รอยเตอร์ - ทีมกู้ภัยเตรียมยกชิ้นส่วนแรกของสะพานฟรานซิส สก็อตต์ คีย์บริดจ์ที่ถล่มขึ้นจากก้นแม่น้ำเพื่อให้เรือท้องแบนและเรือลากจูงเข้าถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งถือเป็นขั้นตอนแรกของความพยายามที่ซับซ้อนอย่างยิ่งเพื่อให้สามารถเปิดท่าเรือบัลติมอร์อีกครั้ง
สะพานดังกล่าวถล่มเมื่อเช้าวันอังคารที่แล้ว (26 มี.ค.) ที่ทำให้พนักงานที่ซ่อมพื้นผิวถนนบนสะพานเสียชีวิต 6 คน หลังจากเรือสินค้าขนาดใหญ่ไฟดับและพุ่งชนตอม่อ และปิดกั้นเส้นทางเดินเรือของท่าเรือบัลติมอร์ ซึ่งถือเป็นท่าเรือใหญ่ที่สุดสำหรับการนำเข้ายานยนต์และส่งออกสินค้าเกษตรและอุปกรณ์ก่อสร้างของอเมริกา
เวส มัวร์ ผู้ว่าการรัฐแมรี่แลนด์ แถลงเมื่อวันเสาร์ (30 มี.ค.) ว่า จะมีการตัดโครงสร้างส่วนบนที่เป็นเหล็กกล้าของสะพานทางด้านเหนือของจุดที่เรือชนเพื่อให้สามารถใช้เครนยกขึ้นใส่เรือท้องแบน และนำไปยังศูนย์โลจิสติกส์เทรดพอยต์ แอตแลนติกในนิคมอุตสาหกรรมสแปร์โรว์ พอยต์ที่อยู่ไม่ไกล เพื่อให้สามารถเปิดเส้นทางเดินเรือที่ถูกปิดกั้นได้ชั่วคราว และนำเรือเข้าไปในบริเวณที่เกิดเหตุเพิ่มเพื่อเร่งรัดปฏิบัติการเก็บกู้ อย่างไรก็ดี มัวร์ปฏิเสธที่จะระบุกรอบเวลาในการดำเนินการ
เจ้าหน้าที่จะยังไม่เคลื่อนย้ายชิ้นส่วนโครงสร้างส่วนบนของสะพานที่ค้างอยู่บนหัวเรือต้าหลี่ หรือเรือขนส่งสินค้าความยาวเกือบ 300 เมตรติดธงสิงคโปร์ที่ชนสะพานจนถล่มลงสู่แม่น้ำปาแทปสโก และมัวร์เสริมว่า ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าจะมีการเคลื่อนย้ายเรือลำนี้ออกไปเมื่อใด
ผู้ว่าการรัฐแมรีแลนด์ย้ำว่า การเคลียร์เศษซากสะพานและเปิดเส้นทางเดินเรือของท่าเรือบัลติมอร์เป็นภารกิจที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง
ขณะเดียวกัน มัวร์สำทับว่า ทีมกู้ภัยยังคงระงับการค้นหาร่างคนงานที่เสียชีวิตอีก 4 คน เนื่องจากอันตรายเกินไปที่จะส่งนักประดาน้ำลงไปค้นหาท่ามกลางซากสะพานมากมายใต้น้ำ
พล.ร.ต.แชนนอน กิลเรธ จากหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ทีมเจ้าหน้าที่จากหน่วยยามฝั่ง ทีมกู้ภัยของกองทัพเรือ และหน่วยทหารช่างของกองทัพบกสหรัฐฯ ระบุว่า ต้องเก็บกู้เศษซากสะพานออกจากเส้นทางเดินเรือก่อนจึงจะสามารถเคลื่อนย้ายเรือต้าหลี่ได้
ปฏิบัติการเมื่อวันเสาร์เกี่ยวข้องกับการตัดโครงสร้างส่วนบนของสะพานที่อยู่ด้านเหนือของเส้นทางเดินเรือ และใช้เครนขนาด 160 ตันยกขึ้นเรือท้องแบน นอกจากนี้ ยังมีเครนขนาด 1,000 ตันอยู่ที่บริเวณสะพาน
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (25 มี.ค.) รัฐบาลกลางสหรัฐฯ แถลงว่า จะสนับสนุนเงินฉุกเฉินเบื้องต้น 60 ล้านดอลลาร์ให้รัฐแมรีแลนด์สำหรับการเคลียร์เศษซากสะพานและเริ่มต้นการก่อสร้างสะพานคีย์บริดจ์ใหม่ และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศว่า รัฐบาลกลางจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเหล่านั้นทั้งหมด
นอกจากนั้น คริส แวน ฮอลเลน วุฒิสมาชิกรัฐแมรีแลนด์ ยังเปิดเผยว่า สำนักงานธุรกิจขนาดเล็กได้อนุมัติคำของรัฐสำหรับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อเปิดทางให้บริษัทขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุครั้งนี้ยื่นขอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำฉุกเฉินสูงสุด 2 ล้านดอลลาร์จนถึงสิ้นปี