ประชาชนราว 250,000 ราย พากันเดินขบวนทั่วฝรั่งเศสในวันเสาร์ (15 มิ.ย.) เพื่อประท้วงการผงาดขึ้นมาของพวกขวาจัดในศึกเลือกตั้งสหภาพยุโรป จนกระตุ้นให้ทางประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ตัดสินใจยุบสภา และจัดเลือกตั้งใหม่
ในปารีส ตำรวจประเมินว่ามีผู้คนราว 75,000 ราย ที่ขานรับเสียงร้องขอจากสหภาพแรงงานทั้งหลาย สมาคมต่างๆ และพันธมิตรทางการเมืองฝ่ายซ้ายใหม่ที่จัดตั้งขึ้นสำหรับสู้ศึกเลือกตั้ง ในการออกมาชุมนุมครั้งนี้
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างว่ามีผู้เข้าร่วมชุมนุมทั่วประเทศรวมราว 250,000 คน แต่ทางสหภาพ CGT อ้างว่ามีผู้ร่วมประท้วงรวมกันมากถึง 640,000 คน ตามเวทีชุมนุมมากกว่า 182 แห่ง ในนั้นรวมถึง 250,000 คน ในกรุงปารีส
ไล่ตั้งแต่เมืองบายอน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ ไปจนถึงนีซ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ไล่ตั้งแต่เมืองวานน์ส ทางภาคตะวันตก ไปจนถึงแร็นส์ ทางภาคตะวันออก พวกผู้ชุมนุมต่างออกแสดงพลังคัดค้านแนวโน้มที่ฝ่ายขวาจัดจะได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งรัฐสภาที่กำลังมาถึง
ถ้าผลการเลือกตั้งเป็นเช่นนั้นจริง นั่นหมายความว่า จอร์แดน บาร์เดลลา ผู้นำพรรคเนชันแนล แรลลี (อาร์เอ็น) อาจก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศส ขณะที่พรรคอาร์เอ็น มีคะแนนนิยมนำหน้าทิ้งห่างคู่แข่ง ในผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ เมื่อเร็วๆ นี้
"ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้เห็นฝ่ายขวาจัดก้าวเข้าสู่อำนาจ แต่ตอนนี้มันมีสิทธิเกิดขึ้นแล้ว" ฟลอรองซ์ เดวิด วัย 60 ปี ให้สัมภาษณ์ระหว่างร่วมประท้วงในกรุงปารีส
การเดินขบวนเป็นไปค่อนข้างสงบ แต่ตำรวจได้จับกุมผู้ประท้วงไปราว 20 คน ในนั้น 9 คนในกรุงปารีส ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นาย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยในการประท้วง
มีสถานการณ์แห่งความตึงเครียดเกิดขึ้นช่วงสั้นๆ ในแรนส์และน็องต์ ทางตะวันตกของฝรั่งเศส ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตายิงเข้าใส่พวกนักเคลื่อนไหวฝ่ายซ้ายหัวรุนแรงหลายสิบคน จนต้องล่าถอยกลับไป
ในกรุงปารีส พบเห็นโครงสร้างพื้นฐานบนท้องถนนได้รับความเสียหาย และสาขาธนาคาร 2 แห่ง ตกเป็นเป้าหมายเล่นงานโดยกลุ่มผู้ประท้วงสวมฮู้ด
นอกจากนี้ ตำรวจในเมืองหลวงยังถูกขว้างปาด้วยขวดน้ำ กระตุ้นให้พวกเขายิงแก๊สน้ำตาสวนกลับไป ตามรายงานของเอเอฟพี พร้อมระบุปิดท้ายว่ากองกำลังด้านความมั่นคงราว 21,000 นาย ถูกสั่งประจำการทั่วฝรั่งเศส เพื่อรับมือกับการชุมนุมในครั้งนี้
(ที่มา : เอเอฟพี)