วอชิงตันโพสต์ชี้อเมริกาซุ่มวางยุทธศาสตร์ใหม่ให้เคียฟ เลิกสนับสนุนชิงดินแดนคืน เน้นป้องกันไม่ให้เสียพื้นที่เพิ่ม

วอชิงตันโพสต์รายงานอเมริกากำลังวางยุทธศาสตร์ใหม่เพื่อนำยูเครนก้าวข้ามการปฏิบัติการโต้ตอบใหญ่ที่ล้มเหลวเมื่อปีที่แล้ว โดยยุติการช่วยเหลือเพื่อชิงดินแดนคืน ให้โฟกัสที่การป้องกันแนวหน้า และทำให้แน่ใจว่า เคียฟจะไม่เสียดินแดนเพิ่มให้มอสโก

ในรายงานข่าวที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (26 ม.ค.) หนังสือพิมพ์ทรงอิทธิพลของอเมริกาฉบับนี้อ้างอิงคำอธิบายของเจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวรายหนึ่งที่บอกว่า คงเป็นการยากที่ยูเครนจะพยายามผลักดันการสู้รบขนาดใหญ่ในทุกแนวรบแบบเดียวกับที่กระทำเมื่อปีที่แล้ว และจากสิ่งที่เกิดขึ้นจากการใช้ความพยายามเช่นนี้ ทำให้ความหวังในขณะนี้ลดระดับลง มาเป็นการทำให้แน่ใจว่า เคียฟจะไม่เสียดินแดนเพิ่มให้มอสโก

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวคนเดิมเพิ่มเติมว่า นี่ไม่ได้หมายความว่า ทหารยูเครนจะนั่งรออยู่ในสนามเพลาะเฉยๆ โดยที่ยังมีแนวโน้มจะเกิดการสู้รบเพื่อช่วงชิงดินแดนในระดับที่เป็นเมืองขนาดเล็กๆ และหมู่บ้านเล็กๆ

วอชิงตันโพสต์รายงานว่า เวลานี้กองทัพยูเครนในแคว้นซาโปริซเซียเตรียมตัวพร้อมแล้วในการเลียนแบบแนวป้องกันของรัสเซีย ซึ่งสามารถหยุดยั้งการรุกของยูเครนในช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว

พวกผู้สนับสนุนตะวันตกยังต้องการให้เคียฟโฟกัสที่การโจมตีกองกำลังรัสเซียด้วยขีปนาวุธจากระยะไกล ซึ่งรวมถึงกองเรือทะเลดำของรัสเซียที่ประจำการอยู่ในไครเมียให้มากขึ้น

ทั้งนี้ ในระยะยาว คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน หวังว่า จะบรรลุการทำข้อตกลงด้านความมั่นคงระยะเวลา 10 ปีกับยูเครน แบบเดียวกับที่เคียฟลงนามกับลอนดอนโดยวอชิงตันวาดหวังว่าจะทำข้อตกลงเช่นว่านี้ได้อย่างเร็วที่สุดภายในฤดูใบไม้ผลิปีนี้

ภายใต้ข้อตกลงที่น่าจะเกิดขึ้นมานี้ วอชิงตันสัญญาจะช่วยปรับปรุงกองทัพ รวมถึงเสริมสร้างฐานอุตสาหกรรมและการส่งออกของยูเครน

อย่างไรก็ตาม แผนการเหล่านี้จะเป็นจริงขึ้นมาได้ ยังขึ้นอยู่กับว่ารัฐสภาอเมริกันจะยอมอนุมัติคำของบประมาณเพิ่มเติม 61,000 ล้านดอลลาร์ของไบเดนหรือไม่

รายงานของวอชิงตันโพสต์ยังระบุว่า คณะบริหารหวังว่า ข้อตกลงระยะยาวกับยูเครนจะทำให้โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเก็งผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงเลือกตั้งในตำแหน่งประธานาธิบดีปลายปีนี้ จะตัดงบความช่วยเหลือยูเครนได้ยากขึ้น หากชนะการเลือกตั้ง

ที่ผ่านมา ทรัมป์วิจารณ์การจัดสรรเงินช่วยเหลือเคียฟอย่างต่อเนื่อง และประกาศว่า ถ้าได้กลับสู่ทำเนียบขาวจะยุติสงครามในยูเครนภายใน 24 ชั่วโมง

สัปดาห์ที่แล้ว ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า คณะบริหารของไบเดนหวังว่า จะได้รับอนุมัติเงินช่วยเหลือมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ก่อนเดือนมกราคม 2025 ท่ามกลางความกังวลว่า ทรัมป์อาจขัดขวางการจัดสรรเงินดังกล่าวหากชนะการเลือกตั้ง

นอกจากนั้น เมื่อวันพฤหัสฯ ที่แล้ว (25 ม.ค.) วอชิงตันโพสต์ยังเสนอรายงานอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งกล่าวว่า ทรัมป์กำลังพยายามบ่อนทำลายความพยายามของรีพับลิกันในการบรรลุข้อตกลงเรื่องพรมแดนเม็กซิโกกับเดโมแครต ซึ่งจะเปิดทางให้รัฐสภาสหรัฐฯ ผ่านงบช่วยเหลือยูเครน

คณะบริหารของไบเดนพยายามมานานหลายสัปดาห์แล้วเพื่อขอให้คองเกรสอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมที่ครอบคลุมเงินช่วยเหลือเคียฟจำนวนกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ ทว่า รีพับลิกันขัดขวาง โดยตั้งเงื่อนไขแลกเปลี่ยนให้ทำเนียบขาวต้องลงมือทำมากขึ้นเกี่ยวกับปัญหาการรักษาความปลอดภัยชายแดนที่ติดกับเม็กซิโก

รายงานระบุว่า สมาชิกรีพับลิกันและเดโมแครตกำลังหารือเพื่อจัดทำข้อตกลงชายแดนแบบประนีประนอม ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับมาตรการที่ทำให้ผู้อพยพขอลี้ภัยยากขึ้น และมีกลไกการปิดพรมแดนเมื่อจำนวนผู้อพยพสูงเกินไป

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวของวอชิงตันโพสต์รายงานว่า มิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา ซึ่งก็คือผู้นำของ ส.ว.ฝ่ายรีพับลิกันเวลานี้ ยอมรับในที่ประชุมแบบปิดเมื่อวันพุธ (24 ม.ค.) ว่า การขัดขวางของทรัมป์ ทำให้อนาคตของข้อตกลงดังกล่าวนี้มีความซับซ้อนยุ่งยากมากขึ้น และเสริมว่า ทรัมป์ต้องการใช้วิกฤตพรมแดนเป็นประเด็นในการรณรงค์หาเสียง

ทรัมป์เตือนสมาชิกรีพับลิกันว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะเท่ากับเป็นการมอบของขวัญให้พวกซ้ายสุดโต่งในเดโมแครต และไม่มีความหมายใดๆ เลยต่อการรักษาความปลอดภัยชายแดน ก่อนสำทับว่า คนอเมริกันสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์นี้ได้โดยการเลือกตนเป็นประธานาธิบดี

(ที่มา : อาร์ที, เอเจนซีส์)