จอมโหด! เนทันยาฮูยืนยันทัพอิสราเอลจะต้องบุกเมืองราฟาห์ เมินเสียงเตือนกระทั่งจากสหรัฐฯ ว่าจะเกิดหายนะมนุษยธรรม

เนทันยาฮูเมินเสียงเตือนจากนานาชาติ ย้ำต้องเดินหน้าปฏิบัติการบุกภาคพื้นดินเข้าสู่เมืองราฟาห์ ถึงแม้มีเสียงเตือนเสียงคัดค้านกระทั่งจากสหรัฐฯ และชาติตะวันตกอื่นๆ โดยแก้เกี้ยวเพียงออกปากจะจัด “เส้นทางปลอดภัย” ให้พลเรือนปาเลสไตน์อพยพออกจากเมืองดังกล่าว ทว่าไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไร

ในการให้สัมภาษณ์เอบีซีนิวส์ หรือฝ่ายข่าวของเครือข่ายโทรทัศน์เอบีซีของอเมริกา ซึ่งนำมาออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ (11 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ย้ำความตั้งใจในการขยายปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลเข้าสู่เมืองราฟาห์ เมืองใหญ่เมืองสุดท้ายทางใต้ของฉนวนกาซา ก่อนเข้าสู่พรมแดนอียิปต์ ถึงแม้นานาชาติเตือนอันตรายและความหายนะที่จะเกิดกับประชากรชาวกาซา โดยที่เวลานี้คาดหมายกันว่ากว่าครึ่งหนึ่งของผู้คนทั้งหมดราว 2.4 ล้านคนในกาซา กำลังถูกภัยสงครามจากการที่อิสราเอลถล่มโจมตีไม่หยุดมากว่า 4 เดือน ได้อพยพหลบหนีมาอยู่อาศัยกันอย่างแออัดในเมืองแห่งนี้

นายกรัฐมนตรีอิสราเอลให้สัญญาว่า จะจัดหาเส้นทางอพยพที่ปลอดภัยให้แก่พลเรือนปาเลสไตน์ แต่เมื่อถูกถามว่า จะดำเนินการอย่างไร เนทันยาฮูได้แต่ตอบว่า กองทัพกำลังจัดทำแผนการอย่างละเอียด

ที่ผ่านมา ขณะที่กองทหารอิสราเอลเปิดการรุกภาคพื้นดินประสานกับการถล่มโจมตีทางอากาศ ไล่ตั้งแต่บริเวณตอนเหนือของกาซา ลงมาทางตอนกลางและตอนใต้ เมืองราฟาห์กลายเป็นแหล่งหลบภัยใหญ่แห่งสุดท้ายที่ทหารอิสราเอลยังไม่ได้บุกเข้าไปทางภาคพื้นดิน ถึงแม้ได้ถล่มทางอากาศอย่างหนักแทบไม่เว้นแต่ละวันก็ตาม

เนทันยาฮูที่ประกาศว่า ชัยชนะเหนือฮามาสจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าไม่กวาดล้างนักรบฮามาสที่ยังเหลืออยู่ในราฟาห์ ได้สั่งการให้กองทัพเตรียมพร้อมปฏิบัติการภาคพื้นดินบุกเข้าสู่ราฟาห์เมื่อวันศุกร์ (9) จุดชนวนความกังวลแก่ผู้นำและองค์กรบรรเทาทุกข์ทั่วโลก

ซาเมห์ ชูกรี รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ เตือนว่า ปฏิบัติการดังกล่าวจะส่งผลกระทบร้ายแรงมาก และสำทับว่า อิสราเอลมีเป้าหมายในการบีบให้ชาวปาเลสไตน์หลบหนีออกไปจากฉนวนกาซา พร้อมเตือนว่า การที่ชาวปาเลสไตน์ทะลักเข้าสู่อียิปต์จะคุกคามสนธิสัญญาสันติภาพที่ยืนยาวมา 4 ทศวรรษระหว่างอิสราเอลกับอียิปต์

แอนนาเลนา แบร์บ็อก รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า พลเรือนในกาซาไม่สามารถหายตัวไปได้เฉยๆ และสำทับว่า การบุกราฟาห์จะเป็นหายนะด้านมนุษยธรรม

ด้านกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบียเตือนว่า การบุกโจมตีราฟาห์จะส่งผลกระทบรุนแรงมาก และเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดการประชุมฉุกเฉิน

สำหรับ เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อแนวโน้มการบุกราฟาห์ และสำทับว่า สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการหยุดยิงทันทีเพื่อลำเลียงความช่วยเหลือเข้าสู่กาซาและปล่อยตัวประกัน

การสั่งให้กองทัพอิสราเอลเตรียมพร้อมบุกราฟาห์ของเนทันยาฮูยังเกิดขึ้นหลังจากที่แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เพิ่งเดินทางเยือนตะวันออกกลางและอิสราเอลเพื่อผลักดันข้อตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกันอิสราเอลกับนักโทษปาเลสไตน์

ทว่า เนทันยาฮูปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงพร้อมวิจารณ์ว่า ข้อเรียกร้องของฮามาสพิลึกพิลั่น

วอชิงตันซึ่งเป็นพันธมิตรหลักและผู้ให้การสนับสนุนด้านการทหารสำคัญของอิสราเอล ออกมาวิพากษ์วิจารณ์แผนการของเนทันยาฮูอย่างรุนแรง โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เตือนว่า หากไม่มีการวางแผนอย่างเหมาะสม ปฏิบัติการบุกราฟาห์เต็มอัตราศึกเสี่ยงที่จะกลายเป็นหายนะ

นอกจากนั้น เมื่อวันพฤหัสฯ (8 ก.พ.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังวิจารณ์อิสราเอลด้วยถ้อยคำรุนแรงผิดปกติว่า ปฏิบัติการล้างแค้นของอิสราเอลดูจะเกินไปมาก

ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันเสาร์ กองทัพอิสราเอลอ้างว่า ค้นพบเครือข่ายอุโมงค์ซึ่งอยู่ลึกลงไปใต้ด้านจากที่ทำการใหญ่ของสำนักงานผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ของยูเอ็น (UNRWA) ในเมืองกาซาซิตี้ หลังจากก่อนหน้านี้อิสราเอลเคยกล่าวหาเจ้าหน้าที่ 12 คนของหน่วยงานนี้ว่าเกี่ยวข้องกับการโจมตีของฮามาสเข้าไปในดินแดนตอนใต้อิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกาซาครั้งนี้ที่ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขกาซาเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28,064 คนในกาซา ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก

(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)