xs
xsm
sm
md
lg

‘จีน’ ดูเหมือนพอใจ ‘พรรค DPP’ แม้ได้เป็น ปธน.ไต้หวันต่อ แต่คะแนนลดฮวบ แถมสูญเสียเสียงข้างมากในสภา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: เดวิด พี. โกลด์แมน ***


รองประธานาธิบดี ไล่ ชิงเต๋อ ที่เป็นผู้สมัครของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ชิงเก้าอี้ประมุขไต้หวัน เข้าร่วมการชุมนุมของพรรคเมื่อคืนวันเสาร์ (13 ม.ค.) ภายหลังทราบผลการนับคะแนนแล้วว่าเขาเป็นผู้ชนะ แม้พรรคได้รับเสียงโหวตลดน้อยลง
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

Taiwan risk assets to rally over election results
By DAVID P. GOLDMAN
15/01/2024

ศึกหนักปะทะกันโหดแน่นอน พรรค DPP ที่มีแนวทางฝักใฝ่ให้ไต้หวันแยกตัวเป็นเอกราช รักษาตำแหน่งประธานาธิบดีเอาไว้ได้ ทว่าพรรค KMT ซึ่งฝักใฝ่แนวทางรวมชาติจีน ได้เก้าอี้มากเป็นอันดับหนึ่งในรัฐสภา



พวกนักวิจารณ์แสดงความเห็นผ่านสื่อ (คอมเมนเตเตอร์) บนแผ่นดินใหญ่ แสดงความพึงพอใจอย่างระมัดระวังกับผลการเลือกตั้งระดับทั่วทั้งเกาะของไต้หวันเมื่อวันเสาร์ (13 ม.ค.) ที่ผ่านมา -ซึ่งนำเอาพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (Democratic Progressive’s Party หรือ DPP) กลับมาครองอำนาจเป็นฝ่ายบริหารอีกคำรบหนึ่ง ทว่าด้วยอาณัติแห่งความเป็นตัวแทนของประชาชนที่ลดจำนวนลงจากเดิมอย่างแรง อีกทั้งสูญเสียเสียงข้างมากของตนที่มีอยู่ในสภานิติบัญญัติ

ผู้ออกเสียงของไต้หวันมอบตำแหน่งประธานาธิบดีให้แก่พรรค DPP ที่เป็นพรรคแนวทางต้องการให้ไต้หวันแยกตัวป็นเอกราช แต่ก็มอบอำนาจยับยั้งวีโต้ทางนิติบัญญัติให้อยู่ในมือของพรรคก๊กมินตั๋ง (Kuomintang) ซึ่งมีแนวทางนิยมการรวมประเทศให้เป็นหนึ่งเดียว

นี่ต้องถือว่าเป็นผลลัพธ์อย่างดีที่สุดที่เป็นไปได้สำหรับไต้หวัน ดินแดนซึ่งพลเมืองไม่ได้ต้องการถูกดูดซับเข้าไปอยู่กับแผ่นดินใหญ่ที่เป็นคอมมิวนิสต์ –ทว่าเวลาเดียวกันนั้นก็ไม่ต้องการเข้าสู่การเผชิญหน้าที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนหากเลือกเดินในหนทางมุ่งสู่การเป็นเอกราช สำหรับปักกิ่งแล้ว การหยุดไต้หวันเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนไปสู่ทิศทางเป็นเอกราช คือเรื่องเบ็ดเสร็จเด็ดขาดที่ไม่สามารถนำมาเจรจาต่อรองอะไรกันได้

พรรค DPP ซึ่งในอดีตเคยดำเนินกโลบายมุ่งไปในทิศทางที่จะเป็นเอกราช เวลานี้อ่อนแอลงไปแล้ว และไม่อยู่ในฐานะที่จะผลักดันเดินหน้าวาระสู่ความเป็นรัฐอธิปไตย

การเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นชัยชนะสำหรับการดำรงสถานะเดิม เนื่องจากอะไรอย่างอื่นนอกเหนือจากการดำรงสถานะเดิม ย่อมเป็นสิ่งที่เลวร้ายกว่าสถานะเดิมทั้งสิ้น มันจึงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว คาดหมายได้ว่าราคาของตราสารออปชันสำหรับประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินดอลลาร์ไต้หวันกับสกุลดอลลาร์อเมริกัน (ซึ่งได้รับการพิจารณาว่าเป็นตัวบ่งชี้ระดับความหวือหวาไม่มั่นใจที่อาจเกิดขึ้นมา) น่าที่จะลดต่ำลงเมื่อตลาดการเงินเปิดทำการในวันจันทร์ (15 ม.ค.)

บลูมเบิร์กนิวส์ (Bloomberg News) แสดงความคิดเห็นเอาไว้ว่า “ชัยชนะของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าที่เป็นพรรคผู้ปกครองอยู่ในเวลานี้ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของไต้หวันเมื่อวันเสาร์ (13 ม.ค.) ที่ผ่านมา สำหรับตลาดการเงินท้องถิ่นแล้ว มันเป็นการนำเอาปัจจัยความไม่แน่นอนหลายๆ ประการออกไปจากสมการ พวกนักวิเคราะห์หลายรายบอก พร้อมกับตั้งข้อสังเกตด้วยว่าจีนแสดงปฏิกิริยาต่อผลการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยการนิ่งเงียบไม่โฉ่งฉ่าง ขณะที่มีโอกาสลู่ทางที่พวกพรรคใหญ่ๆ ของไต้หวันจะมีการร่วมมือกันในเรื่องนโยบาย”
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-01-14/taiwan-election-result-to-force-compromise-in-boost-for-markets?srnd=premium-asia)

ต่อไปนี้คือบทวิจารณ์ซึ่งเผยแพร่โดย “อังเคิล แรบบิต” (ลุงกระต่าย) บล็อกเกอร์ชาวจีนที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ในเว็บไซต์ “ผู้สังเกตการณ์” (Observer) เว็บไซต์ข่าวและความคิดเห็นภาษาจีนแห่งสำคัญมากที่ตั้งฐานอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้:

ในปี 2020 พรรค DPP ได้รับคะแนนโหวตชนิดเสียงข้างมากสมบูรณ์แบบ (57.13%) และสามารถคุยได้ว่าเป็นตัวแทนของมติมหาชน แต่เมื่อถึงปี 2024 จำนวนคะแนนที่ DPP ได้รับลดต่ำลงราว 2.58 ล้านเสียง และส่วนแบ่งคะแนนของพวกเขาก็ต่ำลงมาประมาณ 17% โดยที่ 60% ของผู้ไปใช้สิทธิออกเสียงทีเดียวลงคะแนนคัดค้านไม่เอา DPP ถึงแม้ DPP ยังคงผ่านเข้าเส้นชัยได้แบบจับพลัดจับพลู แต่ก็กลายเป็นคณะบริหารที่มีเสียงข้างน้อยไปเรียบร้อยแล้ว และไม่สามารถอวดอ้างว่าเป็นตัวแทนของมติมหาชนของไต้หวันได้อีกต่อไป

สำหรับพรรคประชาชนไต้หวัน (Taiwan People’s Party หรือ TPP) จู่ๆ ก็ผงาดขึ้นมาเป็นกลุ่มพลังน่าเกรงขามพลังหนึ่ง ทั้งนี้ เคอ เหวินเจ๋อ (Ko Wen-je) ในฐานะเป็นตัวแทนเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรคการเมืองใหญ่อันดับ 3 พรรคนี้ ได้คะแนนโหวตไป 3.69 ล้านเสียง ถือเป็นการทะลุทะลวงอย่างชนิดที่ไม่เคยมีพรรคการเมืองอันดับ 3 ใดๆ ในประวัติศาสตร์ของไต้หวันทำได้มาก่อน พรรคประชาชนไต้หวันได้คะแนนเพิ่มขึ้นมาครั้งนี้ที่สำคัญเลยคือแย่งจากเสียงโหวตของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (สีเขียว) โดยเฉพาะอย่างยิ่งดึงเอาคนวัยหนุ่มสาวมาได้เป็นจำนวนมาก นี่สร้างความอ่อนแอให้แก่รากฐานการเป็นพรรคผู้ปกครองของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า

คะแนนโหวตของพรรคก๊กมินตั๋งก็ถูกพรรคประชาชนไต้หวันช่วงชิงไปจำนวนหนึ่งเหมือนกัน KMT ได้เสียงน้อยลง 850,000 เสียงในปี 2024 นี้เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2020 และส่วนแบ่งของโหวตก็ลดต่ำลงมาราว 5% กระนั้นก็จะได้รับความกระทบกระเทือนน้อยกว่า DPP สมควรที่จะต้องชี้เอาไว้ในที่นี้ด้วยว่า ถึงแม้กลุ่มพันธมิตร “น้ำเงิน-ขาว” [ระหว่างก๊กมินตั๋งที่ใช้สีน้ำเงิน กับพรรคประชาชนไต้หวันที่ใช้สีขาว] ล่มสลายลงไปตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง แต่ข้อเท็จจริงยังคงมีอยู่ว่า ฝ่ายน้ำเงินและขาวมุ่งหาหนทางจับมือกันเพื่อต้านทานฝ่ายเขียว [DPP] และเรื่องนี้ก็เป็นการท้าทายรากฐานความเป็นพรรคผู้ปกครองของ DPP

นี่แสดงให้เห็นว่าช่วงเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ประชาชนชาวไต้หวันมีความไม่พอใจ DPP และการโหวตเพื่อคัดค้าน DPP กลายเป็นมติมหาชนกระแสหลักอย่างแท้จริงไปแล้ว รากฐานความเป็นพรรคผู้ปกครองของ DPP กำลังอ่อนแอลงอย่างสำคัญ และพรรคนี้ไม่สามารถอวดอ้างได้อีกแล้วว่าเป็นตัวแทนเสียงส่วนข้างมากของมติมหาชนของไต้หวัน


“อังเคิล แรบบิต” กล่าวต่อไปว่า ก๊กมินตั๋งผงาดขึ้นมาเป็นพรรคใหญ่ที่สุดในรัฐสภา ซึ่งหมายความว่า “ประชาชนซึ่งมีความโน้มเอียงในแง่บวกต่อจุดยืนและนโยบายต่างๆ ของก๊กมินตั๋ง จึงกำลังมอบหมายอำนาจให้แก่พรรคนี้ในเรื่องการกำกับตรวจสอบ และการทำหน้าที่คอยทัดทานคานอำนาจของพรรค DPP”

น่าสังเกตด้วยวา ตรงกันข้ามกับความคิดเห็นจำนวนมากในโลกตะวันตก พรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่ได้แสดงอาการรีบร้อนที่จะเข้ายึดครองไต้หวันแต่อย่างใด ตราบใดที่เรื่องอำนาจอธิปไตยของไต้หวันยังคงเป็นเรื่องนอกวาระ ปักกิ่งก็ไม่ต้องการที่จะปวดเฮด จากการต้องใช้อำนาจบังคับเพื่อดูดกลืนผสมผสานชาวจีน 25 ล้านคนผู้ซึ่งต้องการที่จะปกครองตนเองต่อไปมากกว่า

ในเวลาเดียวกันนั้น จีนยังคงกำลังได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนต้องการจากเกาะแห่งนี้ การศึกษาชิ้นหนึ่งในปี 2023 ของสถาบันปีเตอร์สันเพื่อเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ (Peterson Institute for International Economics หรือ PIIE หน่วยงานคลังสมองชื่อดังด้านการวิจัยเศรษฐกิจ ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงวอชิงตัน) แสดงให้เห็นว่า การลงทุนภายนอกของไต้หวันถึงเกือบๆ 60% มีทิศทางมุ่งสู่แผ่นดินใหญ่



ขณะที่การประมาณการจำนวนชาวไต้หวันซึ่งกำลังทำงานอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่เวลานี้ มีที่ให้ไว้สูงถึง 2 ล้านคนทีเดียว
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://cepa.org/article/taiwan-a-manchurian-candidate-away-from-disaster/)
กำลังโหลดความคิดเห็น