปฏิเสธว่ามันไร้ความหมายในทางกฎหมายใดๆ
ศาลที่ตั้งอยู่ในเมืองเฮกแห่งนี้ ระบุว่า ซอยกูและเกราซิมอฟ ต้องสงสัยก่ออาชญากรรมสงครามและก่ออาชญากรรมกับมนุษยชาติ ด้วยการสั่งการโจมตีพลเรือนและเป้าหมายทางพลเรือนในยูเครน
ทั้งนี้ ศาลอาญาระหว่างประเทศระบุในเอกสารประชาสัมพันธ์ ว่า พวกผู้พิพากษามีเหตุอันควรที่จะเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ต้องรับผิดชอบเหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธโดยกองกำลังรัสเซีย เล่นงานโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้าของยูเครน ระหว่างวันที่ 10 ตุลาคม 2022 ถึงอย่างน้อยวันที่ 9 มีนาคม 2023
รัสเซียซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศ เน้นย้ำว่าโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของยูเครนนั้นเป็นเป้าหมายทางทหารที่ชอบธรรม และปฏิเสธว่าไม่ได้เล็งเป้าเล่นงานพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือน
ส่วนยูเครนก็ไม่ได้เป็นสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศเช่นกัน แต่อนุมัติขอบเขตอำนาจของศาลอาญาระหว่างประเทศ ในการสืบสวนอาชญากรรมต่างๆ ที่ก่อบนดินแดนของพวกเขา นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2013
ประธานาธิบโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ขานรับด้วยความยินดีต่อความเคลื่อนไหวออกหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ "ทุกอาชญากรที่เกี่ยวข้องในการวางแผนและกระทำการโจมตีเหล่านี้ต้องได้รู้ว่าความยุติธรรมจะทำหน้าที่ของมัน และเราหวังเห็นพวกเขาเข้าคุก"
สำนักข่าวทาสส์นิวส์ของรัสเซีย รายงานอ้างคำแถลงของสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย ระบุว่าความเคลื่อนไหวของศาลอาญาระหว่างประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของสงครามลูกผสมต่อต้านมอสโก "มันเป็นเรื่องสบายๆ เนื่องจากขอบเขตอำนาจของไอซีซีไม่ได้ครอบคลุมถึงรัสเซีย และมันเป็นส่วนหนึ่งของสงครามลูกผสมที่พวกตะวันตกทำกับเรา"
ซอยกู เป็นหนึ่งในเพื่อนและพันธมิตรเก่าแก่ของปูติน และมีบทบาทสำคัญในสงคราม เขาถูกถอดจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมเมื่อเดือนที่แล้ว และได้รับแต่งตั้งให้นั่งเก้าอี้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติอันทรงอิทธิพลของรัสเซีย ในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของปูติน ในสายงานบังคับบัญชาทางทหาร นับตั้งแต่รุกรานยูเครน
เนื่องด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ ไม่มีกองกำลังตำรวจของตนเอง และต้องพึ่งพิงรัฐภาคีในการทำการจับกุม ดังนั้น จึงไม่เป็นที่ชัดเจนว่าจะมีพวกผู้ต้องสงสัยรัสเซียรายใดหรือไม่ ที่จะถูกนำตัวเข้าสู่การพิจารณาคดี
นอกจากนี้ ทางรัสเซียไม่มีนโยบายส่งตัวพลเมืองของตนเองในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน และไอซีซี ในฐานะศาลอาญากรรมสงครามถาวรแห่งแรกของโลกก็ไม่มีบทบัญญัติใดที่จะอนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลย
คาริม ข่าน อัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เขายื่นขอออกหมายจับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และคดีนี้เกี่ยวข้องกับการออกหมายจับ เซอร์เก โคบีลัช และวิคตอร์ โซโคลอฟ 2 ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของรัสเซีย เมื่อเดือนมีนาคม ที่เผชิญกับคำกล่าวหาโจมตีโครงข่ายไฟฟ้าของยูเครนเช่นกัน
ไอซีซีถูกจับตาพิจารณาอย่างเข้มข้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจาก คาริม ข่าน อัยการของไอซีซี เปิดเผยว่าเขากำลังยื่นขอออกหมายจับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และโยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหม เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส 3 คน
พันธมิตรบางส่วนที่สนับสนุนการสืบสวนของไอซีซีในยูเครน อย่างเช่นเยอรมนี สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ต่างตั้งคำถามต่อการตัดสินใจยื่นขอออกหมายจับ เนทันยาฮู และ กัลแลนท์ แต่รัฐภาคีส่วนใหญ่ของไอซีซี ในนั้นรวมถึงบรรดาประเทศสหภาพยุโรป บอกว่าพวกเขาเคารพต่อความเป็นอิสระของศาล
วอชิงตันซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกของไอซีซี ปฏิเสธความเคลื่อนไหวของศาลแห่งนี้ว่าน่าโมโห และโต้แย้งขอบเขตอำนาจศาลต่อความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาส แต่สนับสนุนความเคลื่อนไหวของศาลในการสืบสวนเหตุการณ์ต่างๆ ในยูเครน
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)