สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติท่วมท้นเห็นชอบร่างกฎหมายฉบับหนึ่งในวันพุธ (13 มี.ค.) ที่จะบังคับให้ TikTok ต้องถูกขายพ้นมือบริษัทจีนผู้เป็นเจ้าของ ไม่เช่นนั้นจะถูกแบนจากอเมริกา ความเคลื่อนไหวที่โหมกระพือความไม่พอใจจากปักกิ่ง ที่ออกมาเตือนว่ามันจะย้อนศรกลับไปเล่นงานสหรัฐฯ เอง
ร่างกฎหมายฉบับนี้ก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่แอปพลิเคชันวิดีโอดังกล่าว ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก ท่ามกลางความกังวลต่อกรณีที่มันมีบริษัทจีนเป็นเจ้าของ และความเป็นไปได้ที่มันจะอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของพรรคคอมมิวนิสต์ในปักกิ่ง
เหล่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติ 352 เสียงต่อ 65 เสียง เห็นชอบร่างกฎหมายฉบับนี้ ในความเคลื่อนไหวที่พบเห็นไม่บ่อยนัก ที่แสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันในการเมืองที่เต็มไปด้วยความแตกแยกในอเมริกา
"มติที่เห็นพ้องต้องกันทั้ง 2 พรรคในวันนี้ แสดงให้เห็นว่าสภาคองเกรสต่อต้านความพยายามต่างๆ ของคอมมิวนิสต์จีนที่พยายามสอดแนมและปั่นหัวชาวอเมริกา และส่งสัญญาณถึงความมุ่งมั่นของเราในการขัดขวางเหล่าอริศัตรู" โมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากรีพับลิกันกล่าวหลังการโหวต "ผมเรียกร้องวุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายนี้ และส่งต่อให้ประธานาธิบดี เพื่อที่เขาจะสามารถลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย"
อย่างไรก็ตาม ชะตากรรมของร่างกฎหมายนี้ยังไม่มีความแน่นอน สืบเนื่องจากท่าทีที่ระมัดระวังมากกว่าของวุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งบางส่วนวิตกกังวลต่อความเคลื่อนไหวจัดการเข้มงวดใดๆ กับแอปพลิเคชันที่มีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ มากกว่า 170 ล้านคน
กระนั้นทำเนียบขาวยืนยันว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะลงนามในร่างกฎหมายฉบับนี้ที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "กฎหมายปกป้องชาวอเมริกาจากแอปพลิเคชันที่ควบคุมโดยศัตรูต่างชาติ" เปลี่ยนมันเป็นกฎหมาย ว่ามันถูกส่งต่อมาที่โต๊ะทำงานของเขา
"ร่างกฎหมายจะติดขัดด้วยหนึ่งเหตุผลคือมันคือการแบน" โฆษกของ TikTok ระบุในถ้อยแถลง "เราหวังว่าวุฒิสภาจะพิจารณาบนข้อเท็จจริงต่างๆ ฟังเสียงผู้ใช้งาน และตระหนักถึงผลกระทบที่แท้จริงทางเศรษฐกิจ ธุรกิจขนาดเล็กๆ 7 ล้านราย และชาวอเมริกากว่า 170 ล้านรายที่ใช้บริการของเรา"
มาตรการนี้ซึ่งเพิ่งทวีความเข้มข้นไม่กี่วันที่ผ่านมา บังคับให้ไบท์แดนซ์ บริษัทแม่ของ TikTok ขายแอปพลิเคชันนี้ ภายใน 180 วัน หรือไม่อย่างนั้นจะถูกห้ามจากแอปสโตร์ของแอปเปิลและกูเกิลในสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังให้อำนาจประธานาธิบดีสามารถกำหนดให้แอปพลิเคชันอื่นๆ เป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศเช่นกัน หากว่าแอปเหล่านั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของประเทศหนึ่งซึ่งถูกพิจารณาว่าเป็นศัตรูของสหรัฐฯ
จีนในวันพุธ (13 มี.ค.) ออกมาส่งเสียงเตือนว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ที่มันจะย้อนกลับมาสร้างความเจ็บปวดแก่สหรัฐฯ "แม้อเมริกาไม่เคยพบหลักฐานว่า TikTok คุกคามความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ แต่พวกเขาไม่เคยหยุดปราบปราม TikTok" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าว พร้อมประณามว่ามันเป็นพฤติกรรมข่มเหงรังแก
(ที่มา : เอเอฟพี)