เอ๊ะยังไง?? กองทัพอิสราเอลกลับมาถล่มหนักหน่วงทั่วกาซา อ้างพบฮามาสซ่องสุมกำลังใหม่ในจาบาเลีย

อิสราเอลถล่มโจมตีทั่วทั้งฉนวนกาซาในวันอาทิตย์ (12 พ.ค.) รวมทั้งปะทะกับพวกนักรบปาเลสไตน์ในดินแดนเรียวยาวแคบๆ ติดทะเลและทะเลทรายแห่งนี้ โดยรวมถึงหลายพื้นที่ทางตอนเหนือที่อยู่ในสภาพเสียหายย่อยยับ และกองทัพยิวเคยประกาศว่าเข้าเคลียร์เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน ทว่าเวลานี้อิสราเอลอ้างว่าพวกฮามาสฉวยจังหวะที่เกิดสุญญากาศด้านความมั่นคง เพื่อพยายามรวบรวมกำลังอีกครั้ง

ที่ผ่านมาหลายสัปดาห์ อิสราเอลพยายามวาดภาพให้เข้าใจกันว่า เมืองราฟาห์ ที่อยู่ทางตอนใต้สุดของฉนวนกาซา เป็นที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มฮามาส ทั้งนี้เพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่การยกกำลังภาคพื้นดินบุกเมืองนี้ตามเป้าหมายการถอนรากถอนโคนนักรบปาเลสไตน์กลุ่มนี้และช่วยเหลือตัวประกัน

ช่วงหลายวันที่ผ่านมา กองทหารอิสราเอลได้เปิดการปฏิบัติการบุกเข้าราฟาห์ในขอบเขตจำกัด จากนั้นก็มีการขยายพื้นที่กวาดล้างโจมตีมากขึ้นในวันหลังๆ นี้ ทั้งนี้ กองทัพอิสราเอลได้ออกคำสั่งให้พลเรือนในหลายเขตของราฟาห์อพยพไปยัง “พื้นที่มนุษยธรรม” ในอัล-มาวาซี ทางชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือของราฟาห์ ซึ่งมีพลเรือนหลบภัยอยู่แล้วราว 450,000 คน UNRWA หน่วยงานด้านผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ของสหประชาชาติ ระบุว่า ปฏิบัติการบุกแบบ “จำกัด” ของอิสราเอลด้วยการส่งรถถังและทหารเข้าสู่ด้านตะวันออกของราฟาห์ รวมทั้งปิดจุดผ่านแดนที่เป็นเส้นทางสำคัญในการลำเลียงความช่วยเหลือเข้าสู่กาซา ได้ทำให้ชาวปาเลสไตน์ราว 300,000 คนต้องหนีออกจากเมืองดังกล่าวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ก็มีคำเตือนจากอียิปต์ ซึ่งตั้งอยู่ถัดจากราฟาห์ลงไปทางใต้ และมีนโยบายไม่ต้องการให้ชาวปาเลสไตน์หนีตายข้ามเข้าไป ด้วยเหตุผลเกรงว่าจะซ้ำรอยยุทธศาสตร์ซึ่งรัฐยิวเคยใช้ ในการบีบบังคับให้ชาวปาเลสไตน์หลบหนีออกไปลี้ภัยในที่อื่นๆ แล้วอิสราเอลก็เข้ายึดดินแดนที่ปลอดผู้คนจัดตั้งเป็นพื้นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวยิว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อียิปต์กำลังระบุว่า สถานการณ์เวลานี้มีความเสี่ยงที่อาจเกิดการฉีกสนธิสัญญาสันติภาพซึ่งอิยิปต์ทำกับอิสราเอลมาหลายสิบปีแล้ว

สำนักข่าวอัล กาเฮราของทางการอียิปต์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า อียิปต์ปฏิเสธการร่วมมือกับอิสราเอลเพื่อลำเลียงความช่วยเหลือผ่านจุดผ่านแดนราฟาห์ โดยระบุว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และอาจกระทบต่อสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างไคโรกับอิสราเอลที่ดำเนินมานับสิบปีและเป็นหัวใจสำคัญของเสถียรภาพตะวันออกกลาง

ทางด้าน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น เรียกร้องให้หยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมทันที รวมทั้งปล่อยตัวประกันทั้งหมดโดยปราศจากเงื่อนไข และเพิ่มการจัดส่งความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมจำนวนมากเข้าสู่ฉนวนกาซาที่ถูกอิสราเอลปิดล้อมทันที

กูเตอร์เรสสำทับว่า การหยุดยิงจะเป็นจุดเริ่มต้นของการยุติสงครามในกาซา

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศเมื่อวันเสาร์ (11 พ.ค.) ว่า การหยุดยิงจะบรรลุผล “ในวันพรุ่งนี้” ถ้าฮามาสปล่อยตัวประกันที่คุมขังไว้ในกาซาตั้งแต่การโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามครั้งนี้

ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน (10 พ.ค.) ไบเดนย้ำว่า จะไม่จัดหาจัดส่งอาวุธให้อิสราเอลเพิ่ม เพื่อนำไปโจมตีราฟาห์ที่มีชาวปาเลสไตน์หลบภัยอยู่กว่า 1 ล้านคน และสำทับว่า คณะบริหารสหรัฐฯ มีหลักฐานที่ “สมเหตุสมผล” ที่ยืนยันว่า อิสราเอลละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยการปกป้องพลเรือน ซึ่งถือเป็นการวิจารณ์อิสราเอลด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุดนับจากที่สงครามนี้ปะทุขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว

ทว่า อิสราเอลยังคงยืนกรานว่า พยายามหลีกเลี่ยงการทำอันตรายต่อพลเรือน แต่อ้างว่าสาเหตุที่มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตจำนวนมากเป็นเพราะฮามาสกบดานอยู่ในเขตที่อยู่อาศัยที่มีประชาชนแออัด

ขณะเดียวกัน ดูเหมือนสุญญากาศความมั่นคงซึ่งสืบเนื่องจากการที่อิสราเอลยังไม่ได้เสนอแผนการโดยละเอียดในการปกครองกาซาหลังสงคราม แต่คัดค้านแผนการของอเมริกาในการสถาปนารัฐปาเลสไตน์และมอบหมายให้องค์การบริหารปาเลสไตน์เป็นผู้ปกครองกาซา และการที่กาซาไม่มีรัฐบาลในขณะนี้นั้น กลับกลายเป็นการหยิบยื่นโอกาสให้ฮามาสรวบรวมกำลังอีกครั้งแม้ในพื้นที่ที่เคยถูกโจมตีหนักที่สุด

ชาวปาเลสไตน์เผยว่า เมื่อคืนวันเสาร์อิสราเอลโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงต่อค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลีย และเขตที่พักอาศัยเซตุนในเมืองกาซาซิตี้ รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ทางเหนือและตอนกลางของกาซาที่ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างอยู่แล้ว และกองทัพอิสราเอลถอนออกไปตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน

ขณะที่ พล ร.ต.แดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล แถลงเมื่อคืนวันเสาร์ว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้พบกลุ่มฮามาสพยายามรวบรวมกำลังในจาบิเลียและเซตุน และกองทัพกำลังทำลายความพยายามเหล่านั้น

(ที่มา : เอพี, รอยเตอร์, เอเอฟพี)