รัสเซียกำลังพูดคุยกับบรรดาพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด ในประเด็นประจำการขีปนาวุธพิสัยไกล ตามรายงานของสำนักข่าวทาสส์นิวส์ในวันพุธ (19 มิ.ย.) อ้างอิงคำกล่าวของ เซอร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย
รยาบคอฟ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวทาสส์นิวส์ ว่า มอสโกมีพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดทั้งในเอเชียและละตินอเมริกา ซึ่งประเทศเหล่านั้น "สถานการณ์ด้านความมั่นคงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ไม่มีอะไรใหม่ในเรื่องนี้ ประเด็นการประจำการอาวุธพิสัยไกลเคยถูกหยิบยกขึ้นมาหารือกับคู่หูของเราจำนวนหนึ่ง"
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ไม่ได้พาดพิงชื่อประเทศ และเขาบอกว่าการพูดคุยหารือดำเนินการด้วยความเคารพอย่างสูงต่อพันธสัญญาต่างๆ ที่ประเทศเหล่านั้นต้องแบกรับภายใต้สนธิสัญญาระหว่างประเทศทั้งหลาย ในนั้นรวมถึงสนธิสัญญาที่รัสเซียไม่ได้เป็นรัฐภาคีด้วย
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เดินทางถึงเกาหลีเหนือในวันพุธ (19 มิ.ย.) ท่ามกลางความกังวลของสหรัฐฯ และพันธมิตรที่แสดงความกังวลว่า มอสโกอาจมอบความช่วยเหลือด้านโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์แก่เปียงยาง ที่ถูกห้ามภายใต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
รยาบคอฟ บอกกับ ทาสส์นิวส์ ด้วยว่าการติดต่อทางการทูตระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ ถูกปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุด โดยเหลือเพียงเรื่องวีซ่าและประเด็นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเท่านั้น และอนาคตสถานการณ์อาจเลวร้ายกว่านี้
"การติดต่อระหว่างเรากับอเมริกาถูกปรับลดสู่ขั้นต่ำสุด ทั้งในแง่ปริมาณและบริบท" รยาบคอฟกล่าวกับทาสส์นิวส์ พร้อมบอกว่าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง 2 ฝ่าย อาจเลวร้ายลงไปกว่านี้อีก หากมีการตอบโต้ความเคลื่อนไหวใดๆ ของสหรัฐฯ ที่จะยึดทรัพย์สินของรัสเซีย "ระดับความสัมพันธ์ทางการทูตที่ลดต่ำลง นั่นหมายความว่าโอกาสวิถีทางแห่งคลังแสงก็จะเพิ่มขึ้นด้วย"
ในการตอบโต้สงครามของรัสเซียในยูเครน ทางสหรัฐฯ และพันธมิตรได้ห้ามทำธุรกรรมกับธนาคารกลางและกระทรวงการคลังรัสเซีย รวมถึงอายึดทรัพย์สินของรัสเซียมูลค่ากว่า 300,000 ล้านดอลลาร์ ที่อยู่ในตะวันตก ส่วนใหญ่อยู่ในสถาบันการเงินทั้งหลายของยุโรป ไม่ใช่สหรัฐฯ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางกลุ่มจี 7 เห็นพ้องเดินหน้ากระบวนการที่นำนำทรัพย์สินของรัสเซียที่อายัดไว้เอาไปมอบแก่ยูเครน ในรูปแบบของเงินกู้ยืม จำนวน 50,000 ล้านดอลลาร์
(ที่มา : รอยเตอร์)