รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในวันอังคาร (14 พ.ค.) ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนหลายรายการ ในนั้นรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และเซมิคอนดักเตอร์ อ้างว่าเป็นความพยายามปกป้องงานของชาวอเมริกัน ความเคลื่อนไหวที่้เกิดขึ้นก่อนศึกเลือกตั้งจะมาถึงในเดือนพฤศจิกายน
ทำเนียบขาวระบุว่า ความเคลื่อนไหวนี้เป็นการเล็งเป้าหมายเล่นงานอย่างระมัดระวังต่อภาคส่วนยุทธศาสตร์ต่างๆ ในนั้นรวมถึงอะลูมิเนียม เหล็ก แร่สำคัญๆ โซลาร์เซลล์ เครนท่าเรือ และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ขณะที่มาตรการรีดภาษีนี้คิดเป็นมูลค่า 18,000 ล้านดอลลาร์
สหรัฐฯ จะปรับเพิ่มมาตรการจัดเก็บภาษีรถไฟฟ้าจีน 4 เท่า เป็น 100% ในปีนี้ และปรับเพิ่มมาตรการจัดเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม 3 เท่า ส่วนอัตราภาษีของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของจีน จะถูกจัดเก็บเพิ่ม 2 เท่า นับตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ขณะที่ภาษีสำหรับโซลาร์เซลส์ จะถูกปรับขึ้น 2 เท่าเช่นกันในปีนี้ สู่ระดับ 50%
การตัดสินใจดังกล่าวมีความเป็นไปได้ที่จะโหมกระพือสถานการณ์ความตึงเครียดกับจีนให้ลุกลามบานปลาย ซึ่งจนถึงตอนนี้คือซัปพลายเออร์ราคาถูกและรายใหญ่ที่สุดสำหรับเทคโนโลยีสีเขียวหลายๆ เทคโนโลยี ในนั้นรวมถึงรถอีวี และแบตเตอรี่สำหรับรถอีวี
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นตามหลังการทบทวนพิจารณามานานหลายปี ต่อมาตรการรีดภาษีสินค้าจีนมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ ที่กำหนดโดย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น ส่วนหนึ่งในการทำสงครามการค้ากับจีนของเขา ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อเมริกาเปิดเผยว่ารัฐบาลของไบเดน ตัดสินใจคงมาตรการรีดภาษีอื่นๆ เป็นส่วนใหญ่ ที่กำหนดโดยทรัมป์ ไว้ตามเดิม
ลาเอล ไบรนาร์ด ที่ปรึกษาทงเศรษฐกิจของทำเนียบขาว ระบุว่า ความเคลื่อนไหวนี้จะช่วยรับประกันว่าการลงทุนครั้งประวัติศาสตร์ในตลาดงาน ที่กระตุ้นโดยมาตรการต่างๆ ของประธานาธิบดีไบเดน จะไม่ถูกกัดเซาะจากการไหลบ่าเข้ามาอย่างไม่ยุติธรรมของสินค้านำเข้าราคาต่ำจากจีน
วอชิงตันจะเรียกเก็บภาษีเพิ่ม 3 เท่า ต่อแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนของจีน สำหรับรถอีวี เป็น 25% ในปีนี้ และจะใช้มาตรการเดียวกันกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับสินค้าอื่นๆที่ไม่ใช่รถไฟฟ้า ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป ความเคลื่อนไหวที่พวกเจ้าหน้าที่บอกว่าออกแบบมาเพื่อให้เวลาบริษัทต่างๆ ของสหรัฐฯ พัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อ้างว่าความเคลื่อนไหวนี้ไม่เกี่ยวข้องกับศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี "มันไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับการเมือง" อย่างไรก็ตาม ไบเดน ได้ดำเนินการอื่นๆ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ที่ดูเหมือนจะมีเป้าหมายเรียกคะแนนเสียงในหมู่แรงงานสหภาพทั้งหลาย ในความหวังคว้าชัยในเพนซิลเวเนีย ดินแดนอุตสาหกรรมอันเป็นสมรภูมิสำคัญ เช่นเดียวกับรัฐเหวี่ยงอื่นๆ อย่างเช่นมิชิแกน ที่ตั้งของเหล่าผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลาย
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งอ้างว่า อเมริกาไม่ได้พยายามบั่นทอนพัฒนาการของจีนหรือกัดเซาะความพยายามที่ทั้งวอชิงตันและปักกิ่งกำลังหาทางรักษาเสถียรภาพด้านความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติ ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ ไบเดน พบปะกับ สี จิ้นผิง ณ ที่ประชุมซัมมิตหนึ่ง เมื่อเดือนพฤศจิกายน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รายนี้บอกว่ากำลังผลิตของจีนอยู่เหนือระดับตัวเลขประมาณการความเป็นไปได้ของอุปสงค์เป็นอย่างมาก ซึ่งมันจะไหลบ่าท่วมตลาดและบั่นทอนศักยภาพของสหรัฐฯ ในการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการผลิต "มันลดความยืดหยุ่นด้านห่วงโซทางอุปทานของเรา และทำให้เราในทั่วทุกมุมโลกอ่อนแอต่อการบีบบังคับทางเศรษฐกิจ"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามหลังสื่อมวลชนรายงานว่า ไบเดน มีแผนปรับเพิ่มมาตรการรีดภาษีสินค้าจีน ทางปักกิ่งแสดงความคิดเห็นว่า วอชิงตันกำลังพยายามป้ายสีและยับยั้งเศรษฐกิจจีน
ในวันอังคาร (14 พ.ค.) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่า "จีนคัดค้านมาอย่างต่อเนื่องจากการปรับเพิ่มภาษีแต่เพียงฝ่ายเดียว ที่ละเมิดกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก และจะใช้มาตรการต่างๆ ที่จำเป็นในการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อย่างชอบธรรมทางกฎหมายของประเทศ"
บรรดาผู้ผลิตรถยนต์อีวีของจีน เล็งเป้าหมายในตลาดต่างแดนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่จนถึงตอนนี้ยังลังเลที่จะมุ่งเน้นความพยายามในสหรัฐฯ ท่ามกลางความเสี่ยงของการกีดกันทางการค้า
เกรตา เพียสช์ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาทั่วไปของสำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ ระบุว่าการปรับเพิ่มรีดภาษียานยนต์เป็นก้าวย่างที่สำคัญสำหรับรับประกันว่าบริษัทต่างๆ ของอเมริกาจะสามารถแข่งขันได้ในอนาคต
(ที่มา : ไฟแนนเชียลไทม์ส)
