ปักกิ่งประณามในวันพฤหัสบดี (14 มี.ค.) ว่าวอชิงตันกำลังใช้ “ตรรกะโจร” พร้อมกับประกาศทำทุกทางเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทจีนในต่างแดน หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติท่วมท้น ผ่านร่างกฎหมายมุ่งแบนติ๊กต็อก เว้นแต่แอปแชร์วิดีโอสั้นยอดนิยมแห่งนี้จะยอมตัดขาดจากไบต์แดนซ์ บริษัทแม่ในจีน ภายใน 180 วัน
เมื่อวันพุธ (13) สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติด้วยคะแนน 352 ต่อ 65 เสียง รับรองร่างกฎหมายที่จะบีบให้ติ๊กต็อกตัดขาดจากไบต์แดนซ์ ไม่เช่นนั้นก็จะถูกแบนในอเมริกา จากนั้นก็ส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณาต่อ ซึ่งเป็นที่คาดหมายกันว่าคงไม่ผ่านความเห็นชอบง่ายดายแบบในสภาล่าง เนื่องจากวุฒิสมาชิกบางคนกังวลที่จะใช้มาตรการรุนแรงกับติ๊กต็อกที่มีผู้ใช้ในอเมริกาถึง 170 ล้านคน โดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาวและวัยรุ่น
ขณะที่ทำเนียบขาวแถลงย้ำว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะลงนามรับรองเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมาย หากร่างกฎหมายนี้ผ่านการรับรองจากทั้งสองสภา
ภายใต้ร่างกฎหมายฉบบนี้ ไบต์แดนซ์มีเวลา 180 วันในการขายกิจการติ๊กต็อก ไม่เช่นนั้นแอปยอดนิยมระดับโลกนี้จะถูกแบนในแอปสโตร์ของแอปเปิลและกูเกิลในอเมริกา
มาตรการนี้เป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดในวอชิงตันเพื่อตอบสนองกระแสแอนตี้จีนในหมู่นักการเมืองอเมริกันโดยอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ ไล่ตั้งแต่การแสดงความระแวงสงสัยเกี่ยวกับรถยนต์จีนที่เชื่อมต่อกันไปจนถึงชิปเอไอขั้นสูง ไปจนถึงเครนท่าเรือ ว่าจะมีการแอบส่งข้อมูลไปให้แดนมังกร
ต้นเดือนนี้ หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าวว่า วอชิงตันช่างสรรหาวิธีการใหม่ๆ ออกมาไม่หยุดหย่อนเพื่อกดขี่ข่มเหงปักกิ่งอย่างต่อเนื่อง และรายการแซงก์ชั่นจีนตามอำเภอใจฝ่ายเดียวก็ขยายตัวออกไปไม่รู้จักจบจักสิ้น โดยสิ่งที่อเมริกาต้องการยัดเยียดว่า เป็นอาชญากรรมที่จีนกระทำนั้น กำลังเพิ่มขึ้นจนอยู่ในระดับที่เหลือเชื่อ
ที่ปักกิ่ง เมื่อบ่ายวันพฤหัสฯ (14) เหอ หยาต้ง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน แถลงว่า อเมริกาควรเคารพหลักการเศรษฐกิจตามแนวทางตลาดและการแข่งขันอย่างเป็นธรรม รวมทั้งยุติการปิดกั้นบริษัทต่างชาติอย่างไม่ยุติธรรม และสำทับว่า จีนจะดำเนินมาตรการทุกอย่างเพื่อปกป้องสิทธิ์และผลประโยชน์อันชอบธรรมของชาติ
ขณะเดียวกัน หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่า การลงมติของสภาล่างสหรัฐฯ ขัดแย้งกับหลักการการแข่งขันอย่างเป็นธรรม รวมทั้งกฎเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ
หวังสำทับว่า ถ้าสามารถใช้เหตุผลด้านความมั่นคงของชาติเพื่อปิดกั้นบริษัทต่างชาติที่ประสบความสำเร็จโดดเด่นตามอำเภอใจได้ คงไม่มีความยุติธรรมหลงเหลืออยู่อีกต่อไป
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนยังโจมตีว่า การเห็นคนอื่นมีดีและพยายามแย่งชิงสิ่งนั้นมาเป็นของตัวเองเรียกว่า ตรรกะโจร หวังยังระบุว่า อเมริกาไม่ได้พบหลักฐานว่า ติ๊กต็อกละเมิดความมั่นคง แต่ลุแก่อำนาจในการไล่ล่าบริษัทแห่งนี้
อนึ่ง ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรอเมริกาจะลงมติ ปักกิ่งเตือนว่า การแบนติ๊กต็อกจะกลับมาแว้งกัดอเมริกาเอง
ทางด้านติ๊กต็อกนั้นปฏิเสธมาโดยตลอดว่า ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน รวมทั้งไม่เคยแชร์หรือได้รับการร้องขอให้แชร์ข้อมูลผู้ใช้ในอเมริกาให้แก่รัฐบาลจีน และถึงแม้ได้รับการร้องขอก็จะไม่ยอมปฏิบัติตามเด็ดขาด
โชว ซื่อ ชิว ซีอีโอติ๊กต็อก แสดงความหวังว่า วุฒิสภาสหรัฐฯ จะพิจารณาข้อเท็จจริง รับฟังความคิดเห็นของประชาชน และตระหนักถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงธุรกิจขนาดเล็ก 7 ล้านแห่ง และผู้ใช้ติ๊กต็อก 170 ล้านคนในอเมริกา
โชวยังเรียกร้องให้ผู้ใช้ติ๊กต็อกในอเมริกาออกมาแสดงความคิดเห็น และระบุว่า ร่างกฎหมายนี้จะทำให้บริษัทโซเชียลมีเดียเพียงไม่กี่แห่งมีอำนาจอิทธิพลเพิ่มขึ้น และขัดขวางการสร้างรายได้หลายพันล้านดอลลาร์ของครีเอเตอร์และธุรกิจขนาดเล็ก อีกทั้งยังสร้างความเสี่ยงต่องานกว่า 300,000 ตำแหน่งในอเมริกา
เขาทิ้งท้ายว่า จะพยายามทำทุกทางที่ทำได้ ซึ่งรวมถึงการใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเพื่อปกป้องติ๊กต็อก
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)