รัฐเมนประกาศตัดสิทธิโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ให้ลงชิงชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีขั้นต้นแบบไพรแมรีที่รัฐดังกล่าว นับเป็นรัฐที่ 2 ของอเมริกาที่ตัดสินใจแบน ทรัมป์ จากศึกเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ โดยอ้างถึงการที่เขามีส่วนยุยงปลุกปั่นให้ผู้สนับสนุนเข้าไปก่อจลาจลในอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ปี 2021
เชนนา เบลโลว์ส ผู้บริหารของรัฐเมนซึ่งสังกัดพรรคเดโมแครต ระบุวานนี้ (28 ธ.ค.) ว่า ทรัมป์ ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็นผู้สมัครชิงประธานาธิบดีเต็งหนึ่งของรีพับลิกัน มีบทบาทในการยั่วยุและแพร่ข้อมูลเท็จเรื่องการโกงเลือกตั้งในปี 2020 จากนั้นก็ปลุกเร้าให้บรรดาผู้สนับสนุนเดินขบวนเข้าไปในรัฐสภา เพื่อขัดขวางไม่ให้มีการประกาศรับรองชัยชนะของ โจ ไบเดน
“รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ไม่ยินยอมให้มีการโจมตีสิ่งที่เป็นรากฐานของรัฐบาลได้” เบลโลว์ส ระบุในคำตัดสินความยาว 34 หน้ากระดาษ
ทั้งนี้ ทรัมป์ ยังคงสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงแห่งรัฐเมน (Superior Court) และเบลโลว์ส ก็ได้ชะลอการบังคับใช้คำสั่งนี้ไปจนกว่าศาลจะมีคำตัดสินออกมา
ด้านทีมหาเสียงของ ทรัมป์ ประกาศกร้าวว่าจะคัดค้านคำตัดสินที่ “เลวร้าย” (atrocious) นี้
ทีมทนายความโต้แย้งว่า ทรัมป์ ไม่ได้มีส่วนร่วมก่อจลาจล (insurrection) และยังอ้างว่าสิ่งที่เขาพูดกับผู้สนับสนุนในวันเกิดเหตุนั้นได้รับการปกป้องตามหลัก “เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น”
แม้คำพิพากษานี้จะมีผลบังคับใช้เฉพาะกับศึกเลือกตั้งไพรแมรีของพรรครีพับลิกันที่เมน แต่ก็อาจจะกระทบต่อสถานะของ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ช่วงเดือน พ.ย. ปีหน้าด้วย อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อศาลสูงสุดสหรัฐฯ ที่จะต้องวินิจฉัยชี้ขาดว่า ทรัมป์ มีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับการลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกสมัยหรือไม่ โดยอิงกับมาตรา 3 ของบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งที่ 14
ก่อนหน้านี้ ศาลสูงสุดรัฐโคโลราโดได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ว่า ทรัมป์ ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ และไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกผู้สมัครขั้นต้น หรือ “ไพรแมรีโหวต” ได้ ซึ่งคำพิพากษา 4 ต่อ 3 เสียงของศาลสูงสุดรัฐโคโลราโดทำให้ ทรัมป์ กลายเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีคนแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ที่ถูกศาลตัดสินว่าขาดคุณสมบัติเนื่องจากพัวพันกับเหตุจลาจล
ที่มา : รอยเตอร์