กองทัพเรืออิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งนอกชายฝั่งโอมาน แก้แค้นในสิ่งที่พวกเขากล่าวหาว่าสหรัฐฯ ขโมยน้ำมันไปจากเรือลำนี้เมื่อปีที่แล้ว ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐในวันพฤหัสบดี (11 ม.ค.) โหมกระพือสถานการณ์ในตะวันออกกลางให้เดือดดาลขึ้นไปอีก
สหรัฐฯ ประณามในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "เป็นการยึดโดยไม่ชอบธรรมตามกฎหมาย" และเรียกร้องอิหร่าน "ปล่อยเรือและลูกเรือลำดังกล่าวในทันที"
คำแถลงนี้มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังจากหน่วยงานด้านความมั่นคงทางทะเแห่งกองทัพเรือสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า มีกลุ่มชายติดอาวุธขึ้นไปบนเรือเซนต์นิโคลัส ประดับธงหมู่เกาะมาร์แชล และมีกรีซเป็นเจ้าของ พร้อมกับเปลี่ยนเส้นทางมันมุ่งหน้าสู่เมืองบันดาร์ อี-จาสก์ ในอิหร่าน
หน่วยปฏิบัติการด้านการค้าทางทะเลของสหราชอาณาจักร (United Kingdom Maritime Trade Operations UKMTO) ระบุว่า "มีรายงานว่า 4 ใน 5 คนที่ขึ้นไปบนเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต สวมชุดยูนิฟอร์มสีดำแบบเดียวกับทหาร พร้อมกับสวมหน้ากากสีดำ"
ในเวลาต่อมา กองทัพเรืออิหร่านยืนยันว่าพวกเขาเป็นคนยึดเรือ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยใช้ชื่อว่า สุเอซ ราจาน "กองทัพเรือแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ยึดเรือบรรทุกน้ำมันของอเมริกาลำหนึ่งในน่านน้ำอ่าวของโอมาน ซึ่งสอดคล้องกับคำสั่งของศาล" สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ สื่อมวลชนอย่างเป็นทางการระบุ
ไออาร์เอ็นเอ บอกว่าการยึดครั้งนี้เป็นการแก้แค้นสำหรับการล่วงละเมิดที่ก่อโดยเรือสุเอซ ราจาน และการขโมยน้ำมันอิหร่านโดยสหรัฐฯ" อนึ่งที่ผ่านมา อิหร่านตอบโต้ด้วยมาตรการตาต่อตาฟันต่อฟัน ต่อเหตุยึดเรือบรรทุกน้ำมันของอิหร่าน
มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่กลับมากำหนดเล่นงานอิหร่านอีกรอบ ตามหลังวอชิงตันถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ครั้งประวัติศาสตร์เมื่อปี 2018 ได้เล็งเป้าเล่นงานการขายน้ำมันและปิโตรเคมีของอิหร่าน ในความพยายามลดการส่งออกพลังงานของอิหร่าน
"รัฐบาลอิหร่านต้องปล่อยเรือและลูกเรือในทันที" เวแดน์ ปาเทล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าว "การยึดเรือพาณิชย์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายครั้งนี้ เป็นแค่หนึ่งในพฤติกรรมล่าสุดของอิหร่านหรือเปิดทางโดยอิหร่าน ที่เล็งเป้าหมายสร้างความปั่นป่วนแก่การค้าระหว่างประเทศ"
แอมเบรย์ บริษัทความมั่นคงทางทะเลแห่งสหราชอาณาจักร บอกว่ากลุ่มคนซึ่งขึ้นไปบนเรือเซนต์ นิโคลัส ได้คลุมกล้องวงจรปิดบนเรือ ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงรายหนึ่ง รายงานว่าได้ยินเสียงไม่สามารถระบุได้ผ่านโทรศัพท์ เช่นเดียวกับเสียงของนายเรือ
เอ็มไพร์ เนวิเกชัน บริษัทบริหารจัดการที่มีสำนักงานในกรีซ ผู้เป็นของเจ้าเรือ เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า ได้ขาดการติดต่อสื่อสารกับเรือ ซึ่งบรรทุกลูกเรือ 19 คน แบ่งเป็นชาวฟิลิปปินส์ 18 คน และกรีซ 1 คน พร้อมระบุเรือลำนี้บรรทุกน้ำมันดิบ 145,000 ตัน จากเมืองบาสรา ของอิรัก และมีจุดหมายที่เมืองอาเลียกา ในตุรกี ผ่านคลองสุเอซ
จากข้อมูลของแอมเบรย์ พบว่าเรือลำนี้เพิ่งเปลี่ยนชื่อใหม่เมื่อไม่นานที่ผ่านมา หลังจากเคยถูกดำเนินคดีและถูกปรับเงินฐานบรรทุกน้ำมันอิหร่านที่โดนคว่ำบาตร และน้ำมันเหล่านั้นถูกอายัดโดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ
สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ อ้างคำกล่าวของสำนักงานประชาสัมพันธ์ของกองทัพเรืออิหร่าน ระบุว่าเรือกำลังถูกโอนย้ายไปยังท่าเรือของสาธารณรัฐอิสลาม เพื่อส่งมอบแก่พวกเจ้าหน้าที่ยุติธรรม
ในเดือนกันยายน สหรัฐฯ เปิดเผยว่าได้ทำการยึดเรือสุเอซ ราจาน และน้ำมันดิบบนเรือ 980,000 บาร์เรล หลายเดือนก่อนหน้านั้น
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวหาในตอนนั้นว่าน้ำมันบนเรือบรรทุกน้ำมันที่บริหารจัดการโดยกรีซ กำลังถูกกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านขายให้แก่จีน
ไม่นานหลังการยึดเรือคราวนั้น อิหร่านได้ทำการยึดบรรทุกน้ำมัน 2 ลำ ประกอบด้วย แอดวานเทจ สวีท ประดับธงหมู่เกาะมาร์แชลล์ ขณะที่มันกำลังล่องอยู่ในอ่าวโอมาน เพื่อมุ่งหน้าสู่สหรัฐฯ และเรือนิโอวิ ที่มีกรีซเป็นเจ้าของ ขณะที่มันกำลังล่องจากดูไบไปยังฟูไจราห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
อ่าวโอมาน เส้นทางเดินเรือสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมัน ที่กั้นระหว่างโอมานกับอิหร่าน ได้พบเห็นเหตุปล้นยึดและโจมตีเรือหลายต่อหลายรอบในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บ่อยครั้งเกี่ยวข้องกับอิหร่าน
ความตึงเครียดล่าสุดนี้เกิดขึ้นในขณะที่การขนส่งทางเรือในภูมิภาคที่อุดมไปด้วยทรัพยากร ได้โหมกระพือหนักหน่วงขึ้น ตามหลังเหตุกบฏฮูตีในเยเมน ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ใช้โดรนและขีปนาวุธ โจมตีเรือต่างๆ ในทะเลแดงต่อเนื่องมานานหลายสัปดาห์ โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ในกาซา ท่ามกลางสงครามระหว่างพวกฮามาสกับอิสราเอลในฉนวนแห่งนี้
(ที่มา : เอเอฟพี)