มาคุ! อิหร่านโต้ไม่เกี่ยวโจมตีปลิดชีพทหารสหรัฐฯ แต่กลาโหมมะกันกร้าวจะทำทุกอย่างปกป้องกำลังพล

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเตหะรานเผย อิหร่านมองคำกล่าวหาที่ว่าพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีที่สังหารกำลังพลสหรัฐฯ 3 นาย และได้รับบาดเจ็บกว่า 40 นาย ในทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจอร์แดน ใกล้ชายแดนซีเรีย "เป็นเรื่องไร้สาระ" ในขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมอเมริกา ประกาศกร้าวว่าจะใช้ทุกมาตรการปกป้องกำลังพล แม้รัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดน เน้นย้ำประสงค์เปิดสงครามกับอิหร่าน

นาสเซอร์ คานานี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ระบุในวันจันทร์ (29 ม.ค.) บอกด้วยว่าการที่สหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีในซีเรียและอิรัก เช่นเดียวกับสงครามในกาซา รังแต่จะโหมกระพือวงจรแห่งความไร้เสถียรภาพในภูมิภาคให้ทวีความดุเดือดยิ่งขึ้น

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวโทษกลุ่มติดอาวุธทั้งหลายที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ในเหตุโดรนโจมตีสังหารกำลังพลอเมริกา ซึ่งถือเป็นการโจมตีเข่นฆ่านายทหารสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่สงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสปะทุขึ้นในเดือนตุลาคม และส่งคลื่นความช็อกไปทั่วตะวันออกกลาง

คานานี เน้นย้ำว่ากลุ่มต่อต้านไม่ได้รับคำสั่งจากสาธารณรัฐอิสลาม (อิหร่าน) หลังจากก่อนหน้านี้คณะผู้แทนทูตอิหร่านในสหรัฐฯ เผยแพร่เผยถ้อยแถลงเน้นย้ำว่า "อิหร่านไม่ได้เกี่ยวข้องหรือเกี่ยวพันใดๆ กับเหตุโจมตีฐานทัพอเมริกา" พร้อมระบุ "มีความขัดแย้งระหว่างกองกำลังสหรัฐฯ และกลุ่มต่อต้านในภูมิภาค ซึ่งกระตุ้นการโจมตีตอบโต้แก้แค้นกันไปมา"

เหตุโจมตีโหมกระพือสถานการณ์ลุกลามบานปลายครั้งใหญ่ในความตึงเครียดที่คุกรุ่นอยู่ก่อนแล้วในตะวันออกกลาง ดินแดนที่กำลังเกิดสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในฉนวนกาซา ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการที่พวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาส บุกโจมตีนองเลือดเล่นงานอิสราเอล ในวันที่ 7 ตุลาคม

ซาอุดีอาระเบียในวันจันทร์ (29 ม.ค.) ประณามการโจมตีเล่นงานทหารสหรัฐฯ ในจอร์แดน ด้วยถ้อยคำที่หนักหน่วงที่สุด ในขณะที่จอร์แดน บาห์เรน และอียิปต์ รวมไปถึงอิรัก ก็ประณามการโจมตีดังกล่าวเช่นกัน

กลุ่มติดอาวุธทั้งหลายที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน กำลังก่อการระดมโจมตีเล่นงานเป้าหมายอิสราเอลและสหรัฐฯ จากทั้งเลบานอน เยเมน อิรัก และซีเรีย นับตั้งแต่พวกฮามาส พันธมิตรของพวกเขาเปิดศึกสงครามกับอิสราเอล ขณะที่สหรัฐฯ ได้โจมตีตอบโต้ในอิรัก ซีเรีย และเยเมน แก้แค้นกลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ไปแล้วเช่นกัน

ขบวนการต่อต้านเพื่ออิสลาม (Islamic Resistance Movement) ในอิรัก องค์กรร่วมของพวกกลุ่มติดอาวุธทั้งหลายที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ในวันอาทิตย์ (28 ม.ค.) ออกมาอ้างว่าได้ลงมือโจมตีฐานทัพ 3 แห่ง หนึ่งในนั้นตั้งอยู่ตามแนวชายแดนจอร์แดน-ซีเรีย

รัฐบาลอิรักได้รับการสนับสนุนจากพรรคเมืองต่างๆ และกลุ่มติดอาวุธทั้งหลายที่มีความใกล้ชิดกับอิหร่าน แม้จะไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับพวกกลุ่มหัวรุนแรงที่ยิงใส่กองกำลังสหรัฐฯ ทั้งนี้แม้แบกแดดจะประณามการโจมตี แต่ก็บอกเช่นกันว่าสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคจะลุกลามบายปลายเช่นนี้ต่อไปจนกว่าสงครามในกาซาจะยุติลง

การออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้องของอิหร่าน มีขึ้นในขณะที่ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศกร้าวในวันจันทร์ (29 ม.ค.) ว่าอเมริกาจะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นในการป้องเหล่ากำลังพล ตามหลังเหตุโจมตีสังหารทหารสหรัฐฯ ในจอร์แดน แม้รัฐบาลของไบเดน เน้นย้ำว่าพวกเขาจะไม่เสาะแสวงหาเปิดสงครามกับอิหร่าน

"ผมขอเริ่มด้วยการแสดงความขุ่นเคืองและขอแสดงความเสียใจกับการเสียชีวิตของเหล่านายทหารผู้กล้าหาญของสหรัฐฯ ในจอร์แดน และกับนายทหารท่านอื่นๆ ที่ได้รับบาดเจ็บ" ออสตินกล่าวที่เพตากอน "ประธานาธิบดีและผมจะไม่อดทนต่อการโจมตีกองกำลังสหรัฐฯ และเราจะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นในการปกป้องสหรัฐฯ และกำลังพลของเรา"

"ก็อย่างที่ท่านประธานาธิบดีพูดเมื่อวานนี้ เราจะตอบโต้และการตอบโต้อาจเป็นในหลายระดับ มีขึ้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและต่อเนื่อง" แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่หลายคนทั่วรัฐบาลไบเดนบอกว่าพวกเขาไม่ต้องการเห็นสถานการณ์ลุกลามบานปลาย และทางเพนตากอนเองก็บ่งชี้ว่าอิหร่านไม่ต้องการทำสงครามเช่นกัน

"แน่นอนว่าเราไม่ต้องการเสาะหาสงคราม และพูดตรงๆ เราไม่เห็นว่าอิหร่านจะต้องการเสาะหาสงครามกับสหรัฐฯ เช่นกัน" โฆษกเพนตากอนบอกกับพวกผู้สื่อข่าว ส่วน จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เสริมว่า "เราไม่ต้องการเสาะหาความขัดแย้งหนึ่งใดกับรัฐบาลหนึ่งๆ ในหนทางด้านการทหาร" พร้อมบอกว่าไบเดนกำลังทำการพิจารณาทางเลือกต่างๆ ในแนวทางการตอบโต้

สหรัฐฯ กำลังพยายามหาข้อสรุปว่าทำไมทหารเกือบ 350 นาย ที่ฐานทัพในจอร์แดน ที่รู้จักกันในชื่อทาวเวอร์ 22 ถึงไม่สามารถหยุดการโจมตีของโดรนได้

เจ้าหน้าที่ 2 นายบอกว่าโดรนของสหรัฐฯ ลำหนึ่งบินเข้าใกล้ฐานทัพในช่วงเวลาเดียวกับที่โดรนโจมตีบินเข้ามาพอดี จึงอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด นอกจากนี้ โดรนโจมตียังบินในระดับต่ำ ปัจจัยที่อาจทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นกับฝ่ายป้องกันตนเองของฐานทัพ

ทหารสหรัฐฯ ถูกโจมตีไปแล้วกว่า 160 รอบในอิรัก ซีเรียและจอร์แดน นับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม และเรือรบต่างๆ ก็ถูกเล่นงานในทะเลแดงเช่นกัน โดยที่พวกนักรบของกบฏฮูตีในเยเมน เป็นคนส่งโดรนและยิงขีปนาวุธใส่พวกเขา

เหตุโจมตีครั้งนี้โหมกระพือแรงกดดันทางการเมืองเข้าใส่ ไบเดน ให้จัดการเล่นงานไปที่อิหร่านโดยตรง ก้าวย่างที่เขาลังเลมาช้านาน เนื่องจากเกรงว่ามันจะจุดชนวนสงครามในวงกว้าง

ไบเดน พบปะกับ ออสติน และสมาชิกคนอื่นๆ ในคณะทำงานด้านความมั่นคงของเขา ที่ห้องจับตาสถานการณ์ในทำเนียบขาวเมื่อเช้าวันจันทร์ (29 ม.ค.) เพื่อหารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดของเหตุโจมตี

"ทางเลือกของประธานาธิบดีอาจรวมถึงเล็งเป้าเล่นงานกองกำลังอิหร่านทั้งนอกและภายในอิหร่าน และเลือกโจมตีแก้แค้นอย่างระมัดระวังแบบโดดๆ กับพวกกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตี" ผู้เชี่ยวชาญหลายคนให้ความเห็น

การโจมตีแก้แค้นหรือความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะดำเนินการตอบโต้ใดๆ ส่อโหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งในวงกว้างในตะวันออกกลาง ดินแดนที่กำลังเกิดสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในฉนวนกาซา ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการที่พวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาส บุกโจมตีนองเลือดเล่นงานอิสราเอล ในวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนไป 1,200 ราย

ปฏิบัติการโจมตีแก้แค้นของอิสราเอลในเวลาต่อมา ทำฉนวนกาซาราบเป็นหน้ากลอง สังหารชาวปาเลสไตน์ไปแล้วกว่า 26,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก

(ที่มา : รอยเตอร์)