เนทันยาฮูอ้างเกือบครึ่งของผู้เสียชีวิตในสงครามกาซาเป็นนักรบฮามาส และตัวเลขตายจริงก็น้อยกว่าที่ทางปาเลสไตน์รายงาน พร้อมกับคุยอิสราเอลสามารถรักษาอัตราการตายนักรบ-พลเรือนในระดับ 1:1 ด้านอเมริกาให้ท้ายออกนอกหน้า ยันไม่เชื่อว่า การที่อิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์ในสงครามกาซาเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ให้สัมภาษณ์ในพอดแคสต์ “คอลล์ มี แบ็ก” ที่บันทึกไว้เมื่อวันอาทิตย์ (12 พ.ค.) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตในกาซาทั้งหมดขณะนี้คือประมาณ 30,000 คน ไม่ใช่อย่างน้อย 35,091 คนอย่างที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในกาซาประกาศ
เนทันยาฮูยังยืนยันว่า อิสราเอลสามารถรักษาสัดส่วนการเสียชีวิตระหว่างพลเรือนกับนักรบในอัตรา 1:1 โดยประมาณ กล่าวคือในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 30,000 คน เป็นนักรบราว 14,000 คน และพลเรือนราว 16,000 คน
นายกรัฐมนตรีอิสราเอลเคยให้ตัวเลขนี้ระหว่างให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ข่าวโพลิติโค ของสหรัฐฯ เมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งขณะนั้นกระทรวงสาธารณสุขกาซารายงานยอดผู้เสียชีวิตที่อย่างน้อย 31,045 คน และเนทันยาฮูแจงว่า เป็นนักรบ 13,000 คน บวกกับพลเรือนไม่ถึง 20,000 คน
การแสดงความคิดเห็นล่าสุดเกิดขึ้นขณะที่อเมริกา ซึ่งเป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่กดดันอิสราเอลหนักขึ้นเกี่ยวกับจำนวนชาวปาเลสไตน์ที่สังเวยชีวิตในสงครามกาซาครั้งนี้ โดยวอชิงตันระงับการจัดส่งระเบิดแรงสูง 3,500 ลูก และประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตือนว่า จะยุติการจัดหากระสุนปืนใหญ่และอาวุธอื่นๆ หากอิสราเอลบุกเมืองราฟาห์เต็มอัตราศึก
อย่างไรก็ตาม วันจันทร์ (13 พ.ค.) เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ยืนยันว่า คณะบริหารของไบเดนไม่เชื่อว่า การที่อิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์ในสงครามกาซาเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ซัลลิแวนสำทับว่า อเมริกาต้องการให้ฮามาสพ่ายแพ้ และเสริมว่า ชาวปาเลสไตน์ที่ติดอยู่ในวงล้อมสงครามมีสภาพไม่ต่างไปจากการตกนรก และปฏิบัติการใหญ่ทางทหารของอิสราเอลในราฟาห์จะถือเป็นความผิดพลาด
นอกจากนั้น เขายังแสดงความกังวลกับรายงานที่ว่า ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวโจมตีขบวนรถบรรเทาทุกข์บนเส้นทางที่ไปยังจุดผ่านแดนอีเรซ ทางตอนเหนือของกาซา ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึงสัปดาห์
ซัลลิแวนยังเสริมว่า ไบเดนพยายามโน้มน้าวเนทันยาฮูเกี่ยวกับการทำสงครามในกาซา ทว่า อิสราเอลเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีอธิปไตยและอำนาจตัดสินใจด้วยตนเอง
ทั้งนี้ ท่ามกลางการเรียกร้องจากนานาชาติและองค์กรบรรเทาทุกข์ที่ต้องการให้อิสราเอลละเว้นการบุกภาคพื้นดินเข้าสู่เมืองราฟาห์ทางใต้สุดของฉนวนกาซา ซึ่งมีชาวปาเลสไตน์จากทั่วสารทิศหลบภัยสงครามอยู่กว่าล้านคน ทว่า อิสราเอลยังคงส่งรถถังลึกเข้าไปในพื้นที่ด้านตะวันออกของเมืองนี้และไปถึงเขตที่พักอาศัยบางแห่งเมื่อวันอังคาร
นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นชาวอินเดียเสียชีวิต 1 คนในราฟาห์ หลังจากขบวนรถติดตรายูเอ็นถูกโจมตี ถือเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ต่างชาติของยูเอ็นเสียชีวิตในกาซานับจากที่สงครามระอุขึ้นเมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว
UNRWA ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ของสหประชาชาติ ประเมินว่า มีพลเรือนราว 450,000 คนหนีออกจากราฟาห์นับตั้งแต่วันจันทร์ที่แล้ว (6 พ.ค.) ที่อิสราเอลประกาศให้อพยพออกจากบางพื้นที่ในเมืองนี้ ขณะที่หน่วยงานบรรเทาทุกข์หลายแห่งเตือนว่า เขตมนุษยธรรมที่อัลมาวาซี ซึ่งอิสราเอลกำหนดให้ผู้อพยพจากราฟาห์ไปหลบภัยนั้น นอกจากมีผู้พลัดถิ่นแออัดอยู่แล้ว ยังขาดแคลนระบบสุขาภิบาลและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ
UNRWA โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า พลเรือนปาเลสไตน์อ่อนล้า หิวโหย และหวาดกลัวต่อเนื่องยาวนาน พร้อมย้ำว่า กาซาไม่มีพื้นที่ปลอดภัยอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีชัยค์ โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน อัล-ทานี ของกาตาร์ กล่าวว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลในราฟาห์ขัดขวางความพยายามในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่กาตาร์และอียิปต์เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย แม้การเจรจายังคงดำเนินอยู่ก็ตาม
การสู้รบทั่วฉนวนกาซารุนแรงขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงทางตอนเหนือที่กองทัพอิสราเอลยกพลกลับไปกวาดล้างภาคพื้นดินอีกครั้งในบริเวณที่เคยอ้างว่า กำจัดฮามาสหมดแล้วเมื่อหลายเดือนก่อน โดยอิสราเอลระบุว่า ปฏิบัติการล่าสุดมีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้ฮามาสซ่องสุมกำลังกลับมาก่อความไม่สงบอีก
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)
