เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ลูกหนึ่งในวันอาทิตย์(17ธ.ค.) จากการเปิดเผยของกองทัพโซล ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นไม่นาน หลังสหรัฐฯและเกาหลีใต้เอ่ยปากเตือนว่าการโจมตีทางนิวเคลียร์ใดๆ จะนำไปสู่จุดจบของระบบปกครองของเปียงยาง
"กองทัพของเราตรวจพบขีปนาวุธพิสัยใกล้ ถูกยิงออกมาจากพื้นที่เปียงยาง มุ่งหน้าสู่ทะเลตะวันออก ตอนเวลาประมาณ 22.38 น.(ตรงกับเมืองไทย 20.38น.) ในวันอาทิตย์(17ธ.ค.)" จากการเปิดเผยของเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ อ้างอิงถึงน่านน้ำที่มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าทะเลญี่ปุ่น
ถ้อยแถลงระบุต่อว่าขีปนาวุธพุ่งเป็นระยะทางราวๆ 570 กิโลเมตร ก่อนตกลงสู่ทะเลตะวันออก พร้อมบอกว่าโซล, วอชิงตันและโตเกียว ได้แบ่งปันข้อมูลอย่างใกล้ชิดในเรื่องของขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
การยิงทดสอบครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่โซลและวอชิงตัน ส่งเสียงเตือนเปียงยางว่า การโจมตีทางนิวเคลียร์ใดๆใส่สหรัฐฯและเกาหลีใต้ จะก่อผลลัพธ์คือจุดจบของระบอบปกครองเกาหลีเหนือ
เมื่อวันศุกร์(15ธ.ค.) พันธมิตรทั้ง 2 จัดการประชุมคณะทำงานที่ปรึกษาด้านนิวเคลียร์ (Nuclear Consultative Group - NCG) ของสหรัฐฯและเกาหลีใต้ เป็นครั้งที่ 2 ในวอชิงตัน ซึ่งพวกเขาได้หารือกันเกี่วกับการป้องปรามทางนิวเคลียร์ในกรณีที่เกิดความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือ
โฆษกกระทรวงกลาโหมของเกาหลีเหนือในวันอาทิตย์(17ธ.ค.) ประณามแผนของพันธมิตรทั้ง 2 ที่จะยกระดับการซ้อมรบร่วมหลักประจำปีในปีหน้า โดยจะมีการฝึกซ้อมปฏิบัติการนิวเคลียร์รวมอยู่ด้วย และเตือนต่อการชิงลงมือโจมตีก่อนและการตอบโต้นองเลือด
"นี่คือการประกาศอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการเผชิญหน้าทางนิวเคลียร์ เพื่อทำให้การใช้อาวุธนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือกลายเป็นความจริง" ถ้อยแถลงของสำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ(เคซีเอ็นเอ) ระบุ "ความพยายามใดๆของกองกำลังศัตรู ในการใช้กำลังติดอาวุธกับเกาหลีเหนือ จะต้องเจอกับการชิงลงมือโจมตีก่อนและมาตรการตอบโต้นองเลือด"
กองบัญชาการอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ กล่าวในถ้อยแถลงว่า แม้การทดสอบขีปนาวุธไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อดินแดนของสหรัฐฯหรือพันธมิตรของวอชิงตัน แต่โครงการอาวุธผิดกฎหมายของเกาหลีเหนือนั้น ก่อผลกระทบบั่นทอนเสถียรภาพ "และหน้าที่ของสหรัฐฯ ในการปกป้องเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ยังคงเข็มแข็ง"
การยิงขีปนาวุธครั้งนี้ยังเกิดขึ้นในวาระที่เปียงยางรำลึกครบรอบการถึงแก่อสัญกรรมของอดีตประธานาธิบดีคิม จองอิล บิดาของคิม จองอึน ซึ่งเสียชีวิตในวันที่ 17 ธันวาคม 2011
เมื่อปีที่แล้ว เกาหลีเหนือ ประกาศตนในฐานะมหาอำนาจทางนิวเคลียร์ที่ไม่อาจย้อนกลับได้ และเน้นย้ำว่าพวกเขาจะไม่มีวันละทิ้งโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งทางรัฐบาลมองว่าเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความอยู่รอด
ในเดือนที่แล้ว เปียงยาง ประสบความสำเร็จในการส่งดาวเทียมทหารดวงหนึ่งขึ้นสู่วงโคจร ซึ่งนับตั้งแต่นั้นได้อ้างว่าดวงตาบนท้องฟ้าของพวกเขา ได้มอบภาพถ่ายที่สำคัญที่ตั้งทางทหารหลักๆของสหรัฐฯและเกาหลีใต้
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ผ่านมติหลายต่อหลายมติ เรียกร้องเกาหลีเหนือระงับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ นับตั้งแต่ที่พวกเขาทำการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งแรกในปี 2006
(ที่มา:เอเอฟพี)