การเมืองระหว่างประเทศช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อลากยาวถึงสิ้นปีอยู่ในสภาวะเสี่ยงสูง ต้องดูว่าสงครามที่เป็นอยู่ระหว่างยูเครนกับรัสเซีย อิสราเอลกับปาเลสไตน์ จะสิ้นสุดหรือลุกลามจนน่าหวาดเสียวว่าจะเป็นสงครามระดับภูมิภาคหรือสงครามโลก
ถ้าเป็นสงครามโลกจะเล่นงานกันถึงอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ นี่ก็เป็นคำถามที่น่ากลัวเช่นกัน เหตุการณ์และคำพูดของผู้นำหลายประเทศที่เกี่ยวข้องกับสงคราม 2 สมรภูมินี้บ่งชี้ไปในทางที่เป็นอันตรายมีหลายประเทศเข้ายุ่งด้วย
ผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินไม่มีปัญหาในการชนะเลือกตั้งอีกหนึ่งสมัยและอยู่ต่อในวัย 71 ปี และยังอยู่ในความนิยมของประชาชนกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ในฐานะผู้กอบกู้ความยิ่งใหญ่ของรัสเซียหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตกว่า 20 ปีก่อน
ปัญหาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นการชิงเก้าอี้ทำเนียบขาวระหว่างสองผู้เฒ่า ไม่ว่าใครจะชนะก็ไม่ดีต่อชาวโลก ทั้งประธานาธิบดีคนปัจจุบันนาย โจ ไบเดน และผู้ท้าชิงนายโดนัลด์ ทรัมป์ ต่างมีความผิดปกติด้านความคิด สุขภาพ นโยบาย
นายโจ ไบเดน อยู่ในสภาพเอ๋อ ป้ำๆ เป๋อๆ ในวัย 81 ปี อาการหลงๆ ลืมๆ และเป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลให้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ก่ออาชญากรรมสงคราม จึงสะท้อนเห็นความเลือดเย็น และเวลาอยู่นานของคนมือเปื้อนเลือด
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จึงเป็นความโหดเหี้ยมของผู้นำรัฐบาลและกองทัพอิสราเอล ทำให้ชาวยิวทั่วโลกเดินขบวนประท้วงให้มีการหยุดยิง แต่ทำอะไรไม่ได้ แม้แต่ศาลโลกก็ไม่สามารถบังคับอิสราเอลได้เพราะมีสหรัฐฯ ถือหางอยู่อย่างแนบแน่น
สหรัฐฯ จึงเป็นผู้สนับสนุน สมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชาวปาเลสไตน์ ถูกโดดเดี่ยวเกลียดชังเพิ่มนอกจากปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ สงครามเศรษฐกิจ และความเป็นผู้รุกราน ส่งออกอาวุธอันดับหนึ่งของโลก
ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์ จอมห้าวเป้ง มีคดีอาญามากมายคาศาลอยู่ ก็ประกาศชัดเจนว่าจะเป็นศัตรูต่อไปกับจีนแต่จะหยุดสงครามยูเครนเพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ และนายทรัมป์มีความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำรัสเซีย
แต่ทรัมป์ก็ยังเป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลเต็มที่มีความสนิทสนมเป็นพิเศษกับผู้นำอิสราเอลตั้งแต่ยุคที่เป็นประธานาธิบดีสมัยแรกมีลูกเขยเป็นยิวด้วย
ถ้าทรัมป์ชนะการเลือกตั้งจะให้อิสราเอลฆ่าชาวปาเลสไตน์ต่อไปหรือไม่ต้องรอดู
ทรัมป์ประกาศในการหาเสียงในรัฐโอไฮโอวันก่อนว่า ถ้าตัวเองพ่ายแพ้การเลือกตั้งจะต้องมีการนองเลือดในอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยจะใช้มาตรการภาษีสกัดกั้นการนำเข้ารถไฟฟ้าของจีนสู่ตลาดสหรัฐฯ อย่างรุนแรง
ทรัมป์ประกาศว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสำหรับรถยนต์ของจีนที่ผลิตในเม็กซิโกให้สูงถึง 100% โดยอ้างว่าชาวอเมริกันไม่ได้รับประโยชน์จากค่าจ้างแรงงานเลย
ในยุคทรัมป์ จีนเผชิญกับกำแพงภาษีสำหรับสินค้าบริษัทไฮเทค โทรศัพท์มือถือ สื่อสาร มีเดียต่างโดนเล่นงานถ้วนหน้า มีทั้งเกมสกปรก เช่นการหาเรื่องจับลูกสาวประธานบริษัทหัวเว่ย โดยรัฐบาลแคนาดาถูกใช้เป็นหนังหน้าไฟ สุดท้ายแคนาดาต้องยอมปล่อยตัว
ดังนั้นทรัมป์จึงเน้นสงครามการค้ากับจีนแต่โจ ไบเดนเน้นสงครามด้านอาวุธกับจีนด้วยการสนับสนุนไต้หวันให้แข็งข้อมาโดยตลอด สร้างวิกฤตด้านความสัมพันธ์กับจีนโดยตลอด
ดังนั้นทั้ง 2 ผู้เฒ่าจึงสนับสนุนอิสราเอลและเป็นศัตรูกับจีนเพียงแต่ต่างวิธีการและแนวทางเท่านั้น สิ่งที่แน่นอนก็คือโลกไม่สงบแน่เพราะสหรัฐฯ เป็นนักค้าสงครามอย่างที่รู้ กันอยู่
ความอยากเป็นเจ้าโลกเพียงหนึ่งเดียวจึงขัดแย้งกับความเป็นจริงและแนวโน้มซึ่งปัจจุบันนี้มีชาติมหาอำนาจ 3 ขั้วนอกจากสหรัฐฯ ก็มีจีนและรัสเซียซึ่งมีแสนยานุภาพไม่ต่างกันทางด้านอาวุธและทรัพยากรธรรมชาติ สำหรับการทำสงคราม
ขณะที่ยุโรปซึ่งเป็นมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ขาดแคลนทรัพยากรแทบทุกอย่างและมีสภาวะเศรษฐกิจซบเซาหลังจากสงครามยูเครนที่ไม่ได้เข้าถึงก๊าซธรรมชาติราคาถูกจากรัสเซียอีกต่อไป
แต่โอกาสที่โจ ไบเดน จะชนะการเลือกตั้งมีไม่มาก ความนิยมตกต่ำต่อเนื่องเพราะปัญหาเรื่องความเอ๋อและขีดความสามารถในการรับรู้ซึ่งไม่ยอมให้แพทย์ตรวจสอบ
การให้สัมภาษณ์จำผิดๆ ถูกๆ หลายครั้ง ทำให้คนอเมริกันมองว่าไบเดนชราภาพเกินไปที่จะเป็นผู้นำประเทศอีก 1 สมัย แต่พรรคเดโมแครตก็ไม่มีทางเลือก
ทรัมป์มีคดีอาญาอยู่ จะรอดคุกหรือไม่ยังเป็นปัญหา แต่จะต้องดิ้นรนให้ชนะให้ได้เพื่อให้รอดคดี และรอดคุก มีปัญหากฎหมายให้วินิจฉัยแน่นอน เดโมแครตย่อมไม่ยอม
สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียจึงมีความน่าหวาดเสียว เมื่อผู้นำชาติยุโรป คิดต่างกันด้านความช่วยเหลือยูเครนซึ่งดูอย่างไรก็ไม่ชนะรัสเซีย แต่ก็ไม่ให้ยอมรับความพ่ายแพ้ เพราะแต่ละคนมีเดิมพันสูงสำหรับอนาคตทางการเมือง โดยเฉพาะ โจ ไบเดน
โจ ไบเดนถูกมองว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวอาชญากรรม ลูกชายติดคดีอาญาแบบรอดยาก ตัวเองก็ถูกกระบวนการถอดถอนเพราะประพฤติมิชอบในตำแหน่ง เป็นลูกผีลูกคนเช่นกัน
ไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้นำสหรัฐฯ ก็ไม่ทำให้สถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศดีขึ้น ทรัมป์จะต้องเล่นงานจีนต่อไป จนอาจเกิดสงครามระหว่าง 2 ประเทศขึ้นได้ คนอเมริกันก็ไม่มีทางเลือก เพราะการเมืองเป็นระบบ 2 พรรคใหญ่ ผู้สมัครอิสระแทบไม่มีโอกาสลุ้น
ขณะที่สหรัฐฯ อยู่ในสภาพเสื่อมถอยด้านเศรษฐกิจ ค่าเงินดอลลาร์ และความนิยมในประชาคมโลก รัสเซียกับจีนต่างแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาอาวุธทันสมัย จนถูกมองว่ามีเทคโนโลยีล้ำหน้าสหรัฐฯ ที่มีปัญหาโครงสร้างแทบทุกด้าน
ชาติมหาอำนาจอยู่ได้ด้วยแสนยานุภาพ พิสูจน์ในการสู้รบ ประเทศอื่นๆ อยู่แบบหายใจไม่ทั่วท้องดูว่าจะเข้าข้างฝ่ายใดจึงจะชนะในบั้นปลาย