เอเอฟพี - บลิงเคนเดินทางถึงจีนในวันพุธ (24 เม.ย.) ขณะที่อเมริกาพยายามเพิ่มความกดดันปักกิ่งเรื่องการสนับสนุนรัสเซีย และจัดการสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างกัน ด้านผู้เชี่ยวชาญเชื่อจีนจะเลือกประคับประคองความสัมพันธ์ไปก่อนระหว่างที่รอดูผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปลายปีนี้
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จะพบผู้นำจีนที่ปักกิ่งในวันศุกร์ (26 เม.ย.) ซึ่งคาดว่า เขาจะขอให้จีนอดกลั้นต่อไปขณะที่ประธานาธิบดีใหม่ของไต้หวันเตรียมสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเดือนหน้า นอกจากนี้ ยังคาดว่า บลิงเคนจะแสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านการค้าของจีน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญอย่างยิ่งสำหรับประธานาธิบดีโจ ไบเดน เนื่องจากการเลือกตั้งใหญ่ของอเมริกากำลังจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน
บลิงเคนยังมีภารกิจสำคัญในการสร้างเสถียรภาพความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับจีน ซึ่งเห็นได้ชัดว่า สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างกันผ่อนคลายลงนับจากที่เขาเยือนจีนเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และตามด้วยการพบกันระหว่างผู้นำสองประเทศในเดือนพฤศจิกายนที่แคลิฟอร์เนีย ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เห็นพ้องกับข้อเรียกร้องหลายอย่างของวอชิงตัน อาทิ การฟื้นการติดต่อระหว่างกองทัพ
การเยือนครั้งนี้จะเริ่มต้นที่เซี่ยงไฮ้ โดยบลิงเคนจะพบกับนักศึกษาและผู้นำธุรกิจ เพื่อสะท้อนความสัมพันธ์ที่อบอุ่นระหว่างอเมริกากับคนจีน
เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ คนหนึ่งระบุว่า สถานการณ์ระหว่างจีนกับอเมริกาขณะนี้แตกต่างจากเมื่อปีที่แล้วที่ความสัมพันธ์ระหว่างกันตกต่ำสุดขีด และอเมริกาเชื่อว่า ได้แสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่า การจัดการการแข่งขันอย่างมีความรับผิดชอบไม่ได้หมายถึงการละทิ้งมาตรการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ
นอกจากนั้น คณะบริหารของไบเดนยังกระตือรือร้นที่จะจัดการกับจุดยืนที่ขัดแย้งของจีนเพื่อโดดเดี่ยวรัสเซียจากกรณีการรุกรานยูเครนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022
จากเดิมพอใจที่ปักกิ่งไม่จัดหาอาวุธให้มอสโกโดยตรง แต่ช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้วอชิงตันกลับกล่าวหาว่า จีนให้การสนับสนุนทั้งวัสดุอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีแก่รัสเซีย
วอชิงตันยังส่งเสริมให้ผู้นำยุโรปที่รวมถึงนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ของเยอรมนีที่ไปเยือนปักกิ่งเมื่อไม่นานมานี้ ยืนหยัดต่อต้านรัสเซีย โดยเชื่อว่า จีนต้องการความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับตะวันตกระหว่างที่ตนเองต้องโฟกัสการจัดการปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ
บลิงเคนกล่าวภายหลังการเจรจากลุ่มจี 7 ที่อิตาลีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 เม.ย.) ว่า หากจีนต้องการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับยุโรปและประเทศอื่นๆ ก็ต้องไม่ส่งเสริมสิ่งที่เป็นภัยคุกคามใหญ่ที่สุดต่อความมั่นคงของยุโรปนับจากสิ้นสุดสงครามเย็น
ขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใกล้เข้ามาทุกที ซึ่งไบเดนจะต้องล้างตากับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน ประมุขทำเนียบขาวคนปัจจุบันจึงต้องเดินหน้าชนกับจีนในประเด็นขัดแย้งทั้งหมด เดือนนี้ไบเดนกล่าวหาปักกิ่ง “โกง” ในตลาดเหล็กกล้า ทั้งที่จีนเป็นเพียงผู้ส่งออกรายเล็กในตลาดอเมริกา พร้อมประกาศกับสมาชิกสหภาพแรงงานว่า จะขึ้นภาษีศุลกากรเหล็กกล้าจากแดนมังกร
ด้านบลิงเคนกล่าวหาปักกิ่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มุสลิมอุยกูร์ก่อนออกเดินทางเยือนจีนหนึ่งวัน โดยข้อกล่าวหานี้ถูกหยิบยกขึ้นมาครั้งแรกในสมัยทรัมป์ และจีนปฏิเสธมาตลอด
ยุน ซุน นักวิชาการอาวุโสของศูนย์สติมสันในวอชิงตัน มองว่า ผู้นำจีนที่ต้องการโฟกัสเศรษฐกิจในประเทศ เข้าใจว่า คณะบริหารไบเดนไม่มีแนวโน้มมีข่าวดีเกี่ยวกับการค้ามาแจ้งเนื่องจากไม่ส่งผลดีต่อการเลือกตั้ง ดังนั้น ปักกิ่งจะเลือกรอดูสถานการณ์จนกว่าจะรู้ชัดเจนว่า คณะบริหารชุดต่อไปของอเมริกานำโดยใคร และระหว่างนี้จะพยายามรักษาเสถียรภาพความสัมพันธ์กับอเมริกาไปก่อน